World Premiere of Frederique Constant 40Hz pace



นับเป็นการเปิดตัวที่เขย่าวงการนาฬิกาจักรกลอีกครั้งของ Frederique Constant ที่ล่าสุดได้เผยโฉมความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี ในสาขาแห่งการแสดงเวลาอันเที่ยงตรงแม่นยำสูงสุด ด้วยการเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกกับนาฬิกากลไกจักรกลความถี่สูง 40 เฮิร์ตซ์ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน


Frederique Constant Slimline Monolithic Manufacture
Frederique Constant Slimline Monolithic Manufacture
เปิดตัวครั้งแรกในโลกกับการเป็นนาฬิกากลไกจักรกลความถี่สูง 40 เฮิร์ตซ์

Frederique Constant ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาสวิสรายสำคัญ ที่ตอกย้ำถึงบทบาทการเป็นทั้งนักนวัตกรรมและนักสร้างสรรค์เครื่องบอกเวลา ที่ผสมผสานเข้ากับโลกแห่งเทคโนโลยีล้ำสมัยได้อย่างก้าวล้ำและน่าจับตามองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นผลงานก่อนหน้านี้ของการผลิตและเปิดตัวนาฬิกา Horological Smartwatch ขึ้นในปีค.ศ. 2015 ในฐานะเรือนเวลาคอนเนคเต็ด (connected timepiece) สวิสเมดรุ่นแรก ที่มาพร้อมด้วยรูปลักษณ์และงานออกแบบตามต้นตำรับแห่งงานฝีมือการประดิษฐ์นาฬิกาจักรกลสวิสขนานแท้ แต่มีหัวใจภายในเป็นเทคโนโลยีชั้นยอดของนาฬิกาอัจฉริยะ ที่ เฟรเดริก กองสตองต์ (Frédérique Constant) เองทุ่มทุนและทุ่มเทอย่างจริงจังในการร่วมกันพัฒนาระบบปฏิบัติการอันล้ำสมัยสำหรับนาฬิกาข้อมือโดยเฉพาะกับเหล่าพันธมิตรชั้นนำระดับโลก และครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง กับการเปิดตัวครั้งแรกในโลกของนาฬิกาจักรกลขับเคลื่อนด้วย silicon oscillator ซึ่งทำงานด้วยความถี่สูงที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่ 288,000 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 40 เฮิร์ตซ์!

Frederique Constant silicon oscillator หัวใจแห่งนวัตกรรมสำคัญที่นำทางมาสู่การเป็นกลไกจักรกลความถี่สูงสุด
silicon oscillator หัวใจแห่งนวัตกรรมสำคัญที่นำทางมาสู่การเป็นกลไกจักรกลความถี่สูงสุด

ใช่แล้ว คุณไม่ได้ฟังผิด เพราะผลผลิตแห่งนวัตกรรมจักรกลและความก้าวล้ำแห่งเทคโนโลยีครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมนาฬิกา เช่นเดียวกับสำหรับแบรนด์ Frédérique Constant ผู้ซึ่งได้พัฒนาหลักการการควบคุมอัตราการทำงานของนาฬิกาจักรกลขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งบรรจุผลิตผลแห่งความสำเร็จนี้ไว้ในนาฬิการุ่น Slimline Monolithic Manufacture (สลิมไลน์ โมโนลิธิก มานูแฟกเชอร์) ที่เปิดตัวด้วยสมรรถนะของการทำงานด้วยความถี่ ที่เร็วกว่ากลไกจักรกลส่วนใหญ่ถึงสิบเท่า อันเป็นผลลัพธ์มาจากนวัตกรรมงานออกแบบและขนาดที่เล็กลงของ silicon oscillator ซึ่งผ่านการพัฒนาสู่ความถี่สูง พร้อมทั้งติดตั้งอยู่ภายในรูปทรงโครงร่างของกลไกจักรกลตามประเพณีดั้งเดิม ขณะที่ตัวเรือนนาฬิกาเองยังคงความคลาสสิกร่วมสมัย ด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 40.0 มิลลิเมตร นั่นทำให้ Slimline Monolithic Manufacture (สลิมไลน์ โมโนลิธิก มานูแฟกเชอร์) กลายเป็นนาฬิการุ่นแรกในโลก ที่ทำงานด้วยความถี่ 40 เฮิร์ตซ์ และผสมผสานด้วยราคาที่เข้าถึงได้ ตรงตามปรัชญาและความทุ่มเทของแบรนด์ในการรังสรรค์ความหรูหราที่เข้าถึงและครอบครองได้

Frederique Constant ตัวเรือน 40.0 มิลลิเมตรที่ยังคงความบางและมอบความคลาสสิกร่วมสมัย
ตัวเรือน 40.0 มิลลิเมตรที่ยังคงความบางและมอบความคลาสสิกร่วมสมัยให้กับ Slimline Monolithic Manufacture

โดยครั้งนี้ Frédérique Constant ได้จับมือร่วมกับ Flexous (เฟล็กซัส) บริษัทสาขาผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับเครื่องบอกเวลาโดยเฉพาะของ YES!Delft (เยส!เดลฟต์ ) ด้วยความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์กลไกจักรกลที่มีความยืดหยุ่นสูง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับนวัตกรรมอื่นๆ หรือแม้แต่ประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาแต่ดั้งเดิมได้อย่างสอดคล้องสมบูรณ์แบบ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน จากการที่ Peter Stas ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO ของ Frédérique Constant ได้พบกับ Dr Nima Tolou (ดร. นิมา โตลู) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO แห่ง Flexous (เฟล็กซัส) และนำมาสู่ไอเดียการสร้างสรรค์ชิ้นส่วนจักรกลสำคัญที่เรียกว่า Monolithic Oscillator ขึ้นร่วมกัน โดยทีมของ Frédérique Constant ได้มอบหมายให้ Flexous (เฟล็กซัส) เป็นผู้พัฒนาและผลิตระบบออสซิลเลติ้ง (oscillating) หรือการแกว่งของจักรกลที่มีความยืดหยุ่นและมีคุณสมบัติเฉพาะหนึ่งเดียว บวกกับโจทย์ความต้องการทางเทคนิคต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงการผลิตกลไกจักรกลขึ้นด้วยขนาดที่เทียบเท่ากับบาลานซ์ (balance) ตามแบบดั้งเดิม แต่ต้องมีความถี่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมทั้งสำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมง กับสูตรต้นทุนราคาที่รับได้ และสามารถนำเสนอต่อท้องตลาดในราคาที่สมเหตุสมผลอย่างแท้จริง

ช่องหน้าต่างบนหน้าปัดที่ตำแหน่ง 6.00 นาฬิกา เปิดโชว์การทำงานของออสซิลเลเตอร์ความเร็วสูง
ช่องหน้าต่างบนหน้าปัดที่ตำแหน่ง 6.00 นาฬิกา เปิดโชว์การทำงานของออสซิลเลเตอร์ความเร็วสูง

และนั่นเองที่เส้นทางของการสร้างสรรค์และผลิตจักรกล Monolithic Oscillator ได้เริ่มต้นขึ้น โดยผ่านการวิจัย ศึกษา และพัฒนามาอย่างเข้มข้น กระทั่งได้มาเป็นการปฏิวัติแห่งนวัตกรรมการแสดงเวลาอันเที่ยงตรง พร้อมทั้งติดตั้งจักรกลสุดล้ำสมัยนี้ไว้ภายในนาฬิการุ่น Slimline Monolithic Manufacture (สลิมไลน์ โมโนลิธิก มานูแฟกเชอร์) ซึ่ง เฟรเดริก กองสตองต์ ได้แทนที่ชิ้นส่วน 26 ชิ้น ขององค์ประกอบภายในกลไกจักรกลมาตรฐานทั่วไป ด้วยชิ้นส่วนเพียงชิ้นเดียว ซึ่งติดตั้งด้วยตุ้มถ่วงควบคุมสองตัว พร้อมทั้งการออกแบบรูปทรงเรขาคณิตใหม่ของทั้ง flexures (เฟล็กซัส) และตัวถ่วง (masses) ขณะที่ออสซิลเลเตอร์ (oscillator) ด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9.8 มิลลิเมตร และหนา 0.3 มิลลิเมตร นั้นได้ถูกปรับให้เล็กลงตามสัดส่วนเช่นกัน โดยอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สามารถรักษาสัดส่วนของจักรกลได้เหมือนปกตินั้นมาจากการสร้างสรรค์ออสซิลเลเตอร์ที่มีความบางพิเศษจากชั้นซิลิคอนบางๆ แต่ยังคงคุณสมบัติสำคัญด้านฟังก์ชั่นไว้ได้อย่างครบถ้วน รวมถึงผสานเป็นหนึ่งเดียวเข้ากับระบบสมอ (anchor system) และเฟลกเซอร์ ซึ่งตอบสนองไปตามนวัตกรรมการปรับตั้งที่ใช้เพื่อควบคุมเฟลกเซอร์ เหมือนกันกับระบบที่ใช้ในกลไกสปริงบาลานซ์อิสระตามประเพณี โดยคุณสมบัติข้อนี้ช่วยให้ช่างนาฬิกาสามารถปรับตั้งความถี่ได้อย่างละเอียดและง่ายดาย

กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ calibre FC-810 ทำงานด้วยความถี่สูง สำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมง
กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ calibre FC-810 ทำงานด้วยความถี่สูง สำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมง

มาถึงอีกหนึ่งหัวใจของกลไกสุดล้ำยุคนี้ คือออสซิลเลเตอร์ที่ทำมาจากโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอน (monocrystalline silicon) วัสดุที่ช่วยขจัดจุดอ่อนของสปริงบาลานซ์แบบทั่วไปได้อย่างสำคัญ ด้วยเพราะโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนนั้นมีคุณสมบัติของการต้านทานแม่เหล็กได้ 100% ทั้งยังไม่ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิ รวมถึงผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงที่น้อยกว่า ขณะที่มีน้ำหนักเบากว่าชิ้นส่วนปกติถึงสี่เท่า และเพราะแทนที่ด้วยชิ้นส่วนสำคัญเพียงชิ้นเดียวจึงช่วยลดการเกิดแรงเสียดทานให้ต่ำลง ทั้งยังลดการสึกหรอของชิ้นส่วนประกอบต่างๆ ตามมาด้วยอีกหนึ่งผลลัพธ์เด่นคือการใช้พลังงานสำหรับขับเคลื่อนเอสเคปเมนต์วีลและระบบออสซิลเลติ้งที่น้อยลง และสุดท้ายซึ่งสำคัญอย่างยิ่งก็คือ ซิลิคอนนี้ไม่จำเป็นต้องหยอดน้ำมันหล่อลื่น จึงช่วยรักษาระดับความเที่ยงตรงและประสิทธิภาพการทำงานของเอสเคปเมนต์ได้ในระยะยาวยิ่งขึ้น

ฝาหลังกระจกแซฟไฟร์โชว์การทำงานของกลไกจักรกลภายใน และการตกแต่งด้วยงานฝีมือสุดประณีต
ฝาหลังกระจกแซฟไฟร์โชว์การทำงานของกลไกจักรกลภายใน และการตกแต่งด้วยงานฝีมือสุดประณีต

สำหรับพัฒนาการก้าวสำคัญนี้นับเป็นกลไกชุดที่ 30 ของโรงงานการผลิตแห่ง เฟรเดริก กองสตองต์ ที่มีความโดดเด่นและเหนือล้ำกว่ากลไกชุดใดๆ จากการทำงานด้วยความถี่สูงถึง 40 เฮิร์ตซ์ ซึ่งช่างนาฬิกาได้ออกแบบกลไกฐานขึ้นมาใหม่ภายในกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ calibre FC-810 ซึ่งทำงานด้วยความถี่สูง และส่งมอบพลังงานสำรองได้ยาวนาน 80 ชั่วโมง โดยติดตั้งภายใน Slimline Monolithic Manufacture (สลิมไลน์ โมโนลิธิก มานูแฟกเชอร์) นาฬิกาแสดงเวลาแบบสามเข็ม พร้อมการแสดงวันที่ กับความสง่างามคลาสสิกของตัวเรือนทรงกลม ขนาด 40.0 มิลลิเมตร ที่จับคู่ด้วยหน้าปัดแกะลายกิโยเช่ พิมพ์ตัวเลขโรมันบอกชั่วโมง และเข็มชี้สไตล์ Breguet รวมถึงเจาะช่องหน้าต่างบนหน้าปัดที่ตำแหน่ง 6.00 นาฬิกา สำหรับโชว์การทำงานของออสซิลเลเตอร์ความเร็วสูง ส่วนฝาหลังผนึกด้วยกระจกแซฟไฟร์ เผยให้เห็นภาพการทำงานอันงดงามของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ และงานฝีมือการตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างแถบเจนีวา (Geneva stripes) และเพอร์ลาจ (perlage) ไปจนถึงความประณีตของโรเตอร์สเกเลตัน

Frederique Constant Slimline Monolithic Manufacture ในเวอร์ชั่นตัวเรือนสเตนเลสสตีล คู่หน้าปัดสีน้ำเงิน หรือสีเงิน
Frederique Constant Slimline Monolithic Manufacture ในเวอร์ชั่นตัวเรือนสเตนเลสสตีล คู่หน้าปัดสีน้ำเงิน หรือสีเงิน
Frederique Constant Slimline Monolithic Manufacture ในเวอร์ชั่นตัวเรือนพิงค์โกลด์ 18 กะรัต
Frederique Constant Slimline Monolithic Manufacture ในเวอร์ชั่นตัวเรือนพิงค์โกลด์ 18 กะรัต

นาฬิการุ่นนวัตกรรมใหม่ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกนี้มีให้เลือกในสามเวอร์ชั่น คือตัวเรือนสเตนเลสสตีลคู่ด้วยหน้าปัดสีน้ำเงิน ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 810 เรือน และตัวเรือนสเตนเลสสตีลคู่หน้าปัดสีเงิน ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 810 เรือน และอีก 81 เรือน มาพร้อมความหรูหราของตัวเรือนพิงค์โกลด์ 18 กะรัต กับความเอ็กซ์คลูซีฟที่เหมาะสำหรับนักสะสมเรือนเวลาที่หลงใหลในเรื่องราวแห่งนวัตกรรมและประเพณีการสร้างสรรค์ที่แตกต่างนี้โดยเฉพาะ


CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF Frédérique Constant
ART DIRECTOR: Perayut Limpanastitphon


สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn
On Key

Related Posts

“VIJIT CHAO PHRAYA 2024”

VIJIT CHAO PHRAYA 2024

Post Views: 14 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยวไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 จัดงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2024 กระทรวงการท…

Tarot 17 nov

Your Tarot Weekly

Post Views: 22 คำพยากรณ์รายสัปดาห์ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน – วันเสาร์ที่​ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 โดย​ มาดามราเชล วันอาทิตย์ นิสัย​ของดาว : ยศ…

Penthouse Bar + Grill at Park Hyatt Bangkok

Post Views: 6 เพนท์เฮาส์ บาร์ แอนด์ กริลล์ ณ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ เปิดตัวประสบการณ์แฮงค์เอ๊าท์ ‘Reimagined’ สุดเอ็กซ์คลูซีฟ Penthouse Bar + Gril…

Your Tarot Weekly

Post Views: 48 คำพยากรณ์รายสัปดาห์ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน – วันเสาร์ที่​ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 โดย​ มาดามราเชล วันอาทิตย์ นิสัย​ของดาว : ยศ…

Holiday Season – Sunny Fredland

Post Views: 12 ฉลองช่วงเวลาแห่งความสุขสุดพิเศษไปกับ Sunny Fredland Fred (เฟร็ด) เชิญสัมผัสประสบการณ์ในช่วงเทศกาลวันหยุดที่เปล่งประกายด้วยความสดใสจากกา…