MB&F LMX: 10th Year Celebration of Legacy Machines



หนึ่งทศวรรษให้หลัง นับจากการเปิดตัวนาฬิกา Legacy Machines เป็นครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 2011 MB&F ได้เดินหน้าสานต่อเส้นทางแห่งความสำเร็จนี้ ด้วยรุ่นฉลอง 10 ปี สุดพิเศษของ LMX



MB&F LMX ขึ้นแท่นสู่การเป็นอีกหนึ่งผลงานระดับตำนานสมดังชื่อ Legacy Machines ไปแล้ว สำหรับนาฬิกาคอลเลกชั่นหลักของ เอ็มบีแอนด์เอฟ (MB&F) ที่ได้แรงบันดาลใจและตั้งสมญานามด้วยชื่อ Legacy Machines หรือ LM เพื่ออุทิศให้กับมรดกแห่งการสร้างสรรค์เรือนเวลาจักรกลอันน่าอัศจรรย์

MB&F LMX นาฬิกาสองรุ่นพิเศษที่ร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี
MB&F LMX นาฬิกาสองรุ่นพิเศษที่ร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี ของ Legacy Machines

โดยเมื่อ 10 ปี ก่อน แบรนด์นาฬิกาอิสระ MB&F ซึ่งนำโดย Maximilian Büsser ได้นำเสนอเครื่องบอกเวลาจักรกลแห่งจินตนาการ ที่ผสมผสานเข้ากับมรดกและตำนานการสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมนาฬิกา สู่ผลงานรุ่น Legacy Machine No1 หรือเรียกสั้นๆ ว่า LM1 โดยเป็นผลงานรุ่นแรกของคอลเลกชั่นที่ต่อมาได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในหมู่คนรักเรือนเวลาจักรกลและนักสะสมนาฬิกาด้วยคอนเซปต์ รวมถึงแนวคิดการสร้างสรรค์สุดพิเศษ โดยในผลงานรุ่นแรกของ LM1 นั้น MB&F ได้จับมือร่วมงานกับสหายแห่งวงการนาฬิกา อย่าง Jean-François Mojon (ซอง-ฟรังซัวส์ โมจอง) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและวิศวกรรมเรือนเวลา และ Kari Voutilainen ตำนานแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาสุดคลาสสิก

โดยถ่ายทอดผ่านสไตล์อันคลาสสิกร่วมสมัยของตัวเรือนทรงกลมเป็นครั้งแรกสำหรับ MB&F รวมถึงหน้าปัดแล็กเกอร์ ที่เรียกได้ว่าแตกต่างไปจากตระกูล Horological Machines หรือ HM ของแบรนด์ซึ่งมักมาพร้อมรูปทรงแบบสามมิติที่หลากหลายและเหนือจินตนาการ โดยใน LM ยังคงมาพร้อมวิวัฒนาการด้านจักรกลระดับไฮเอนด์อันน่าทึ่ง ที่เป็นผลผลิตมาจากห้องทดลองและสร้างสรรค์เครื่องบอกเวลาของแบรนด์ และนับตั้งแต่ก้าวแรกของการเปิดตัว LM ก็สามารถสร้างรางวัลอันทรงเกียรติบนเวทีใหญ่ๆ ของวงการนาฬิกามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการครองรางวัลจากเวที GPHG (Grand Prix d’Horlogerie de Genève) มาแล้วไม่น้อยกว่าสี่รางวัล

MB&F LMX Legacy Machine No1
Legacy Machine No1 หรือ LM1 รุ่นต้นตระกูลที่เปิดตัวในปี ค.ศ. 2011
Maximilian Büsser แห่ง MB&F ผู้ร่วมบุกเบิกสร้างสรรค์ Legacy Machines เมื่อ 10 ปีก่อน

รวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้กับ Legacy Machines ซึ่งนับรวมไปถึงการยกระดับความสลับซับซ้อนใน LM Perpetual ในปีค.ศ. 2015 ที่บรรจุด้วยปฏิทิน perpetual calendar สุดแม่นยำโดยผ่านการพัฒนาด้านวิศวกรรมขึ้นมาใหม่ ก่อนจะตามมาด้วยการเผยโฉมนาฬิกาที่ออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นสำหรับสุภาพสตรีเป็นครั้งแรกใน LM FlyingT เมื่อปีค.ศ. 2019 ซึ่งเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงและสามารถดึงดูดความสนใจของเหล่าสตรีได้เป็นอย่างมาก และความซับซ้อนสูงสุดจากการผสมผสานการติดตั้งด้วยจักรกล TriAx โดยความร่วมมือของ Eric Coudray ผู้เชี่ยวชาญด้าน Tourbillon หลายแกน ที่พัฒนาสู่ผลงานรุ่น LM Thunderdome เมื่อปีค.ศ. 2019 ซึ่งสร้างสถิติโลกครั้งใหม่ด้วยจักรกล TriAx ที่มีความเร็วสูง นอกเหนือจากการจับมือร่วมกับพันธมิตรมากมายของวงการนาฬิกาแล้ว MB&F ก็ได้เริ่มต้นคิดค้นและพัฒนากลไกจักรกลของตนเองขึ้นควบคู่กันตลอดหนึ่งทศวรรษนี้เช่นกัน ซึ่งนั่นรวมไปถึงผลิตผลชิ้นสำคัญของ LMX engine ที่นับเป็นกลไกคาลิเบอร์ที่หกที่ผ่านการคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยทีมวิศวกรภายในโรงงานของแบรนด์เอง จึงนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สำคัญเพื่อการก้าวไปสู่ยุคใหม่ของแบรนด์อิสระอย่าง MB&F

MB&F LMX คงรักษาต้นฉบับของกระจกหน้าปัดโค้งโดม
LMX คงรักษาต้นฉบับของกระจกหน้าปัดโค้งโดม ที่ด้านใต้บรรจุไว้ด้วย flying balance wheel

และล่าสุดสำหรับปีค.ศ. 2021 นี้ เพื่อร่วมฉลองให้กับโอกาสครบรอบ 10 ปี ของการสร้างสรรค์นาฬิกา Legacy Machines คอลเลกชั่นนี้จึงได้ต้อนรับสมาชิกนาฬิการุ่นพิเศษ พร้อมทั้งคุณสมบัติอันโดดเด่นที่ถอดต้นแบบมาจากนาฬิกา Legacy Machines เรือนแรกมาสู่ LMX ได้อย่างสมบูรณ์กลมกลืน ไม่ว่าจะเป็น กระจกแซฟไฟร์โค้งโดม ที่ภายใต้กระจกนี้ติดตั้งไว้ด้วย flying balance wheel หรือ suspended balance ที่กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคอลเลกชั่นนี้ โดยผ่านการอัปเกรด พร้อมทั้งบรรจุด้วยฟังก์ชั่นการแสดงเวลาสองไทม์โซนแยกจากกันได้อย่างอิสระผ่านหน้าปัดแล็กเกอร์สองวง ซึ่งจัดวางในมุมเอียง 50 องศา จากการพัฒนาเกียร์เฟืองทรงกรวย เพื่อช่วยให้ง่ายต่อการอ่านค่าเวลา เหมือนกับที่เคยสร้างสรรค์มาแล้วภายในรุ่น LM FlyingT สำหรับสุภาพสตรี และ LM Thunderdome แต่ได้นำมาอัปเกรดใหม่โดยการแทนที่สกรูควบคุมก่อนหน้านี้ด้วยตัวบล็อกแรงเฉื่อย และนอกจากนี้ ตัวแสดงแบบแนวตั้ง (vertical indicator) ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกของ LM1 ก็ได้ถูกขยายมาใช้กับการแสดงพลังงานสำรองแบบครึ่งวงกลมสามมิติ โดยเปิดโอกาสให้คุณสามารถเลือกได้ระหว่างสองโหมดของการแสดงพลังงานสำรองคงเหลือทั้งในแบบวันของสัปดาห์หรือแบบสเกลตัวเลข โดยเลือกผ่านการหมุนบนเม็ดมะยมตกแต่งด้วยรูปขวานรบ เพื่อนับเวลาถอยหลังสู่พลังงานสำรองเจ็ดวัน หรือ 168 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความซับซ้อนและประณีตละเอียดอ่อน

MB&F LMX ฝาหลังของ LMX
ฝาหลังของ LMX เปิดโชว์ให้เห็นกลไก โดยเฉพาะกระปุกลานสามตัวที่มอบการสำรองพลังงานได้เจ็ดวัน
MB&F LMX การแสดงพลังงานสำรองแบบแนวตั้ง
การแสดงพลังงานสำรองแบบแนวตั้ง ที่หมุนเลือกโหมดการแสดงได้ระหว่างวันของสัปดาห์หรือสเกลตัวเลข

โดย LMX นี้ตั้งชื่อตามเลขโรมัน X ซึ่งหมายถึง 10 เพื่อสื่อถึงสัญลักษณ์ของการฉลองครบรอบ 10 ปี ของ Legacy Machines และนอกจากนี้ X ยังมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะการเป็นตัวแทนถึงสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้หรือคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งนั่นตรงกับจิตวิญญาณการสร้างสรรค์ตามแบบฉบับของ MB&F ที่มักอยู่เหนือความคาดหมายได้เสมอ รวมถึง X ยังเป็นสัญลักษณ์ถึงจุดบรรจบระหว่างทศวรรษแรกและทศวรรษที่สองแห่งความสำเร็จของ Legacy Machines ในอนาคตต่อไปเช่นกัน

10th Year Celebration of Legacy Machines

เหมือนกันกับการเปิดตัวของ LMX ซึ่งในรุ่นนี้ยังคงรักษาไว้ด้วยการแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของคอลเลกชั่น LM ทั้งการประกอบด้วย flying balance wheel ขนาด 13.4 มิลลิเมตร ไว้ที่ศูนย์กลาง และหน้าปัดสองวงเอียงทำมุม 50 องศา เพื่อแสดงเวลาสองไทม์โซน ทั้งชั่วโมงและนาทีของแต่ละไทม์โซนได้อย่างอิสระ พร้อมด้วยงานตกแต่งอย่างประณีตบนหน้าปัดแล็กเกอร์สีขาว ที่สามารถปรับตั้งเวลาได้ด้วยเม็ดมะยมในแต่ละฝั่ง คือหน้าปัดด้านขวา ปรับตั้งได้โดยเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกา ซึ่งแกะสลักไว้ด้วยสัญลักษณ์รูปขวานรบของ MB&F รวมทั้งใช้สำหรับไขลานกลไก ขณะที่เม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา ซึ่งแกะสลักด้วยรูปโลกบ่งบอกถึงฟังก์ชั่นอันเป็นประโยชน์ของการแสดงเวลาไทม์โซนที่สองนี้จะใช้สำหรับปรับตั้งเวลาบนหน้าปัดทางด้านซ้าย พร้อมทั้งยังคงเผยให้เห็นการทำงานและความซับซ้อนของกลไกผ่านกระจกแซฟไฟร์โดมบนหน้าปัดและกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลัง

ในตัวเรือนเรดโกลด์ 18K เคลือบตกแต่ง NAC
ในตัวเรือนเรดโกลด์ 18K เคลือบตกแต่ง NAC สีดำบนแท่นเครื่องและสะพานจักรผลิตจำนวนจำกัดเพียง 18 เรือน

ภายในนาฬิกา LMX ซึ่งมาพร้อมเวอร์ชั่นตัวเรือนเรดโกลด์ 18K เคลือบตกแต่ง NAC สีดำบนแท่นเครื่องและสะพานจักรจะผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 18 เรือน ส่วนเวอร์ชั่นตัวเรือนไทเทเนียม เกรด 5 เคลือบ CVD สีเขียวบนแท่นเครื่องและสะพานจักรผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 33 เรือน ทั้งสองเวอร์ชั่นนี้มีตัวเรือนขนาด 44.0 มิลลิเมตร และหนา 21.4 มิลลิเมตร และเฉพาะตัวเรือนอย่างเดียวนี้ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนจำนวนถึง 27 ชิ้น โดยจับคู่ลงตัวมากับสายหนังจระเข้เย็บตะเข็บด้วยมือในโทนสีดำสำหรับรุ่นตัวเรือนเรดโกลด์ หรือสีเทาสำหรับรุ่นตัวเรือนไทเทเนียม

LMX engine นับเป็นกลไกคาลิเบอร์ที่หก ที่คิดค้นขึ้นโดยทีมวิศวกรภายในโรงงานของตนเอง
LMX engine นับเป็นกลไกคาลิเบอร์ที่หก ที่คิดค้นขึ้นโดยทีมวิศวกรภายในโรงงานของตนเอง
ในตัวเรือนไทเทเนียม เกรด 5 เคลือบ CVD สีเขียวบนแท่นเครื่องและสะพานจักร มีจำนวนจำกัดเพียง 33 เรือน
ในตัวเรือนไทเทเนียม เกรด 5 เคลือบ CVD สีเขียวบนแท่นเครื่องและสะพานจักร มีจำนวนจำกัดเพียง 33 เรือน

ส่วนภายในติดตั้งด้วยกลไกคาลิเบอร์ที่หก ที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยทีมวิศวกรภายในโรงงานของตนเองอย่างสมบูรณ์ ประกอบด้วยความโดดเด่นทั้งด้านหน้าปัดและด้านฝาหลัง โดยด้านหน้าปัดติดตั้งด้วยเอสเคปเมนท์ เฟืองขนาดใหญ่ และสะพานจักรตกแต่งก้านแขนด้วยงานขัดเงา ที่มอบภาพอันน่าหลงใหลของกลไก ที่ประกอบจากชิ้นส่วนอันซับซ้อนถึง 367 ชิ้น ผ่านการขัดตกแต่งอย่างประณีตทั้งหมด และทับทิมจำนวน 41 เม็ด พร้อมการทำงานด้วยความถี่ 18,000 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 2.5 เฮิร์ตซ์ ขณะที่โครงสร้างของกลไกจักรกลไขลานด้วยมือนี้ยังสามารถชื่นชมได้ผ่านทางฝาหลังนาฬิกา ที่เผยให้เห็นกระปุกลานสามตัว สกรูชาตองทอง และสะพานจักรต่างๆ ซึ่งล้วนผ่านการขัดขึ้นมุม ขัดมุมด้านใน และตกแต่งด้วยลาย Geneva waves หรือ Côtes de Genève รวมถึงลายซันเรย์อย่างประณีตสวยงาม ทรงคุณค่าของการเป็นนาฬิกา MB&F รุ่นพิเศษฉลอง 10 ปี แห่งการสร้างสรรค์ Legacy Machines ได้อย่างสมเกียรติและยิ่งใหญ่


CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF MB&F
MUSIC: www.bensound.com
ART DIRECTOR: Perayut Limpanastitphon


สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn
On Key

Related Posts

Cartier Women’s Initiative

Post Views: 10 โครงการเพื่อสตรีของคาร์เทียร์ ประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 33 คน ประจำปี 2024 ประกาศรางวัลชนะเลิศ ณ เมืองเซินเจิ้น สาธารณะรัฐประชาชนจีน 22 พ…

Tarot-13-April-1

Your Tarot Weekly

Post Views: 82 คำพยากรณ์รายสัปดาห์ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน – วันเสาร์ที่​ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 โดย​ มาดามราเชล วันอาทิตย์ นิสัย​ของดาว : ยศศักดิ์…

From the Heart to the Hands: Dolce&Gabbana

Post Views: 23 Dolce&Gabbana เสนอนิทรรศการ ‘From the Heart to the Hands’ เผยความพิเศษของการการสร้างสรรค์จากแฟชั่นเฮาส์ นิทรรศการ ‘From the Heart t…

Aston Martin DB12 Volante

Post Views: 28 Aston Martin Bangkok เผยโฉมที่สุดแห่งยนตกรรมเปิดประทุน DB12 Volante Super Tourer Aston Martin (แอสตัน มาร์ติน) บริษัทผลิตรถยนต์สปอร์ตหร…

Oligio-thumbnail

Unveiling The Secrets of Youth

Post Views: 45 จะเซลฟี่กี่มุมก็รอด! สะท้อนความงามในเวอร์ชันที่ดีที่สุดของคุณด้วย ‘Oligio’ นวัตกรรมทรีตเมนต์ยกกระชับผิวหน้าและลำคอ สู่มิติความงามเชิงฟื…