รวบตึงจาก Apple Spring Loaded Event! ยกชิป M1 มาใช้บน iPad Pro และ iMac / เปิดตัว iMac โฉมใหม่ในรอบ 10 ปี พร้อมอุปกรณ์จัดเต็ม 7 สีสัน
นับเป็นงานเปิดตัวครั้งใหม่จาก Apple ที่ทำให้แฟน ๆ คึกคักกัน สำหรับ Apple Spring Loaded Event ครั้งนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นการผลัดใบและก้าวเข้าสู่ยุคสมัยรุ่งเรืองของ Apple ภายใต้การนำของ ทิม คุ๊ก (Tim Cook) อย่างแท้จริง ด้วยการนำชิป เอ็มวัน (M1) มาใช้ทั้งบน iPad Pro และ iMac รุ่นใหม่ หลังจากเปิดตัวบน Mac Mini, MacBook Air และ MacBook Pro 13″ มาแล้วเมื่อปลายปีก่อน
ชิป Apple Silicon : M1 Series ขึ้นชื่อเรื่องความแรงและเล็ก ด้วยการรวมทั้ง CPU 4+4Core, GPU 8 Core, Neural Engine, Dram และ Cache มาไว้ในชิปเดียว ทำให้ M1 นับเป็น CPU Core ที่เร็วที่สุดในโลก และมีการประมวลผลกราฟิกที่แรงแบบสุด ๆ แบบที่ CPU Core i9 ของ Intel ยังต้องหลบ และทำให้หลายคนมองว่านี่คือก้าวสำคัญของ Apple ยุคนี้ เหมือนครั้งที่ สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) เคยวางรากฐาน iPhone เอาไว้ในอดีต
งานแถลงข่าวครั้งนี้มีอะไรโดดเด่นบ้าง Padthai.co รวบรวมมาไว้ให้คุณที่นี่แล้ว!
เริ่มกัน iPad Pro ตัวใหม่ที่ทุกคนรอคอย รุ่นล่าสุดนี้รองรับ 5G แล้ว มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว ในดีไซน์เดิม เพิ่มเติมคือชิป Apple M1 ชิป Apple Silicon ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรง แสดงผลกราฟิกได้อย่างยอดเยี่ยม ในขนาดที่บางเฉียบ ไม่ร้อน แถมไม่กินแบตเตอรี่
- อัพเดตพอร์ต USB เป็นแบบ Thunderbolt ให้สามารถเชื่อมต่อข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
- รุ่น 12.9 นิ้ว อัพเกรดหน้าจอเป็น Liquid Retina XDR ที่ค่า Contrast อยู่ที่ 1,000,000:1 คมชัดสะใจแบบสุด ๆ
- มีให้เลือก 5 ความจุ คือ 128g 256g 512g 1TB และความจุสูงสุดถึง 2TB ให้เลือกเป็นครั้งแรก
เปิดให้สั่งซื้อในไทย 30 เมษายน
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ ขนาด 11 นิ้ว 27,900+ บาท , 12.9 นิ้ว 37,900+ บาท
อีกหนึ่งไฮไลต์ของงาน คือการปรับโฉม iMac ในรอบเกือบ 10 ปี โดยหยิบเอาชิพ Apple M1 ตัวแรงมาใช้เช่นกัน นั่นทำให้รูปลักษณ์ของ iMac บางลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีขนาดเพียง 11.5 mm. และหนักเพียง 4.5 kg. เท่านั้น เรียกได้ว่ากะทัดรัดและลงตัวกับทุกพื้นที่
- แบ่งเป็น GPU 7-core และ 8-core
- มีหน้าจอให้เลือกเพียงขนาดเดียวคือ 24 นิ้ว ความละเอียดเรติน่า4.K (11.5M pixels 4480×2520) ความสว่างสูงสุดถึง 500 nits
- มีให้เลือก 7 สีสัน ได้แก่ ฟ้า ม่วง เขียว เหลือง ส้ม ชมพู และเงิน
- มาพร้อม Port Thunderbolt เสียบชาร์ตพร้อมสายแบบถักในสีสันที่เข้ากับตัวเครื่อง รวมทั้งเมจิคคีย์บอร์ด เมจิคเมาส์ และแทร็คแพด ที่มีให้เลือก 7 สีสัน เพื่อให้เข้ากันกับตัวเครื่อง พร้อมความพิเศษบนเมจิคคีย์บอร์ดที่มาพร้อมกับ Touch ID เป็นครั้งแรก เพื่อการเข้าสู่ระบบที่ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
- อัพเกรดกล้อง Facetime HD ความละเอียด 1080p ซึ่งสูงที่สุดเท่าที่ Mac เคยมี เพื่อให้สอดรับกับชีวิตยุค Covid-19 ที่มีการประชุมผ่านวีดีโอมากขึ้น พร้อม ISP ในชิป M1 ที่ช่วยประมวลผลและยกระดับคุณภาพของภาพและวีดีโอขึ้นอีกขั้น
เปิดให้สั่งซื้อ 30 เมษายน และวางจำหน่ายที่หน้าร้านช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม
ราคาเริ่มต้น 7-Core 42,900+ บาท และ 8-Core 49,900+ บาท
และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนตื่นเต้นกัน สำหรับ AirTag อุปกรณ์ที่ใช้ติดตามค้นหาสิ่งของ ที่จะทำให้ปัญหากระเป๋าสตางค์หายหรือหากุญแจบ้านไม่เจอหมดไป เพราะเมื่อมี AirTag ติดไว้ นอกจากคุณจะสามารถสั่งให้ลำโพงในตัวของ AirTag ส่งเสียงได้ ยังสามารถค้นหาจากพิกัดบน Find My ได้อย่างแม่นยำ
- สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone11 ขึ้นไปได้ทุกรุ่น รวมทั้งบน Apple Watch และสามารถขอความช่วยเหลือจากiPhone เครื่องอื่นที่ใช้คนละ Apple ID ได้อีกด้วย นั่นหมายถึงการค้นหาที่แม่นยำระดับสูงโดยอาศัยเครือข่ายผู้ใช้ iOS โดยรอบ
- ปลอดกังวลเรื่องโดนสะกดรอยตาม เพราะ AirTag มีระบบออกแบบเพื่อป้องกันการติดตามที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้คุณรู้ได้ทันทีหากมี AirTag ของคนอื่นติดตัวไปกับคุณ
- กันน้ำและสามารถใช้ได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี และจะมีแจ้งเตือนบอกเมื่อต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่
- สามารถสลักชื่อหรืออีโมจิได้ในหลากหลายภาษาตามใจคุณ
- พวงกุญแจและสายห้อยหนังสำหรับสวมใส่เพื่อใช้ในลักษณะต่าง ๆ ในชื่อ AirTag Hermès ได้รับการรังสรรค์โดยช่างฝีมือในฝรั่งเศส โดยมีให้เลือกระหว่างหนัง Barénia แบบดั้งเดิม หรือหนัง Swift เนียนนุ่ม โดดเด่นด้วยการเย็บเดินเส้นแบบเดียวกับอานม้า และมาพร้อม AirTag Hermès สุดพิเศษที่มีการสลักตรา Clou de Selle (กลู เดอ แซล) อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Hermès
AirTag ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ชิ้นละ 990 บาท และแบบพร้อมสายหนัง Hermès เริ่มต้นที่ 9,900 บาท
ส่วน iPhone 12 และ iPhone 12 Mini สีม่วงนี้ มาตามคำเรียกร้อง ด้วยสเป็คเดิม เพิ่มเติมคือสีม่วง! เปิดให้จองล่วงหน้า 23 เมษายนนี้ และวางจำหน่ายเป็นทางการ 30 เมษายนนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 25,900+ บาท
ปิดท้ายกันที่ AppleTV 4K HDR ใหม่ที่มีการอัพเดต Apple TV Remote แบบใหม่เพื่อให้สามารถใช้งานแทร็คแพดได้สะดวกสบายขึ้น โดยขยับปุ่มสั่งการสิริไปอยู่ด้านข้างแทนเพื่อการควบคุมที่แม่นยำ
รวมทั้งชิป A12 Bionic ที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพโทรทัศนของคุณอีกขั้นด้วยระบบภาพและเสียงสุดสมจริง Dolby Vision และ Dolby Atmos1 ที่เนรมิตห้องนั่งเล่นบ้านคุณให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์ รวมทั้งสามารถปรับแสงผ่านไอโฟนได้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,700 บาท เท่านั้น
สามารถอ่านคอนเทนต์เกี่ยวกับ Lifestyle ที่น่าสนใจได้ที่
- Porsche The New Taycan สปอร์ตซาลูนไฟฟ้าน้องใหม่ เปิดจองแล้วที่งาน Motor Show 2021
- Aston Martin: หรู หล่อ เท่ เกินคำบรรยาย กับรุ่น Vantage, DB11, DBX และการเข้าร่วม Formula 1 ที่ Bahrain
- รวมไฮไลต์ E-Class รุ่นล่าสุดจากบูท Mercedes-Benz ในงาน Motorshow 2021
- MINI Paddy Hopkirk Edition ดีไซน์พิเศษฉลองตำนานแห่งชัยชนะ “Paddy Hopkirk”
- Car mascot มิ่งขวัญรถของสะสมชิ้นโปรดจากรถยนต์รุ่นเก๋า