หากจะกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแห่งนาฬิกาสีเขียวก็คงไม่แปลกนัก เพราะนับจากนี้ คุณจะได้เห็นนาฬิกาตกแต่งด้วยธีมและโทนสีเขียวกันมากขึ้น และนี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของบรรดานาฬิกาคอนเซ็ปต์สีเขียวที่เปิดตัวจากงาน Watches and Wonders Geneva 2021 ซึ่งปีนี้ยังคงจัดขึ้นในรูปแบบ Digital Event ตลอดช่วงหนึ่งสัปดาห์ของวันที่ 7 – 13 เมษายนที่ผ่านมา ไปชมกันเลยว่าแบรนด์ใดมีนาฬิกาสีเขียวสวยเด่นโดนใจกันบ้าง
Green Watches: Color of The Year 2021
![Green Watches: Baume & Mercier Classima](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_01.jpg)
Baume & Mercier Classima (โบม แอนด์ แมร์ซีเยร์ คลาสสิมา)
Green Watches: Color of The Year 2021 เปิดตัวด้วยนาฬิกาสีเขียวสองโมเดลใหม่ กับตัวเรือน 31.0 และ 42.0 มิลลิเมตร ทำจากสเตนเลสสตีลขัดเงา และฝาหลังแบบทึบเพื่อปกป้องกลไกควอตซ์ คู่ด้วยหน้าปัดสีเขียวสง่างาม ตกแต่งด้วยลายขัดซาตินดวงอาทิตย์ทำให้เกิดเฉดสีเขียวอ่อนไล่ไปถึงจนถึงสีเขียวเข้ม รวมถึงเจาะช่องหน้าต่างบอกวันที่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ตัดกับเข็มชี้ทรงใบไม้และตัวเลขโรมันบอกชั่วโมงชุบโรเดียม มาพร้อมสายโลหะหรือสายหนังสามารถถอดเปลี่ยนสายได้ง่ายดายและรวดเร็ว
![Green Watches: Cartier Tank Must](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_02-1024x969.jpg)
Cartier Tank Must (คาร์เทียร์ แทงก์ มัสต์)
นาฬิกาคอลเลกชันใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Tank watch ผลงานสร้างสรรค์ของ Cartier นับจากปี 1917 สู่งานออกแบบที่ผสมผสานระหว่างสองไอคอนของแบรนด์ ทั้ง Tank และ Must ในปี 1977 ที่นอกจากดีไซน์แห่งวิวัฒนาการอันสวยเด่นแล้ว ยังเติมเต็มไว้ด้วยเสน่ห์แห่งสีสันที่เรียกได้ว่าเป็น DNA ของแบรนด์ โดยเฉพาะความโดดเด่นของสีเขียวบนหน้าปัดแล็กเกอร์ ตกแต่งแบบเรียบง่าย ไร้ตัวเลขโรมันหรือสเกลแบบรางรถไฟ ไปจนถึงสายหนังสีเขียว ส่วนภายในติดตั้งด้วยการทำงานของกลไกควอตซ์
![Green Watches: Chopard Imperiale](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_03-1.jpg)
Chopard Imperiale (โชปารด์ แอ็มเปรียาล)
ความสง่างามและความเป็นผู้หญิงที่เป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชัน Imperiale ในปีนี้เผยโฉมคู่กับหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีเขียวพร้อมทั้งลวดลายอันเป็นธรรมชาติ และงานฝีมือการตกแต่งลวดลาย IMPERIALE ที่จับคู่ลงตัวมากับสายหนังสีเขียวเงาวาว ภายใต้ความสง่างามของตัวเรือนโรสโกลด์ 36.0 มิลลิเมตร ประดับเพชรบนขอบตัวเรือน ส่วนเม็ดมะยมตกแต่งด้วยเพชร และภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ เปิดโชว์การทำงานผ่านฝาหลังกระจกแซฟไฟร์
![Green Watches: IWC Pilot's Watch Chronograph 41](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_04-1-1024x969.jpg)
IWC Pilot’s Watch Chronograph 41 (ไอ ดับบลิว ซี ไพล็อตส์ วอท์ช โครโนกราฟ 41)
เปิดตัวด้วยรุ่นใหม่ของนาฬิกานักบินโครโนกราฟ ที่มาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 41.0 มิลลิเมตร และมีให้เลือกกับหน้าปัดสีเขียวใหม่ ตอกย้ำถึงพัฒนาการของคอลเลกชันที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 85 ปี รวมถึงบรรจุไว้ด้วยนวัตกรรมกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติผลิตจากโรงงานของตนเองใน IWC-manufactured 69385 calibre ซึ่งสามารถมองเห็นได้ผ่านฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ และมาพร้อมประสิทธิภาพการกันน้ำได้ลึก 100 เมตร ติดตั้งด้วยสายระบบ EasX-CHANGE ใหม่ทำให้สามารถเปลี่ยนสลับกับสายที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งสายหนังวัว สายยาง หรือสายสเตนเลสสตีล
![Green Watches: Jaeger-LeCoultre Reverso Tribute Small Seconds Green](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_05-1-1024x929.jpg)
Jaeger-LeCoultre Reverso Tribute Small Seconds Green (เจเกอร์ เลอกูลทร์ เรแวร์โซ ทรีบิวท์ สมอลล์ เซกันด์ กรีน)
นับตั้งแต่สร้างสรรค์ขึ้นในปี 1931 เรือนเวลา Reverso ก็เป็นที่จดจำได้ทันที และกลายเป็นคอลเลกชันต้นตำรับยอดนิยมตลอดกาลของแบรนด์ ซึ่งปีนี้ได้สมทบด้วยความโดดเด่นของหน้าปัดสีเขียว ตกแต่งด้วยงานแล็กเกอร์และขัดด้านซันเรย์ ที่จับคู่ลงตัวเข้ากับสายหนังวัวสีเขียวเข้ม ชวนให้นึกถึงป่าสนเขาที่รายล้อมโรงงานการผลิตของแบรนด์ ณ Vallée de Joux (วัลเล่ย์ เดอ ชูส์) คงเอกลักษณ์ของการตกแต่งหน้าปัดและตัวเรือนพลิกกลับด้านได้ โดยด้านหลังสามารถแกะสลักด้วยข้อความหรือลวดลายเฉพาะบุคคล พร้อมทั้งบรรจุภายในด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า Jaeger-LeCoultre Calibre 822/2 แยกแสดงวินาทีเล็ก และสำรองพลังานได้ 42 ชั่วโมง ในตัวเรือนสตีลที่บางเพียง 8.5 มิลลิเมตร
![Oris Divers Sixty-Five 'Cotton Candy'](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_06.jpg)
Oris Divers Sixty-Five ‘Cotton Candy’ (โอริส ไดฟเวอร์ส ซิกตี้-ไฟว์ ‘คอตต้อน แคนดี้’)
เปลี่ยนลุคนาฬิกาดำน้ำด้วยหน้าปัดสีสันใหม่ รวมถึงเทรนด์ของสีเขียวที่รุ่นนี้มาพร้อมสี wild green ในตัวเรือน 38.0 มิลลิเมตร ทำจากบรอนซ์ ส่วนขอบตัวเรือนปรับหมุนได้ทิศทางเดียวทำจากบรอนซ์และสเกลนาทีแบบนูน ฝาหลังเป็นสเตนเลสสตีลแกะสลักพิเศษ พร้อมการขับเคลื่อนของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Oris 733
ด้วยมาตรฐานเดียวกับนาฬิกาดำน้ำในคอลเลกชันนี้ทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงการปกป้องด้วยกระจกแซฟไฟร์โค้งโดม และกันน้ำได้ลึกถึงระดับ 100 เมตร ขณะที่เข็มชี้และเครื่องหมายบอกชั่วโมงเติมด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova สีสว่าง จับคู่มากับสายหนังสีน้ำตาลหรือสายบรอนซ์
![Panerai Luminor Marina eSteelTM (PAM01356)](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_07-1.jpg)
Panerai Luminor Marina eSTEEL™ (PAM01356) (พาเนราย ลูมินอร์ มารีนา อีสตีล)
พลิกโฉมหน้าให้กับโลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาด้วยนวัตกรรมโลหะใหม่ อย่าง eSTEEL™ ที่ประกอบขึ้นด้วยชิ้นส่วน 89 กรัมทำจากวัสดุรีไซเคิล หรือเท่ากับ 58.4% ของนำ้หนักรวมของนาฬิกา เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งคุณสมบัติของความแข็งแกร่งทนทานสูง โดยนำมาใช้ผลิตตัวเรือน ขอบตัวเรือน และเม็ดมะยมหุ้มด้วยยาง รวมถึงหน้าปัด eSTEEL™ มีให้เลือกสามโทนสี แต่ที่เป็นไฮไลต์คือหน้าปัดสีเขียวมรกต หรือ Verde Smeraldo แบบไล่เฉด มาพร้อมสายผ้ารีไซเคิลสีเดียวกัน รวมถึงสายยางสำรอง ซึ่งรุ่นนี้จะมีจำหน่ายเฉพาะในบูติกและช่องทาง e-commerce ของแบรนด์ บรรจุภายในด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre P.9010 กันน้ำได้ลึก 300 เมตร
![Piaget Altiplano Ultimate Concept La Côte-aux-Fées Edition](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_08.jpg)
Piaget Altiplano Ultimate Concept La Côte-aux-Fées Edition (เพียเจต์ อัลติพลาโน อัลติเมท คอนเซ็ปต์ ลา โก้ต-โอซ์-เฟส์ เอดิชั่น)
ครองตำแหน่งนาฬิกาจักรกลไขลานด้วยมือบางที่สุดในโลก จากการติดตั้งกลไก Calibre Piaget 900P-UC ทำงานความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และสำรองพลังงานได้ 45 ชั่วโมง ไว้ภายในตัวเรือนขนาด 41.0 มิลลิเมตร ที่หนาเพียง 2.0 มิลลิเมตร ทำจากโลหะผสมไฮเทคด้วยฐานโคบอลต์ โดยทั้งกลไกและตัวเรือนนาฬิกาผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน
รวมถึงเม็ดมะยมทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ฝังอยู่ด้านข้างตัวเรือน ปกป้องหน้าปัดสเกเลตันด้วยกระจกแซฟไฟร์ และตกแต่งบนสะพานจักรเคลือบ ALD ขัดด้านซาตินสีเขียว ขณะที่แท่นเครื่องแกะสลักด้วยปี 1874 แห่งการก่อตั้งแบรนด์ ประกอบลงตัวมากับสายหนังจระเข้สีเขียว
![SEIKO PROSPEX](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/SEIKO-PROSPEX-709x1024.jpg)
Seiko Prospex SSC807J1
และยังมีนาฬิกาสีเขียวอีกหนึ่งรุ่นเด่นของปีนี้จาก Seiko Prospex SSC807J1 ซึ่งเป็นหนึ่งในรุ่นฉลองครบรอบ 140 ปี ของแบรนด์ภายในซีรีส์ Seiko 140th Anniversary Limited Editions ที่รุ่นนี้ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดพิเศษเพียง 4,000 เรือน มาพร้อมความสวยเด่นของหน้าปัดสีเขียวเข้ม ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเกาะอิริโอโมเตะของจังหวัดโอกินาวาในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเกาะที่มีความสวยงาม มีความหลากหลายทางธรรมชาติ พร้อมทั้งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม โดยสีเขียวเข้มนี้ยังตัดกับหน้าปัดย่อยแสดงผลการจับเวลาโทนสีดำ จากการทำงานอย่างแม่นยำของฟังก์ชันโครโนกราฟ รวมถึงการแสดงเวลา 24 ชั่วโมง และแสดงวันที่ ขับเคลื่อนโดยกลไก Caliber V192 Solar แสดงเวลาอย่างเที่ยงตรงแม่นยำ และทำงานได้ยาวนานถึงประมาณ 6 เดือน เมื่อชาร์จไฟเต็ม อ่านค่าได้อย่างชัดเจนจากการบรรจุสารเรืองแสง Lumibrite บนเข็มชี้ เครื่องหมายบอกเวลา และขอบตัวเรือนปรับหมุนได้ทางเดียว ติดตั้งภายในตัวเรือนและสายสเตนเลสสตีล พร้อมทั้งส่งมอบคู่มากับสายซิลิโคนสำหรับการดำน้ำ โดยรุ่นนี้กันน้ำได้ลึก 200 เมตร
![Speake-Marin One&Two Openworked Dual Time MINT](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_09.jpg)
Speake-Marin One&Two Openworked Dual Time MINT (สปีค-มาริน วันแอนด์ทู โอเพ่นเวิลค์ ดูอัล ไทม์ มินต์)
ทายาทรุ่นล่าสุดจากคอลเลกชัน Openworked (หน้าปัดที่เปิดให้เห็นกลไกบางส่วน) ที่มาพร้อมเฉดสี MINT ใหม่ คงความโดดเด่นของการแสดงวันที่แบบเรโทรเกรด และการแสดงเวลาสองไทม์โซนหรือ Dual Time ไว้บนหน้าปัดแบบสเกเลตันที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Black Architecture Movement รวมถึงกระบวนการสร้างสรรค์และตกแต่งด้วยสีเขียวมินต์แห่งการสรรเสริญให้กับอิสรภาพ
รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจแห่งการเดินทางและการค้นพบใหม่ๆ ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ SMA02 Calibre และไมโครโรเตอร์ สำรองพลังงานได้ 52 ชั่วโมง ที่ติดตั้งอยู่ในตัวเรือน Piccadilly ทำจากไทเทเนียมเคลือบ DLC สีดำ ขนาด 38.0 มิลลิเมตร มีจำนวนจำกัด 10 เรือน และขนาด 42.0 มิลลิเมตร มีจำนวนจำกัด 18 เรือน ลงตัวมากับสายยางสีเขียวมินต์
![TAG Heuer Aquaracer Professional 300](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_10-1.jpg)
TAG Heuer Aquaracer Professional 300 (แท็ก ฮอยเออร์ อาควาเรสเซอร์ โพรเฟสชันนัล 300)
นาฬิกาดำน้ำสำหรับมืออาชีพที่เปี่ยมด้วยสไตล์เฉพาะตัวได้เผยโฉมรุ่นใหม่กับเวอร์ชันตัวเรือนขนาด 43.0 มิลลิเมตร ทำจากไทเทเนียม เกรด 2 แบบด้าน คู่ด้วยหน้าปัดสีเขียว และขอบตัวเรือนเซรามิกสีเขียวปรับหมุนได้ทิศทางเดียว ตัดกับเครื่องหมายสามเหลี่ยมสีเหลืองที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ส่วนบนสเกลนาทีเติมด้วยสารเรืองแสงสีฟ้า
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการมองเห็นใต้น้ำลึก โดยรุ่นนี้กันน้ำได้ลึกระดับ 300 เมตร มาพร้อมการทำงานของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre 5 ปกป้องบนหน้าปัดด้วยกระจกแซฟไฟร์เคลือบกันแสงสะท้อน และฝาหลังไทเทเนียมเกรด 2 หมุนเกลียวแน่น ประกอบเข้ากับสายไทเทเนียม เกรด 2 แบบสามแถวและระบบปรับความยาวสาย
![TUDOR Black Bay Fifty-Eight 18K](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_11.jpg)
TUDOR Black Bay Fifty-Eight 18K (ทิวดอร์ แบล็ก เบย์ ฟิฟตี้-เอท 18เค)
เปิดตัวเวอร์ชั่นล่าสุดของนาฬิการะดับตำนานอย่าง Black Bay Fifty-Eight 18K กับครั้งแรกของการนำเยลโลโกลด์ 18K มาใช้รังสรรค์ตัวเรือนขนาด 39.0 มิลลิเมตร ขัดตกแต่งแบบด้าน รวมถึงเม็ดมะยมและขอบตัวเรือนปรับหมุนได้ทิศทางเดียว พร้อมด้วยฝาหลังแบบเปิดเปลือยใสที่เป็นครั้งแรกสำหรับนาฬิกาดำน้ำของแบรนด์เช่นกัน
ที่สำคัญยังมาพร้อมความโดดเด่นของสีเขียวทั้งบนหน้าปัดและดิสก์แสดงสเกลนาทีบนขอบตัวเรือนซึ่งเป็นอลูมิเนียมสีเขียวแบบด้าน โดยคงเอกลักษณ์ของสัดส่วนและงานดีไซน์หลักๆ มาจากรุ่นดั้งเดิมของยุค 1950s ส่วนภายในติดตั้งกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Manufacture Calibre MT5400 เที่ยงตรงด้วยประกาศนียบัตรรับรองจาก COSC และสำรองพลังงานได้ประมาณ 70 ชั่วโมง ประกอบเข้ากับสายหนังจระเข้สีน้ำตาลเข้มหรือสายผ้าสีเขียว
![Zenith Defy 21 Spectrum](https://l9o926.a2cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2021/04/Green-Watches-Color_12.jpg)
Zenith Defy 21 Spectrum (เซนิธ ดีไฟ 21 สเปกตรัม)
คอลเลกชันสีสันแห่งปีที่สะท้อนความไฮเทคล้ำสมัย รวมถึงตอกย้ำถึงความโดดเด่นของนวัตกรรมกลไกจักรกลความถี่สูงสุดแม่นยำ โดยนำเสนอด้วยหน้าปัดตกแต่งโทนสีสดใส ซึ่งรวมไปถึงเทรนด์ของสีเขียว บรรจุด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติโครโนกราฟความถี่สูง El Primero 9004 ด้วยความถี่ 5 เฮิร์ตซ์ สำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง และจักรกลโครโนกราฟความถี่สูง 50 เฮิร์ตซ์ คงความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ ติดตั้งในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 44.0 มิลลิเมตร รวมถึงประดับด้วยเพชร 288 เม็ด และขอบตัวเรือนประดับอัญมณีล้ำค่าเจียระไนทรงบาแก็ตต์อีก 44 เม็ด จับคู่ลงตัวมากับสายยางสีเดียวกันกับการตกแต่งบนหน้าปัด ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 10 เรือน และมีจำหน่ายเฉพาะที่บูติกของแบรนด์
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF THE BRANDS
MUSIC: Sparks by Chaël | https://soundcloud.com/chael_music
Music promoted by https://www.chosic.com/
Creative Commons Attribution 3.0 Unported License
https://creativecommons.org/licenses/by/3.0/deed.en_US
ART DIRECTOR: Perayut Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่