เปิดตัวต้อนรับปีเสือที่ใกล้เข้ามา สำหรับเรือนเวลาแห่งงานหัตถศิลป์รุ่นใหม่จาก Vacheron Constantin Métiers d’Art The legend of the Chinese zodiac – Year of the Tiger
Vacheron Constantin: Year of the Tiger 2022 ปีวัวจะผ่านพ้นไป ปีเสือกำลังใกล้เข้ามา และเรียกได้ว่ากลายเป็นธรรมเนียมของทุกๆ ปี ที่ ณ ช่วงเวลาเช่นนี้แบรนด์เรือนเวลาเก่าแก่อย่าง Vacheron Constantin (วาเชอรอง คอนสแตนติน) จะได้เผยโฉมผลงานหัตถศิลป์จากคอลเลกชั่นสุดพิเศษของ Métiers d’Art The legend of the Chinese zodiac – Year of the Tiger ที่ในรุ่นนี้ได้รังสรรค์ขึ้นและอุทิศให้กับปีนักษัตรใหม่ที่ใกล้จะมาถึง โดยประดิษฐ์ขึ้นเพื่อต้อนรับปีขาลซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 ด้วยสัญลักษณ์ของเสืออันเรืองอำนาจและงดงามด้วยศิลปะ
ตัวแทนถึงพลังที่อยู่ยงคงกระพัน อำนาจและความแข็งแกร่ง ที่เสือนั้นเป็นดั่งราชาแห่งมวลสรรพสัตว์ในวัฒนธรรมจีน ทั้งยังเป็นสัตว์มงคลที่ช่วยปัดเป่าจิตวิญญาณร้าย พร้อมทั้งนำพามาซึ่งความโชคดี และจากความหมายของเสือ สัญลักษณ์แห่งปีขาลอันทรงพลังนี้เองที่ Vacheron Constantin ได้นำมาถ่ายทอดไว้บนเรือนเวลาใหม่ เพื่อมอบให้กับเหล่านักสะสมและผู้ซึ่งในหลงใหลในศิลปะแห่งเครื่องบอกเวลาชั้นสูงอีกด้วย
ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์รูปเสือและพรรณไม้ธรรมชาติ
สำหรับรุ่น Year of the Tiger นี้ยังถือเป็นบรรจบกันระหว่างความล้ำเลิศทางเทคนิคของกลไกจักรกล Caliber 2460 G4 และความสวยงามของงานหัตถศิลป์ชั้นสูง ที่ได้แรงบันดาลใจและต้นแบบมาจากศิลปะการตัดกระดาษที่เชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกไว้ด้วยกัน รวมถึงเพื่ออุทิศให้กับจีน ประเทศที่ Vacheron Constantin นั้นผูกสัมพันธ์มาอย่างเนิ่นนานนับจากปีค.ศ. 1845 และเป็นประเทศที่เทคนิคการตัดกระดาษซึ่งรู้จักกันดีว่า Jianzhi (เจี๋นชื่อ) นั้นได้กลายเป็นศิลปะยอดนิยม ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับศิลปะการตัดกระดาษในวัฒนธรรมสวิสอันโด่งดังอย่าง Scherenschnitt (เชอเรนชนิต) เช่นกัน โดยเทคนิคและศิลปะที่มีความเชื่อมโยงระหว่างตะวันออกและตะวันตกนี้เองที่ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจและความโดดเด่นเชิงศิลป์ชั้นสูงภายในผลงานรุ่นนี้ พร้อมทั้งผ่านการตีความใหม่จากการผสมผสานเข้ากันระหว่างความเชี่ยวชาญของเหล่าช่างแกะสลักและช่างลงยาระดับมาสเตอร์ด้วย
ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์รูปเสือและพรรณไม้ธรรมชาติ
การเดินทางมาบรรจบกันระหว่างหัตถศิลป์อันทรงคุณค่านี้ได้ปรากฏผ่านลวดลายดอกไม้ กิ่งไม้ และเครือเถาของพรรณไม้ธรรมชาติบนหน้าปัดนาฬิกา ตามแบบอย่างของศิลปะการเขียนรูปลักษณ์จีนคลาสสิกที่เกิดจากการเจาะบนโลหะโดยตรง ทำให้เกิดลวดลายกึ่งฝังและโดดเด่นเหนือขึ้นมาจากแผ่นทองของหนาปัด โดยผ่านขั้นตอนของการตกแต่งและย้ำลวดลายนูนต่ำในหลากหลายระดับเพื่อสร้างภาพที่มีมิติตื้นลึก และมอบเป็นผลลัพธ์ของภาพพรรณไม้ธรรมชาติที่ปรากฏราวกับกำลังลอยอยู่เหนือหน้าปัดเรือนเวลา
จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนของการลงยาแบบ Grand Feu (กรองด์ เฟอ) ที่เป็นอีกหนึ่งเทคนิคเก่าแก่ซึ่งยังคงได้รับการอนุรักษ์และสืบทอดไว้โดยศิลปินผู้เปี่ยมด้วยทักษะเฉพาะเพียงจำนวนไม่มากนัก โดยการลงยานี้จะต้องผ่านหลากหลายขั้นตอนต่อเนื่องกัน และช่างผู้ชำนาญการลงยาจะสามารถเพิ่มมิติความเข้มข้นของสีให้กับทั้งหน้าปัดโทนสีน้ำเงินหรือสีบรอนซ์เหล่านี้ได้อย่างสวยงาม ซึ่งต้องอาศัยการควบคุมสีที่ชำนาญและผ่านกระบวนการเผาด้วยความร้อนที่อุณหภูมิสูงถึง 800 – 900 องศาเซลเซียส ที่แน่นอนว่าในระหว่างกระบวนการเหล่านี้ย่อมต้องอาศัยทั้งประสบการณ์และความชำนาญพิเศษของช่างฝีมือเท่านั้น จากนั้นจึงประดับตกแต่งด้วยรูปเสือซึ่งแกะสลักจากแพลทินัมหรือพิงค์โกลด์ไว้บนกลางหน้าปัด
ซึ่งนอกเหนือจากความสง่างามของเสือ ท่ามกลางความสวยงามเสมือนจริงของธรรมชาติแวดล้อมแล้ว บนหน้าปัดเรือนเวลานี้ยังบรรจุไว้ด้วยการแสดงเวลาอย่างเที่ยงตรง เช่นเดียวกับการแสดงปฏิทิน ที่ประกอบด้วยทั้งการแสดงชั่วโมง นาที วัน และวันที่ผ่านทางช่องหน้าต่างทั้งหมด แบบไร้เข็มชี้ใดๆ เพื่อให้สามารถชื่นชมลวดลายและงานตกแต่งบนสัญลักษณ์อันทรงพลังของเสือกลางหน้าปัดได้อย่างชัดเจนโดดเด่น โดยการแสดงผ่านช่องหน้าต่างทั้งสี่ช่องเหล่านี้ยังผ่านการออกแบบและพัฒนาขึ้นจากต้นตำรับรูปแบบการแสดงเวลาดั้งเดิมของแบรนด์ พร้อมทั้งระบบการปรับตั้งที่ง่ายและสะดวก ทั้งยังสามารถชื่นชมการทำงานของกลไกจักรกล Calibre 2460 G4 รวมถึงโรเตอร์ทอง 22 กะรัต ซึ่งตกแต่งด้วยลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์ Maltese cross ประจำเมซง และชิ้นส่วนกลไกทั้งหมดที่ผ่านการตกแต่งอย่างประณีตตามมาตรฐานและเกณฑ์ของ Hallmark of Geneva ที่รับประกันถึงคุณภาพและความสวยงามของนาฬิกาทั้งเรือนเหล่านี้ได้ผ่านทางฝาหลังนาฬิกาที่ติดตั้งด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ใส
สำหรับหัวใจขับเคลื่อนของเรือนเวลารุ่นนี้ที่เป็นกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre 2460 G4 นั้น เป็นผลิตผลจากการพัฒนาและผลิตขึ้นทั้งหมดโดยโรงงาน Vacheron Constantin ซึ่งประกอบด้วยชิ้นส่วนรวม 237 ชิ้น และทับทิม 27 เม็ด โดยทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมงหรือ 4 เฮิรตซ์ และสำรองพลังงานได้ประมาณ 40 ชั่วโมง
และตัวเรือนพิงค์โกลด์คู่สายหนังจระเข้สีน้ำตาล
และตามธรรมเนียมแล้ว ผลงานจาก Métiers d’Art The legend of the Chinese zodiac ยังล้วนเป็นคอลเลกชั่นที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดพิเศษ เช่นเดียวกับในรุ่น Year of the Tiger ที่นำเสนอเพียงเวอร์ชั่นตัวเรือนละ 12 เรือน และมีจำหน่ายเฉพาะในบูติกของแบรนด์ ซึ่งครั้งนี้นำเสนอด้วยสองเวอร์ชั่นระหว่างตัวเรือนแพลทินัม และพิงค์โกลด์ 18 กะรัต 5N ในขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 40.0 มิลลิเมตร และหนา 12.72 มิลลิเมตร พร้อมทั้งฝาหลังกระจกคริสตัลแซฟไฟร์โปร่งใสและประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกระดับ 30 เมตร โดยทั้งคู่ประกอบมาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้มหรือสีน้ำตาล เย็บตะเข็บอย่างประณีต พร้อมด้วยตัวพับล็อกสายทำจากแพลทินัมหรือพิงค์โกลด์ตกแต่งด้วยรูปครึ่งของสัญลักษณ์ Maltese cross ขัดเงา สำหรับรุ่นนี้ส่งมอบมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมคือปากกาสำหรับปรับตั้งอีกด้วย
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF VACHERON CONSTANTIN
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่