Take Your Time นิทรรศการภาพเปี่ยมความรู้สึกครั้งใหม่จาก SUNTUR ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล ที่จะชวนคุณมาใช้เวลาอันมีค่า เพื่อมองชีวิตของตนเอง
ภาพวาดแลนด์สเคปมุมกว้าง ลายเส้นและการลงสีสุด minimal และเรื่องราวที่ถูกร้อยเรียงบอกเล่าผ่านคนตัวเล็ก คือเอกลักษณ์ที่ผู้คนจดจำจากผลงานของศิลปินหนุ่มวัย 33 ปีอย่าง SUNTUR ซันเต๋อ ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล แต่ในนิทรรศการเดี่ยวครั้งที่ 3 ของซันเต๋ออย่าง Take Your Time : SUNTUR Solo Exhibition ผู้ชมจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ทางศิลปะในแบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อนจากศิลปินผู้นี้
นิทรรศการ Take Your Time ในครั้งนี้ของซันเต๋อเกิดจากความร่วมมือระหว่าง Trendy Gallery และ River City Bangkok ร่วมกับพาร์ตเนอร์ใหม่อย่าง 4nologue ที่มาช่วยดูแลการนำเสนองานศิลปะในรูปแบบของดิจิทัลอาร์ต ผ่านอุโมงค์ยาวที่เป็นเสมือน Time Machine ที่ชวนให้ผู้ชมมาหยุดเวลา แล้วย้อนกลับไปทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีตไปพร้อมๆ กันกับนิทรรศการ
คอนเซ็ปต์ของนิทรรศการภาพในครั้งนี้คือการพูดถึงเรื่อง ‘เวลา’ โดยหยิบเอาสิ่งละอันพันละน้อยในชีวิตตลอด 33 ปีของซันเต๋อ มาถ่ายทอดลงบนภาพวาดในสไตล์ที่ทุกคนคุ้นเคย แต่สิ่งที่พิเศษกว่านิทรรศการครั้งที่ผ่านมา คือการผสมผสานเอาตัวตนและเรื่องราวที่เป็นส่วนตัวของซันเต๋อมาไว้ในภาพ ต่างจากนิทรรศการครั้งก่อนๆ ที่เขามักเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรู้สึกทั่วไปของผู้คนผ่านสายตาและมุมมองของบุคคลที่ 3 แต่ในครั้งนี้ไม่ว่าจะตัวละครหรือเรื่องราวในภาพ ก็ล้วนมีส่วนประกอบเล็กๆ ของผู้คนที่มาจากชีวิตของเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือสัตว์เลี้ยง
ภาพวาดทั้ง 33 ภาพที่จัดแสดงภายในงาน จึงร้อยเรียงชีวิต 33 ปีของซันเต๋อที่มีทั้งเรื่องราวความสุข ความทุกข์ ความสมหวัง ผิดหวัง ความเสียใจ ไปจนถึงสัจธรรมของโลกใบนี้อย่างการปล่อยวาง แม้จะหยิบเอาผู้คนและตัวละครที่มีอยู่จริงมาถ่ายทอด แต่เรื่องราวที่แฝงเอาไว้ในแต่ละภาพก็ยังสามารถเข้าใจได้และเชื่อมโยงกับผู้ชมอย่างไม่ยากเย็น ราวกับเชิญชวนให้ผู้ชมได้หยุดใช้เวลากับแต่ละภาพ เพื่อสังเกตและมองลึกลงไปในภาพนั้นอย่างตั้งใจ
หากใครมีโอกาสไปชมนิทรรศการเดี่ยวครั้งก่อนเมื่อ 2 ปีที่แล้วของซันเต๋ออย่าง A Little Letter From Someone Somewhere (2020) คงพอจะเคยมีประสบการณ์การฟังเพลงจาก 26 ศิลปินและนักแต่งเพลงที่มาร่วมงานกับซันเต๋อเพื่อนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบของบทเพลงควบคู่ไปกับการชมภาพวาดแต่ละภาพ
ในงานครั้งนี้ซันเต๋อจึงชวนจั้ม ก่อเกียรติ ชาติประเสริฐ นักแต่งเพลงผู้อยู่เบื้องหลังดนตรีประกอบในภาพยนตร์เอหิปัสสิโก (2021) และประโยคสัญญารัก (2013) มาร่วมแต่งเพลงประกอบให้กับนิทรรศการในชื่อ Day 1 to End เพื่อให้ผู้ชมเปิดฟังระหว่างที่ใช้เวลาสำรวจเรื่องราวในแต่ละภาพตลอดระยะเวลา 9 นาทีเศษ
และชวนให้คุณพ่อมาร่วมเขียนบทกลอนเกี่ยวกับชีวิตและเวลาที่เหลืออยู่ให้ผู้ชมได้อ่าน ราวกับเป็นดนตรีและบทกวีประกอบเรื่องราวชีวิตที่เป็นเสมือนภาพยนตร์หนึ่งเรื่องตั้งแต่วันแรกจวบจนวันสุดท้าย ในวันที่ซันเต๋อเริ่มมองว่าความตายและมนุษย์เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงถึงกัน และชีวิตของคนเราล้วนไม่แน่นอน
อย่างเช่นภาพ Happiness Won’t Last Long ที่มีพื้นหลังเป็นท้องฟ้าสีสดใสและมีพระเอกของภาพเป็นว่าวปลาวาฬที่แหวกว่ายอยู่ท่ามกลางว่าวหลากสีสัน เปรียบชีวิตที่ประสบความสำเร็จเหมือนว่าวที่กำลังติดลมบน แต่เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งว่าวนั้นก็ต้องตกลงมา เพราะไม่มีว่าวตัวไหนลอยอยู่ได้ตลอดไปเช่นเดียวกับความสุขและความสำเร็จที่ไม่อาจอยู่กับเราไปได้ถาวร
หรือในภาพ See You Soon ที่เด็กชายตัวเล็กขึ้นจากเรือและวิ่งไปหาคู่ชายหญิงชรา ก็ถูกวาดขึ้นโดยจินตนาการว่าสถานที่นั้นคือสวรรค์ที่ซึ่งยายกับตาที่เสียชีวิตไปแล้วกำลังรอคอยที่จะได้พบหน้าเขาอีกครั้งเมื่อถึงเวลา โดยผูกโยงกับตำนานเรื่องแม่น้ำตามความเชื่อของเทพปกรณัมกรีก ที่กั้นระหว่างโลกมนุษย์และโลกหลังความตาย ผนวกกับความรู้สึกโหยหาและคิดถึงญาติผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่ผูกพันกับตนเองมากในวัยเด็ก และยังไม่มีโอกาสได้ใช้เวลาดูแลพวกท่านให้มากกว่านี้ในวันที่เริ่มทำงานและมีเงินเป็นของตนเอง
นิทรรศการครั้งนี้ซึ่งเว้นช่วงจากครั้งก่อนหน้าถึง 2 ปี จึงเต็มไปด้วยความเติบโตทางความคิด ผ่านมุมมองที่ละเอียดอ่อนซึ่งแฝงไว้ภายใต้ภาพวาดเหงาๆ ที่ชี้ชวนให้ผู้ชมได้มองลึกเข้าไปพบสัจธรรมและความเป็นจริงของโลก และวกกลับมาตั้งคำถามกับตนเองว่าเราใช้เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตอย่างคุ้มค่าแล้วหรือยัง
และเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เลือกเป็นเจ้าของสินค้าที่ระลึกหลากหลายรูปแบบในโซนขายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นโปสการ์ด เสื้อยืด กระเป๋า แผ่นหอมปรับอากาศ ไปจนถึงกาแฟแคปซูลที่ซันเต๋อร่วมงานกับ Summer Coffee ออกแบบ 5 รสชาติใหม่จาก 5 ภาพวาดในนิทรรศการเพื่อลิ้มรสความขมแต่ก็เจือไปด้วยกลิ่นหอมละมุน เฉกเช่นชีวิตของคนเราที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความหวานขมของการเติบโตไปได้
ท่องไปในพื้นที่เหนือการเวลาในนิทรรศการ TAKE YOUR TIME : SUNTUR Solo Exhibition at River City Bangkok ได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 เมษายน พ.ศ.2566 ณ RCB Galleria 2 ชั้น 2 River City Bangkok
Credit:
Photos: Courtesy of River City Bangkok, SUNTUR Studio and Trendy Gallery
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้บน Padthai.co
- ชวนปักหมุด 20 งานน่าสนใจจาก 9 ย่านเศรษฐกิจทั่วกรุงเทพ ในเทศกาลแห่งการออกแบบสร้างสรรค์ Bangkok Design Week 2023 : urbanNICEzation เมือง-มิตร-ดี
- เรื่องราววัยเยาว์และการเติบโตก้าวพ้นวัยของพ่อมดแห่งโลกฮอลลีวูด สตีเวน สปีลเบิร์ก ใน The Fabelmans ภาพยนตร์ชิง7รางวัลออสการ์ประจำปีนี้
- Repeat After Me: เป็นทุกอย่างให้Everything Everywhere All At Once ภาพยนตร์ที่พามิเชล โหย่วไปคว้ารางวัลลูกโลกทองคำนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมปีนี้
- รีวิวหลังดูจบแบบไม่สปอยล์ : สิ้นสุดการรอคอย AVATAR 2 : The Way of Water วิถีแห่งสายน้ำ การกลับมาของครอบครัวซัลลี ชนเผ่าเมทคายีน่า เหล่านาวีแห่งท้องทะเล และผลงานภาพสวยจับใจไม่เสียชื่อผู้กำกับระดับเทพ เจมส์ คาเมรอน ฟันรายได้ทั่วโลกวันแรก 553 ล้านบาท
- 2023 TRENDS & PREDICTIONS : Entertainment and Pop-Culture เจาะเทรนด์โลก 2023 ไปกับ Padthai POP-CULTURE วงการสื่อจะไปในทิศทางไหน แล้วคอนเทนต์รูปแบบใดจะมาแรงในปี 2023 ที่จะถึงนี้