การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Seventeen และ FML มินิอัลบัมชุดที่ 10 ที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยยอดขายเฉียด 4 ล้านแผ่นในวันเดียว
แม้จะยืนยาวในวงการเพลงเกาหลีใต้มาอย่างยาวนานเข้าสู่ปีที่ 8 แต่ความมีชีวิตชีวาและร้อนแรงที่น่าติดตามของวงบอยแบนด์แห่งค่าย Pledis Entertainment ภายใต้การบริหารของ HYBE อย่าง Seventeen ก็ไม่ได้ลดน้อยหรือถอยลงไปตามกาลเวลาแต่อย่างใด เพราะล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มินิอัลบัมชุดที่ 10 ของพวกเขาอย่าง FML ได้ทำลายสถิติและสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในฐานะวงที่ทำยอดขายวันแรกสูงสุดตลอดกาลด้วยยอดสูงเฉียด 4 ล้านแผ่นภายในวันเดียว!
อัลบัมชุดนี้เป็นมินิอัลบัมชุดที่ 10 และเป็นการคัมแบ็คอัลบัมภาษาเกาหลีครั้งแรกของวงในปีค.ศ. 2023 โดยอัลบัมนี้เป็นครั้งแรกที่วงประกาศเพลงไตเติลที่จะใช้โปรโมตถึง 2 เพลง คือ F*ck My Life เพลงช้าเนื้อหาดีที่พูดถึงความพยายามจะต่อสู้และใช้ชีวิตตามที่ต้องการในโลกที่เหนื่อยยากและ 손오공 (Super) เพลงเร็วที่โดดเด่นด้วยบีทและจังหวะที่หนักหน่วง สอดคล้องกับท่าเต้นที่ทรงพลัง ซึ่งสมาชิกวงอย่าง จองฮัน (Jeonghan) เผยผ่านบทสัมภาษณ์ในนิตยสารว่า Performance ของเพลงนี้ทรงพลังและยากที่สุดเท่าที่เซเว่นทีนเคยมีมา
แม้การถกเถียงระหว่างสมาชิกวงและค่ายเพลงในการเลือกเพลงโปรโมตจะไม่ใช่เรี่องใหม่สำหรับวงเซเว่นทีน แต่การมีเพลงโปรโมตถึง 2 เพลงนี้เกิดขึ้นจากการที่สมาชิกวงมั่นใจและหนักแน่นกับเนื้อหาที่ต้องการนำเสนออย่างมากเพื่อให้การโปรโมตครั้งนี้บอกเล่าเรื่องราวของวงออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด โดยมิวสิกวิดีโอเพลง 손오공(Super) ได้นำเสนอมิวสิกวิดีโอมาก่อนในวันแรกที่อัลบัมวางขาย ส่วน F*ck My Life นำเสนอมิวสิกวิดีโอในวันที่ 8 พฤษภาคม ซึ่งเว้นระยะห่างจากเพลงแรก 2 สัปดาห์
เพลง 손오공 (อ่านว่า ซนโอคง) ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละคร ซุนโงกุน ตัวเอกของการ์ตูนญี่ปุ่นระดับตำนานอย่าง Dragonball บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางและการต่อสู้ ฝึกฝน พัฒนาตนเองจนเติบโตและเป็นซูเปอร์ไซย่า เช่นเดียวกันกับเซเว่นทีนที่ต่อสู้และเดินทางบนถนนสายดนตรีมาอย่างยาวนานจนประสบความสำเร็จ
ส่วน F*ck My Life ซึ่งเป็นเพลงช้าและถูกนำมาใช้เป็นชื่อย่อของอัลบัม มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่พูดถึงการต่อสู้และเลือกจะใช้ชีวิตตามแบบที่ต้องการเพื่อตนเอง โดยอัลบัม FML ถูกแบ่งออกเป็น 3 เวอร์ชั่น คือ Fallen Mistfit Lost (ความรู้สึกแปลกแยกเป็นอื่น ล้มเหลวและหลงทาง) Fade Mono Life (ชีวิตที่จำเจ) และ Fight For My Life (สู้เพื่อชีวิตของเรา) เพื่อส่งกำลังใจไปให้กับแฟนๆ ว่าแม้บางครั้งเราจะต้องเผชิญกับชีวิตที่ซ้ำซากจำเจ เต็มไปด้วยความเครียด รู้สึกแปลกแยกและทำตัวตนของตนเองหล่นหาย แต่ชีวิตก็มีค่าพอจะให้เราสู้ต่อไปเสมอ
โดยเพลงทั้งหมดในอัลบัมชุดนี้ยังคงเป็นผลงานการเขียนเนื้อร้องของ อูจี (Woozi) สมาชิกคนสำคัญของวงผู้ควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ที่ดูแลเรื่องดนตรีทั้งหมดของวง และมักจะพูดเสมอว่า เนื้อหาของเพลงในแต่อัลบัมของเซเว่นทีนถูกเลือกสรรอย่างตั้งใจเพื่อสะท้อนถึงตัวตนและการเติบโตของวงและสมาชิกแต่ละคนในช่วงเวลา ณ ขณะนั้น เราจึงได้สัมผัสกับรสชาติของดนตรีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Fire เพลงแรปพรีเซนท์จาก Hiphop Unit ที่พูดถึงความสำเร็จของวงและแผนการ Stadium Tour ในญี่ปุ่นปีนี้ซึ่งนับเป็นหมุดหมายความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของการตีตลาดเพลงในญี่ปุ่น ด้วยบีทและซาวด์อิเล็กทรอนิกส์ที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์
เพลงความหมายดีอย่าง I Dont Understand but I Love You เพลงจาก Performance Unit ที่เขียนขึ้นโดยได้แรงบันดาลใจมาจากกะรัต (CARAT) แฟนคลับของพวกเขาที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก และยังคงให้การสนับสนุนพวกเขาอย่างดีแม้จะมีปัญหาเรื่องกำแพงทางภาษามาขวางกั้น รวมไปถึง 먼지 (DUST) เพลงรักจาก Vocal Unit ที่นำเสนอซาวด์และกลิ่นอายเรโทรที่ให้ความรู้สึกเหมือนเพลงประกอบการ์ตูนญี่ปุ่นที่อูจีโปรดปราน
นอกจากนั้นยังมี April Shower เพลงจังหวะกลางๆ เนื้อหาให้กำลังใจ ที่พูดถึงการเติบโตของเซเว่นทีนในช่วงก่อนเดบิวต์ที่พวกเขาต้องผ่านช่วงเวลายากลำบากมาด้วยกัน จนในที่สุดก็ได้เดบิวต์ในเดือนพฤษภาคมเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เปรียบเสมือนการเดินตากฝนในปลายเดือนเมษาซึ่งเป็นช่วงเวลาสุดท้ายก่อนเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของเกาหลี และเมื่อถึงเดือนพฤษภาคมดอกไม้เหล่านั้นก็เบ่งบาน นับเป็นความงดงามที่ถูกร้อยเรียงมาเป็นเพลงและนำเสนออย่างเหมาะเจาะในช่วงเวลาครบรอบ 8 ปีที่กำลังจะถึงพอดี
อัลบัม FML เปิดตัวด้วยยอดสั่งจองล่วงหน้ากว่า 4.64 ล้านชุด สร้างสถิติใหม่การเป็นอัลบัม K-Pop ที่มียอดจองสูงสุดตลอดกาล และมียอดขายในวันแรกสูงถึง 3.99 ล้านชุดจนได้ชื่อว่าเป็นศิลปินกลุ่มแรกที่ทำยอดขายในวันแรกทะลุ 3 ล้านแผ่น และทำลายสถิติเดิมของ Map of the BTS’ Soul: 7 ของวง BTS ที่ทำไว้ที่ 2.65 ล้านชุด ซึ่งนับเป็นหมุดหมายใหม่ที่น่าสนใจของเซเว่นทีน โดยหลังจากนี้พวกเขาจะจัดคอนเสิร์ตสำหรับอัลบัมชุดใหม่ เริ่มจากการแสดงในเกาหลีใต้ช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
Seventeen เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ. 2015 ภายใต้สังกัด Pledis Entertainment ด้วยสมาชิก 13 คนคือเอสคูปส์ จองฮัน โจชัว จุน โฮชิ วอนอู อูจี โดคยอม มินกยู ดิเอต ซึงกวาน เวอร์นอนและดีโน่ โดยมีการแบ่งสมาชิกทั้งหมดออกเป็น 3 ยูนิตหลักตามความสามารถของสมาชิกแต่ละคน ได้แก่ฮิปฮ็อปทีมสำหรับแร็ปเปอร์ โวคอลทีมสำหรับสมาชิกที่เป็นเมนร้องและเพอร์ฟอร์มานซ์ทีมสำหรับสมาชิกที่เป็นเมนเต้น
เซเว่นทีนเป็นที่จดจำในฐานะวงที่สามารถผลิตทุกอย่างเองทั้งหมด ทั้งการทำเพลงของอูจี การแต่งเนื้อเพลงท่อนแร็ปของฮิปฮ็อปทีม และการคิดท่าเต้นรวมถึงโชว์ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์และความน่าสนใจของเพอร์ฟอร์มานซ์ทีม ด้วยเพลงฮิตมากมายที่เป็นที่นิยมทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ รวมถึงชาร์ต Billboard มาแล้ว
Credit:
Photos: Courtesy of Pledis_17 – Seventeen Official
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้บน Padthai.co
- ชวนปักหมุด 20 งานน่าสนใจจาก 9 ย่านเศรษฐกิจทั่วกรุงเทพ ในเทศกาลแห่งการออกแบบสร้างสรรค์ Bangkok Design Week 2023 : urbanNICEzation เมือง-มิตร-ดี ที่ชวนคุณมาทำความรู้จักเมืองในแง่มุมที่ต่างออกไป พร้อมย่านน้องใหม่อย่าง เกษตร และบางโพ
- ปีทองของจริง! รวบตึงผลรางวัล BRIT Awards 2023 หนุ่มตาหวาน Harry Styles และอัลบัม Harry’s House กวาด 4 รางวัลใหญ่กลับบ้าน พร้อมสปีชสุดตราตรึง ขออุทิศรางวัลให้ศิลปินหญิง หลังงานโดนตั้งคำถามเกี่ยวกับรายชื่อศิลปินเข้าชิงรางวัล British Artist of The Year ที่เป็นชายล้วน
- สู้หน่อยสาวออฟฟิศ! BSS : Second Wind ซิงเกิลอัลบัมเติมพลังบวกให้แฟนเพลง จากยูนิตสุดว้าว SEVENTEEN BSS ของ BOOSEUNGKWAN DK และ HOSHI แห่ง SEVENTEEN ภายใต้การโปรดิวซ์ของ Woozi
- รีวิวหลังดูจบแบบไม่สปอยล์ : สิ้นสุดการรอคอย AVATAR 2 : The Way of Water วิถีแห่งสายน้ำ การกลับมาของครอบครัวซัลลี ชนเผ่าเมทคายีน่า เหล่านาวีแห่งท้องทะเล และผลงานภาพสวยจับใจไม่เสียชื่อผู้กำกับระดับเทพ เจมส์ คาเมรอน ฟันรายได้ทั่วโลกวันแรก 553 ล้านบาท
- 2023 TRENDS & PREDICTIONS : Entertainment and Pop Culture เจาะเทรนด์โลก 2023 ไปกับ Padthai POP-CULTURE วงการสื่อจะไปในทิศทางไหน แล้วคอนเทนต์รูปแบบใดจะมาแรงในปี ค.ศ. 2023 ที่จะถึงนี้
