Panerai ต้อนรับสมาชิกใหม่ Luminor Due Luna นาฬิกาสลับซับซ้อนด้วยการแสดงข้างขึ้น-ข้างแรม สู่หนึ่งในคอลเลกชันซิกเนเจอร์ของแบรนด์ อย่าง Luminor Due
หลังจากเปิดตัวแนะนำคอลเลกชันนาฬิกาอันทันสมัย ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้นกับ Luminor Due มาแล้วหลายปี Panerai (พาเนราย) ก็ได้ขยายพรมแดนของครอบครัวคอลเลกชันที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้ ด้วยบรรดาสมาชิกใหม่ อย่าง Luminor Due Luna นาฬิกาสลับซับซ้อนรุ่นแรกที่เปิดตัวเข้าสู่คอลเลกชันซิกเนเจอร์ของแบรนด์ อย่าง Luminor Due
เอกลักษณ์เฉพาะตัวของคอลเลกชัน Luminor Due คือความลงตัวคล่องแคล่วของทั้งสัดส่วน บวกกับสไตล์ที่เฉียบคมของรูปลักษณ์ตัวเรือน รวมไปถึงคุณสมบัติของการแสดงเวลาที่เรียบง่ายและเที่ยงตรงแม่นยำ โดยถอดรหัสและต้นตำรับความไว้วางใจได้มาจากคอลเลกชันรุ่นพี่อย่าง Luminor ทว่า พลิกโฉมใหม่ด้วยรูปแบบที่ประณีตและง่ายสะดวกสบายสำหรับการสวมใส่นาฬิกาในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น ทั้งยังสามารถเติมเต็มลุคการแต่งกายและเสริมความคล่องแคล่วให้กับทุกไลฟ์สไตล์ โดยการตีความของ Luminor Due นับจากแรกเริ่มนั้น มาพร้อมเพียงการแสดงเวลาที่เป็นฟังก์ชันหลักของนาฬิกาเท่านั้น แต่ล่าสุด Panerai ได้ต่อยอดความพิเศษ โดยการเสริมความสลับซับซ้อนเข้าสู่คอลเลกชันนี้เป็นครั้งแรก และเลือกเป็นฟังก์ชันแสดงข้างขึ้น-ข้างแรม หรือมูนเฟส (moon phase)
การแสดงข้างขึ้น-ข้างแรม สำหรับนาฬิกาจักรกลนั้นถือเป็นหนึ่งในความสลับซับซ้อนที่ไม่เพียงโรแมนติก แต่เติมเต็มเรื่องราวการถ่ายทอดเส้นทางแห่งเวลา ที่เชื่อมโยงถึงดาราศาสตร์นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยความแม่นยำของการแสดงวิถีของดวงจันทร์ แม้ถูกย่อส่วนและจำลองลงสู่พื้นที่อันแสนจำกัดของนาฬิกาข้อมือ ซึ่งถือเป็นความมหัศจรรย์และน่าหลงใหลของจักรกล ขณะเดียวกันยังเป็นบทพิสูจน์ถึงความกล้าหาญและความท้าทายสำหรับเหล่าช่างนาฬิกา รวมถึงแบรนด์นาฬิกา ในการสร้างสรรค์กลไกจักรกลซับซ้อนประเภทนี้ขึ้นด้วยความเที่ยงตรง แม่นยำ และสวยงามด้วยเช่นกัน โดยใน Luminor Due Luna ใหม่นับเป็นตัวอย่างที่แบรนด์ได้เลือกเสริมความโดดเด่นให้กับคอลเลกชันนี้ ด้วยความสลับซับซ้อนของการแสดงข้างขึ้น-ข้างแรม โดยการขับเคลื่อนของกลไกจักรกลผลิตในโรงงาน เช่นเดียวกับรังสรรค์ไว้ด้วยความสวยงามลงตัวของการแสดงบนหน้าปัดนาฬิกาได้อย่างโดดเด่น
ที่มาของชื่อรุ่น Luminor Due Luna โดยเฉพาะคำท้ายนั้นบ่งบอกอย่างชัดเจนถึงจุดเด่นของผลงานใหม่นี้ โดยคำว่า “Luna” ซึ่งปรากฏบนหน้าปัดเหนือตำแหน่ง 6 นาฬิกานั้น มีความหมายถึงดวงจันทร์ในภาษาอิตาลี ขณะที่ดวงจันทร์ของนาฬิการุ่นใหม่นี้ได้ถูกจำลองลงสู่หน้าปัดอย่างสวยเด่น โดยจัดวางไว้ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา แสดงผ่านดิสก์หมุนซึ่งบรรจุด้วยรูปดวงจันทร์ทำจากทอง 24 กะรัต เจิดจรัสตัดกับพื้นหลังของฉากท้องฟ้าสีน้ำเงินมิดไนท์บลูเต็มไปด้วยหมู่ดาว ขณะที่คงความสมดุลไว้ด้วยการจัดวางหน้าปัดบอกวินาทีเล็ก ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา
Luminor Due Luna นำเสนอด้วยสี่เวอร์ชัน เพื่อให้รับกับไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบที่แตกต่าง โดยทั้งหมดมาพร้อมกับตัวเรือนขนาด 38.0 มิลลิเมตร แต่ต่างด้วยวัสดุและการตกแต่งบนหน้าปัด ประกอบด้วยรุ่น Luminor Due Luna GoldtechTM Madreperla (PAM01181) กับเสน่ห์สวยเด่นของหน้าปัดเปลือกหอยมุก และตัวเรือนทำจาก Panerai GoldtechTM โลหะผสมที่ประกอบด้วยแพลทินัมและทองแดงเปอร์เซ็นต์สูง ซึ่งให้ผลลัพธ์เป็นโลหะทองโทนสีแดงเข้มเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมตัวเลขและเครื่องหมายขีดหรืออินเด็กซ์ (indexes) แบบนำมาติดบนหน้าปัด ตกแต่งกรอบด้วยสีทองและบรรจุภายในด้วยสารเรืองแสง Super-LuminovaTM สีขาว ลงตัวมากับสายหนังจระเข้แบบเงาวาว และตกแต่งอย่างประณีต ส่วนฝาหลังของรุ่นนี้พิเศษกว่ารุ่นอื่นที่เป็นฝาหลังแบบทึบ โดยเป็นแบบเปิดด้วยกระจกแซฟไฟร์ สำหรับเปิดโชว์การทำงานของกลไกจักรกลภายใน
กับอีกสองเวอร์ชันที่มาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสสตีล คู่กับหน้าปัดขัดแต่งแบบซันบรัช (sun-brushed) สีขาว โดยคงเอกลักษณ์ของโครงสร้างหน้าปัดแบบแซนด์วิชของ Panerai ที่บรรจุภายในตัวเลข เครื่องหมายขีดหรืออินเด็กซ์และเข็มชี้ ด้วยสารเรืองแสง Super-LuminovaTM สีเบจ ซึ่งรุ่นหนึ่งลงตัวเข้ากับสายหนังจระเข้สีชมพู (PAM01180) ส่วนอีกรุ่นมาพร้อมสายสร้อยข้อมือสเตนเลสสตีลของ Luminor Due (PAM01301) กับข้อสายที่มีโครงร่างรูปทรงคล้ายกันกับอุปกรณ์ปกป้องเม็ดมะยม (crown-protection device) ของ Panerai พร้อมทั้งตกแต่งอย่างประณีตด้วยการสลับระหว่างงานตกแต่งแบบขัดเงาและขัดด้าน มอบแสงสะท้อนที่ตัดกัน โดยเฉพาะจากงานขัดเงาไปตามขอบของข้อสายแบบโค้ง ที่ช่วยเสริมมิติและตอกย้ำถึงความประณีตละเอียดอ่อนในการรังสรรค์เรือนเวลาของแบรนด์
หรือกับตัวเลือกของการจับคู่ระหว่างตัวเรือนสเตนเลสสตีล และหน้าปัดโครงสร้างแซนด์วิชสีน้ำเงินคลาสสิก ซึ่งตกแต่งแบบซันบรัช (PAM01179) รวมถึงสายหนังจระเข้สีน้ำเงิน ที่รับกันอย่างกลมกลืนกับสไตล์เคร่งขรึมและร่วมสมัยของนาฬิกา โดยภายในนาฬิกา Luminor Due Luna ใหม่ทั้งสี่เวอร์ชันนี้ มาพร้อมการทำงานของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre P.900 ขนาด 12 ½ lignes หนาเพียง 4.2 มิลลิเมตร ประกอบด้วยชิ้นส่วนกลไก 171 ชิ้น และทับทิม 23 เม็ด และทำงานความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 เฮิรตซ์ ติดตั้งอุปกรณ์กันแรงสะเทือน IncablocTM และตลับลานหนึ่งตัวที่มอบการสำรองพลังงานได้นาน 3 วัน รวมถึงคงประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกระดับ 3 บาร์ หรือประมาณ 30 เมตร
ความโดดเด่นของ Luminor Due Luna ใหม่นั้น ยังรวมไปถึงการมาพร้อมระบบถอดเปลี่ยนสายได้อย่างง่ายดาย หรือ quick release system โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือเสริมใดๆ ช่วย ทำให้สามารถเปลี่ยนสไตล์ของนาฬิกาด้วยคอลเลกชันของสายที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งสายซาติน สายหนังที่ตกแต่งด้วยลวดลายผิวแบบซาติน รวมถึงยังสามารถสลับกับสายนาฬิกาอื่นๆ จากนาฬิกาตระกูล Luminor Due เดียวกันได้อีกด้วย
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF PANERAI
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่