ปีแห่งการปรับตัวของ Oscars : NOMADLAND คว้าหนังยอดเยี่ยม โคลอี้ เจา คว้ารางวัลในฐานะผู้กำกับหญิงเอเชียคนแรก ในปีที่หนังออสการ์ไม่จำเป็นต้องเข้าฉายโรงอีกต่อไป
แม้จะเป็นปีที่ งานประกาศรางวัลออสการ์ (The Oscars 93rd Academy Awards) มาช้ากว่าปกติร่วม 2 เดือน ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารายชื่อภาพยนตร์เข้าชิงในปีนี้เป็นอีกครั้งที่น่าตื่นเต้นและมีความแตกต่างหลากหลายอย่างน่าสนใจมากที่สุดในรอบหลายปี
โดยงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 93 ในปีนี้ทำการถ่ายทองสดจากสถานที่จัดงานหลัก 2 แห่งคือ Dolby Theatre อันเป็นสถานที่จัดงานประกาศรางวัลออสการ์มาอย่างยาวนานตลอด 19 ปี ที่ผ่านมา และ Union Station ใจกลางเมืองลอสแองเจลิส
นี่จึงเป็นอีกครั้งที่เราต้องพูดแบบคลิเช่ (cliché) สุด ๆ ว่าแม้การชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์จะเป็นการได้รับอรรถรสที่สูงสุด แต่เพราะสถานการณ์ Covid-19 ที่ทำให้โรงหนังหลาย ๆ แห่งถูกสั่งปิดอยู่เป็นระยะ วงการหนังจึงต้องขยับเพื่อปรับตัว และเปลี่ยนกฏให้หนังที่ไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์สามารถเข้าชิงรางวัลออสการ์ได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นภาพยนตร์ที่เคยวางแผนฉายในโรงภาพยนตร์แต่โดนเลื่อนหรือยกเลิกไป
ด้วยเหตุนี้เอง ปีนี้จึงเป็นอีกปีของเหล่าสตรีมมิ่ง ไม่ว่าจะเป็น อเมซอน ไพรม์ (Amazon Prime) ที่คว้า 2 รางวัลออสการ์ไปครอง หรือ เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) สตรีมมิ่งเจ้ายักษ์ที่ได้รับการเสนอให้เข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง 36 รายชื่อ และได้รับรางวัลไปถึง 4 สาขา
ส่วนผลออสการ์ปีนี้จะเป็นของใครบ้าง Padthai.co รวบตึงแบบเรียลไทม์มาให้คุณแล้ว!
สองรางวัลใหญ่อย่าง รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม จะเป็นของใครไปไม่ได้ นอกจากตัวเต็งอย่าง โคลอี้ เจา (Chloé Zhao) หรือ เจาถิง ผู้กำกับสาวชาวจีน ที่พา NOMADLAND ไปกวาดรางวัลจากเวทีลูกโลกทองคำ และรางวัลสิงโตทองคำมาแล้วเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ด้วยการถ่ายทอดความทุกข์ระทมและเปลี่ยวเหงาของคนชายขอบ
โดยได้ ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์ (Frances McDormand) นักแสดงมากความสามารถที่เป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้มาถ่ายทอดเรื่องราวในบทของ เฟิร์น หญิงสาววัย 60 ที่พบมรสุมชีวิตครั้งใหญ่หลังจากชนบทในเนวาดาเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ เธอจึงตัดสินใจเก็บของขึ้นรถตู้และใช้ชีวิตในฐานะคนเร่ร่อน ซึ่งเธอก็ทำได้อย่างจับใจจน คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประจำปีนี้ไปครอบครอง
ซึ่งแม้จะไม่พลิกโผ แต่ก็ต้องเรียกได้ว่า โคลอี้ เจา นับเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของเวทีออสการ์ เพราะเธอนับเป็นผู้กำกับหญิงคนที่ 2 ต่อจาก แคทริน บิเกโลว์ (Kathryn Bigelow) ที่คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมมาครอง และยังเป็นผู้กำกับหญิงเชื้อสายเอเชียคนแรกที่รับรางวัลนี้ ด้วยพลอตและวิธีการเล่าเรื่องแสนละเมียดละไม ที่พาเราไปสำรวจชีวิตของคนไร้บ้านผู้เป็นเสมือนเหยื่อในโลกทุนนิยม
สีสันของการประกาศรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม คือการขึ้นมาส่งต่อรางวัลโดยผู้กำกับสุดกวนที่คว้ารางวัลสาขานี้เมื่อปีก่อนอย่าง บงจุนโฮ (Bong Joon-ho) จาก PARASITE ที่มาพร้อมกับล่ามสาวคู่ใจคนเดิม และยืนกรานที่จะพูดภาษาเกาหลีใต้ในงานประกาศรางวัลระดับนานาชาตินี้
รางวัลบทดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Original Screenplay) ปีนี้ตกเป็นของ เอมเมอรัลด์ เฟนเนลล์ (Emerald Fennell) มือเขียนบทสาว จาก PROMISING YOUNG WOMAN หนังที่โต้กลับ Rape Culture และพูดถึงการล้างแค้นอย่างแสบสันของผู้หญิงออกมาได้แบบครบรส โดยไม่ลืมหลักใหญ่ใจความที่หนังต้องการจะถ่ายทอด
ส่วน คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน (Christopher Hampton) และ ฟลอเรียน เซลเลอร์ (Florian Zeller) จาก THE FATHER คว้ารางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Adapted Screenplay) จากการดัดแปลงละครเวทีสู่ภาพยนตร์ที่บีบคั้นความรู้สึกด้วยการเล่าเรื่องราวของคนเป็นพ่อที่ต้องเผชิญกับภาวะอัลไซเมอร์ในช่วงสุดท้ายของชีวิต
รวมทั้ง แอนโธนี ฮอปกินส์ (Anthony Hopkins) ผู้ถ่ายทอดบทบาทของคุณพ่อผู้หลงลืมและต้องเผชิญกับความป่วยไข้ในชีวิตบั้นปลายออกมาได้อย่างน่าประทับใจจนคว้ารางวัล นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ไปครอบครอง
รางวัลบันทึกและผสมเสียงยอดเยี่ยม จะเป็นของใครไปไม่ได้ นอกจากเรื่องราวของมือกลองที่สูญเสียการได้ยินอย่าง SOUND OF METAL ที่มีให้ชมบน Amazon Prime ที่ควบ รางวัลลำดับภาพยอดเยี่ยม ไปครองด้วย จากจังหวะการตัดต่อที่เฉียบคมและดึงคนดูให้รู้สึกลุ้นระทึกบีบคั้นไปพร้อมกันกับตัวละคร
รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมตกเป็นของ แดเนียล คาลูยา (Daniel Kaluuya) นักแสดงผิวดำที่คว้าอีกรางวัลหลังชนะในสาขาเดียวกันนี้บนเวทีลูกโลกทองคำจากเรื่อง Judas and the Black Messiah หนังดราม่าสุดบีบคั้นที่พูดถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ และความไม่ลงรอยกันระหว่างคนผิวสีและเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม ในยุคหลังมาร์ติน ลูเธอร์ คิงเสียชีวิต
รวมทั้งเพลง FIGHT FOR YOU เพลงประกอบภาพยนตร์สุดทรงพลังที่ได้รางวัล เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Original Song) ไปครอบครองเช่นกัน
ส่วนรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมก็ไม่พลิกโผ สำหรับ ยูนยอจอง (Youn Yuh-jung) คุณยายจากครอบครัวเกาหลีอพยพในเรื่อง MINARI ที่นับเป็นนักแสดงหญิงเอเชียแท้ ๆ คนแรกที่คว้ารางวัลในสาขานี้ ถัดจาก มิโยชิ อูเมกิ ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกันจาก Sayonara และ นาตาลี พอร์ตแมน ลูกครึ่งอิสราเอล-อเมริกัน จาก Black Swan
แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม และ ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม (Original Score) ในปีนี้ ตกเป็นของ SOUL อนิเมชั่นเกี่ยวกับเสียงเพลงจากบ้าน พิกซาร์ (Pixar Animation Studio) หลังจากกวาดทั้งสองรางวัลเดียวกันนี้จากเวทีลูกโลกทองคำมาครอบครองเช่นกัน
ส่งท้ายด้วยสองผลงานจากบ้านเน็ตฟลิกซ์ ด้วยความฉูดฉาดของชิคาโก้ยุคทเวนตี้ ส่งให้ MA RAINEY’S BLACK BOTTOM ได้รางวัลเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมไปครอง และยังพา มีอา นีล (Mia Neal) และ จาไมกา วิลสัน (Jamika Wilson) คว้ารางวัลแต่งหน้าทำผมยอดเยี่ยมในฐานะผู้เข้าชิงหญิงสัญชาติแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกในสาขานี้ด้วย
ส่วน Mank ที่ เดวิด ฟินเชอร์ (David Fincher) ลงมือเขียนบทและกำกับเองก็คว้ารางวัลในสาขาสำคัญอย่าง ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม กำกับภาพยอดเยี่ยม ไปครองเช่นกัน นับเป็น 4 รางวัลที่ทรงคุณค่าที่เน็ตฟลิกซ์ได้ไปจากเวทีออสการ์ค่ำคืนนี้ โดยมีเพียง The Trial of the Chicago 7 ที่ไม่ได้รางวัลอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านไปเลย
รวมทั้งผู้ชนะในสาขาอื่น ๆ อย่าง
ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม: ANOTHER ROUND (เดนมาร์ก)
อนิเมชั่นขนาดสั้นยอดเยี่ยม: IF ANYTHING HAPPENS I LOVE YOU
ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม: TWO DISTANT STRANGERS
สารคดีสั้นยอดเยี่ยม: COLETTE
ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม: MY OCTOPUS TEACHER
เทคนิคการสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม : TENET
เราจึงสามารถพูดได้เต็มปากว่าแม้ปีนี้วงการภาพยนตร์ทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ไปเต็ม ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความคึกคักของเหล่าผู้ชมและคนทำหนังหายไป กลับกันออสการ์ในปีนี้ยิ่งเปิดกว้างและหลากหลายสำหรับคนทุกเพศ ภาษา เชื้อชาติ และสีผิว หลังจากเคยถูกวิพากย์จนเป็นประเด็นร้อนแรงในแฮชแท็ก #OscarsSoWhite ที่มีคนออกมาตั้งคำถามถึงการผูกขาดรางวัลออสการ์ไว้กับคนทำหนังและนักแสดงผิวขาวเท่านั้น
สามารถอ่านคอนเทนต์อื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่
- จากร้าน DVD เช่า สู่สตรีมมิ่งระดับโลก : ถอดรหัสความสำเร็จจากความเป็นมาของ Netflix
- รวบตึง ‘ซีรีส์เกาหลี’ สุดฮอตดูข้ามวันให้สมใจในช่วงสงกรานต์นี้!
- GODZILLA SINGULAR POINT ปฐมบทใหม่กับการหวนคืนสู่ NETFLIX !
- อนิเมะชื่อดัง 3 เรื่อง ที่ไม่ควรพลาดชมบน Netflix พร้อมตัวอย่างโปรเจ็กต์ที่กำลังจะฉายเร็วๆ นี้
- ทะยานสู่เทือกเขาร็อคกี้และลุ้นระทึกบนหัวรถจักรนิรันดร์แห่งความเหลื่อมล้ำใน Snowpiercer ซีซัน2
- RESIDENT EVIL: Infinite Darkness ออริจินัลซีรีส์อนิเมชั่นบน Netflix ในปีนี้!
- DOTA: Dragon’s Blood ซีรีส์อนิเมะเรื่องใหม่จากเกมยอดนิยมของ Valve
- Persona : ตัวละครแห่งชีวิต ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของนักร้องสาวIU (ลีจีอึน)
- ก้าวข้ามซับไตเติ้ลความสูงหนึ่งนิ้ว มองโลกผ่านเลนส์ในภาพยนตร์ของบงจุนโฮ