Repeat After Me: ชวนผู้อ่านทำความรู้จักภาวะ Loss of Identity และสำรวจเรื่องราวในวอร์ดผู้ป่วยจิตเวชจากมิวสิควิดีโอเพลง OMG จาก Newjeans
หลังจากทำสถิติถล่มทลายด้วยเพลง Pre-Released อย่าง Ditto ที่กวาดอันดับหนึ่งบนชาร์ตเพลงและสตรีมมิ่งออนไลน์ทุกเจ้าในเกาหลี ล่าสุดหลังจากพ้นปีใหม่มาได้เพียงหนึ่งวันสาวๆ Newjeans ก็ได้นำเสนอซิงเกิลอัลบัมชุดแรกอย่าง OMG และส่งเพลงแนวบัลติมอร์คลับในชื่อเดียวกันออกมา พร้อมมิวสิควิดีโอสุดกวนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและประเด็นน่าสนใจเราอยากจะชวนคุณผู้อ่านมาชมไปพร้อมๆ กันในคอลัมน์ Repeat After Me สัปดาห์นี้
เพลง OMG จาก Newjeans ยังคงเพลงแนวบัลติมอร์คลับ ( Baltimore club หรือ Bmore Club) ที่มีส่วนผสมของความเป็นเฮาส์และฮิปฮอปที่เน้นเสียงสังเคราะห์และเพอร์คัสชั่นที่วนซ้ำๆ ให้จังหวะที่ฟังแล้วชวนโยกหัวตามเช่นเคย โดยเนื้อหาของเพลงนี้ก็ยังเป็นเพลงรักสดใสที่มาพร้อมกับท่าเต้นที่น่าสนใจเช่นเดียวกับซิงเกิล Pre-Released อย่าง Ditto
มิวสิควิดีโอเปิดขึ้นมาในโรงพยาบาลที่อนุมานได้ว่าเป็นวอร์ดผู้ป่วยจิตเวช และมีทั้ง 5 สาวกำลังนั่งล้อมวงและพูดคุยเรื่องตัวตนของตนเองจากการตั้งคำถามของนายแพทย์ประจำวอร์ดซึ่งได้นักแสดงหนุ่ม คิมจูฮอน จากซีรีส์ Dr.Romantic2 และ It’s Okay to Not Be Okay มาร่วมแสดง
โดยสาวๆ ดูเหมือนจะกำลังอยู่ในภาวะที่สับสนเกี่ยวกับตัวตนของตนเอง เริ่มจากฮันนิที่มีพฤติกรรมหลงผิดและเห็นภาพหลอนว่าตนเองเป็นโทรศัพท์ไอโฟนซึ่งกำลังทำหน้าที่สารพัดอย่างเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้โทรศัพท์ ส่วนฮเยอินและดานิมองเห็นภาพหลอนจากการเสพติดสื่อมากเกินไป ทั้งภาพยนตร์และหนังสือนิทาน จนทำให้พวกเธอเริ่มสับสนและคิดว่าตนเองเป็นตัวเอกของเรื่องราวในภาพยนตร์อย่าง La Boum (1983) และ Subway (1985) รวมทั้งนิทานอมตะอย่างสโนว์ไวท์ เจ้าหญิงนิทรา ซินเดอเรลลา และเด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ
น้องเล็กของวงอย่างฮเยรินก็คลั่งใคล้ในแมวเหมียว จนเริ่มทำตัวเหมือนแมว วาดภาพแมว ไปจนถึงการกินขนมซองสำหรับแมวเพราะคิดว่าตนเองเป็นแมว เช่นเดียวกันกับพี่ใหญ่ของวงอย่างมินจีที่เชื่อว่าตัวเองไม่ได้มีอาการทางจิต และเป็นคนที่ปกติที่สุด เธอคิดว่าตนเองเป็นหมอที่พาสมาชิกวงคนอื่นๆ ขึ้นรถพยาบาลเพื่อไปเข้ารับการรักษา แต่แท้จริงแล้วเธอเองก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วยเช่นกัน
โดยชินอูซอก ผู้รับหน้าที่กำกับมิวสิควิดีโอทั้งเพลง OMG และ Ditto เคยเผยว่า ความน่าสนใจของวง Newjeans คืออิสระในการแสดงออกที่ถ่ายทอดเสน่ห์ในแบบเฉพาะตัวของเด็กๆ ออกมา แต่เมื่อพวกเธอเดบิวต์เป็นไอดอลและต้องอยู่ท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ ตัวตนและการแสดงออกของพวกเธออาจถูกตีความไปได้ในหลากหลายมิติรวมทั้งอาจจะถูกตัดสินแบบผิดๆ โดยไม่คำนึงถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงในการกระทำเหล่านั้น มิวสิควิดีโอเพลงนี้จึงสะท้อนเรื่องราวว่าจะเป็นอย่างไรหากไอดอลเหล่านี้ค่อยๆ สูญเสียตัวตนและอิสระในการแสดงออกของตนเองไปเพราะต้องกังวลกับคำวิจารณ์ของชาวเน็ตที่ถาโถมเข้ามามากจนเกินไป
แก่นของมิวสิควิดีโอเพลงนี้จึงไปคล้ายคลึงกับภาพยนตร์ไทยที่เพิ่งจะลาโรงไปเมื่อช่วงปลายปีอย่าง The Faces of Anne : แอน (2022) ผลงานการกำกับของเล็ก คงเดช จาตุรันต์รัศมี อย่างน่ามหัศจรรย์ เพราะในแอนก็เล่าถึงวิกฤตทางอารมณ์และความป่วยไข้ทางจิตใจของวัยรุ่นไทยที่อยู่ในภาวะสับสนและสูญเสียความเป็นตนเอง หรือ loss of identity เช่นกัน
ภาวะ loss of identity หรือ Identity Crisis เป็นความสับสนเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพ ตัวตน การดำเนินชีวิต รสนิยม รวมทั้งสังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่ ทำให้เรารู้สึกไม่เป็นตัวเอง สับสนใจความเป็นตนเอง และเริ่มตั้งคำถามว่าตัวเราคือใคร และอะไรที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเรากันแน่ ซึ่งภาวะทางใจนี้ก็อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและโรคทางจิตเวชที่หากไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม ก็อาจมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงจนนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้
นักจิตวิทยาชาวเยอรมัน เอริก เอริกสัน (Erik Erikson) ได้ให้คำอธิบายถึงภาวะวิกฤตในการค้นหาตัวตนนี้เกิดมาจากความกดดันเมื่อภาพที่เรามองเห็นตนเองผิดเพี้ยนไป จากการที่ตัวตนจริงๆ ที่กำลังเป็นนั้นไม่ตรงกับตัวตนในอุดมคติซึ่งอาจมาจากความคาดหวังของสังคม รวมทั้งความคาดหวังของตนเองที่เกิดจากการเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่น ทำให้เราเกิดความสับสนในตัวตนและอัตลักษณ์ของตนเอง (Identity Diffusion) และนำไปสู่การเริ่มเลียนแบบคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการเลียนแบบดารา ตัวละครในหนัง ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามความต้องการของสังคมเพื่อให้ได้รับการยอมรับ
ซึ่งในมิวสิควิดีโอ เราจะเห็นว่าในฉากหนึ่งดานิเริ่มเตือนสติสมาชิกในวงว่า “เด็กๆ กำลังพูดถึงอะไรกันอยู่ อย่าลืมสิ พวกเราก็คือ Newjeans ไง จำไม่ได้เหรอ ตอนนี้พวกเรากำลังถ่ายมิวสิควิดีโอกันไง” แถมมีการ Breaking the Fourth Wall หรือการทะลายกำแพงระหว่างตัวละครและผู้ชม ด้วยการเดินไปหาผู้กำกับและทีมงานมิวสิควิดีโอและถามว่า “ใช่ไหมคะ พวกเรากำลังถ่ายมิวสิควิดีโอกันอยู่”
ก่อนจะมีภาพของ Newjeans ทั้งจากมิวสิควิดีโอเพลงก่อนหน้า รวมทั้งตอนที่แสดงบนเวที ตัดสลับกัน แต่ก็ลงท้ายด้วยการที่ภาพไปหยุดที่มินจีซึ่งนอนในอ่างอาบน้ำหันมาพูดกับกล้องว่า “เอาล่ะ พอแค่นี้แหละค่ะ” ก่อนจะตัดภาพมาให้เห็นเธอในชุดกาวน์จิตแพทย์ เดินมาบอกให้สาวๆ Newjeans ที่เหลือเลิกถกเถียงกันถึงการมีอยู่ของตนเองและไปพักผ่อน เหลือเพียงสมุดวาดเขียนที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะ
โดยในช่วงท้ายของมิวสิควิดีโอเราจะเห็นตัวละครผู้ป่วยชายที่นั่งอยู่ที่มุมห้องและเฝ้ามองสาวๆ Newjeans ถกเถียงถึงการมีอยู่ของตนเองอย่างไม่รู้จบ และมองเห็นพวกเธอเป็นอะไรต่อมิอะไรหลากหลายอย่าง โดยมิวสิควิดีโอตัดภาพสลับเร็วๆ ให้เห็นว่าในสายตาของชายหนุ่ม พวกเธออาจจะเป็นผี นักดับเพลิง หรือแม้แต่เป็นเพียงภาพหลอนที่ไม่มีอยู่จริงก็ได้เช่นกัน
ซึ่งก็สอดคล้องกันกับซีนเต้นในท่อนถัดมาที่มีการหยิบเอาฟุตเตจจากมิวสิควิดีโอเพลง Ditto ที่ยังคงเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้ตีความว่าแท้จริงแล้วในมิวสิควิดีโอเพลงนั้นพวกเธอเป็นอะไรกันแน่ ระหว่างผี ภาพหลอน หรือความทรงจำที่แฟนคลับมีต่อวงไอดอล ผู้ป่วยชายคนนี้จึงอาจจะเป็นภาพแทนของเหล่าบันนี่ส์ ซึ่งเป็นแฟนคลับที่คอยเฝ้ามองการมีอยู่ของพวกเธอ และพยายามหาคำตอบถึงตัวตนที่พวกเธอเป็นอย่างแท้จริงโดยไม่ตัดสิน ซึ่งก็ทำให้เขามองเห็นภาพวาดในสมุดของฮเยรินกลายเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในช่วงท้ายมิวสิควิดีโอนั่นเอง
แต่นอกจากเรื่องราวของทั้งห้าสาวและหนุ่มบันนี่ส์ในวอร์ดผู้ป่วยจิตเวช ในฉากหลังเครดิตยังมีฟุตเตจแถมท้ายสั้นๆ เผยให้เห็นใครคนหนึ่งกำลังเสิร์ชถึงชื่อของ Newjeans และพิมพ์ทวิตเตอร์ในทางลบว่า “มิวสิควิดีโอน่าอึดอัดจัง แค่เต้นๆ ร้องๆ เห็นหน้าสวยๆ” แต่ยังไม่ทันที่เขาจะกดส่ง แพทย์หญิงมินจีก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อแจ้งว่าถึงเวลาเลิกเล่นอินเตอร์เน็ตแล้ว
แน่นอนว่าแก็กเล็กๆ ที่ถูกใส่มาในมิวสิควิดีโอช่วงท้ายเป็นการจิกกัดที่ถูกส่งไปถึงเหล่าแอนตี้แฟนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงวงในทางที่ไม่ดี แต่แฟนเพลงรวมถึงชาวเน็ตทั้งไทยและเกาหลีก็มองว่านี่เป็นวิธีการสื่อสารที่ไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ที่หยิบเอาโรคทางจิตเวชมาพูดในเชิงเสียดสีคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงวง
เพราะก่อนหน้านี้ มินฮีจิน CBO (Chief Brand Officer) ของ HYBE ผู้เป็นคนปลุกปั้นวง Newjeans และเคยทำงานเบื้องหลังให้กับศิลปินดังของค่าย SM Entertainment อย่าง SHINee, F(x) รวมถึง Red Velvet เคยถูกชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยและติติงเรื่องที่เธอแขวนภาพนู้ดเด็กไว้ในบ้าน รวมทั้งชอบนำแรงบันดาลใจจากงานที่ Oversexualize เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมาทำเป็นคอนเซ็ปต์ของงานอาร์ตต่างๆ รวมทั้งการถ่ายแบบ
ซึ่งหลายต่อหลายครั้งพฤติกรรมที่น่าสงสัยรวมทั้งแรงบันดาลใจที่มีความหมิ่นเหม่ทางศีลธรรมนี้ของมินฮีจินก็ทำให้มีการตั้งคำถามจากชาวเน็ตว่าเธอมีรสนิยมใคร่เด็ก หรือพีโดฟิเลีย (Pedophilia) หรือเปล่า และการที่เธอเข้ามาดูแลวง Newjeans ซึ่งสมาชิกทั้งวงยังคงไม่บรรลุนิติภาวะจะทำให้เธอใช้โอกาสนี้ในการทำคอนเซ็ปต์ที่ไม่เหมาะสมให้กับวงเช่นเดียวกันกับที่เธอเคยทำกับ SHINee, F(x), Red Velvet รวมถึง NCT DREAM หรือเปล่า ซึ่งมินฮีจินก็ไม่เคยมีคำอธิบายที่ฟังแล้วสมเหตุสมผลกับกรณีต่างๆ ในอดีตที่ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัย
แม้ฟุตเตจหลังเครดิตจะเป็นการจิกกัดลอยๆ แต่แฟนคลับรวมทั้งชาวเน็ตจำนวนมากก็ออกมาตำหนิว่า ฉากที่เปรียบให้ชาวเน็ตที่วิจารณ์วงเป็นผู้ป่วยทางจิตเวชนี้ เป็นความจงใจที่มินฮีจินตั้งใจใช้แซะชาวเน็ตออกมาตั้งคำถามถึงรสนิยมและพฤติกรรมที่มีปัญหาของเธอ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเปรียบเปรยที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ยังเป็นเหมือนการเอาสาวๆ Newjeans มาใช้เป็นเกราะกำบังและเครื่องมือในการจิกกัดชาวเน็ตที่ไม่ได้มีปัญหากับวงแต่แรก แต่ตั้งคำถามถึงพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงของตัวมินฮีจินโดยตรงอีกด้วย
ติดตามคอลัมน์ Repeat After Me ที่จะชวนคุณมาวิเคราะห์และเจาะลึกเรื่องราวน่าสนใจที่ถูกซุกซ่อนไว้ในมิวสิควิดีโอและซีรีส์ที่กำลังเป็นกระแสได้ทุกเดือนบน Padthai.co
CREDIT:
PHOTOS: COURTESY OF ADOR AND HYBE ENTERTAINMENT
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้บน Padthai.co
- Repeat After Me: ชวนไขปริศนาที่ซ่อนในมิวสิควีดีโอแนวย้อนยุคสุดคัลท์ Ditto ซิงเกิลใหม่สุดฮ็อตจากสาวๆ Newjeansที่ชวนให้นึกถึงหนังเก่าแนว J-Horror ยุค 2000s ด้วยบรรยากาศสุดหลอน แต่ซ่อนข้อความถึงเหล่าบันนี่ส์ แฟนคลับของพวกเธอ
- Pink Venom แผลงฤทธิ์! Blackpink คัมแบ็กสุดปัง ทุบสถิติ 100 ล้านวิวภายในเวลาเพียง 30 ชั่วโมง นำเสนอมิวสิควีดีโอ Pink Venom พรี-ซิงเกิ้ลสุดร้อนแรงจากอัลบัม BORN PINK และการกลับคืนบัลลังก์อีกครั้งของราชินีผู้พาวงการ K-POP ไปสู่ระดับโลก
- ลองฟัง: ได้เวลารักตัวเอง! Self love ผลงานใหม่จากเจ้าพ่อคอนเน็คชั่น กอล์ฟ F.HERO กับการรวมตัวของ 2 แรปเปอร์เกาหลี ยูนมิเร – TigerJK และ Mr.Everything ของเหล่าเพนกวิ้น บิวกิ้น พุฒิพงศ์
- รีวิวหลังดูจบแบบไม่สปอยล์ : สิ้นสุดการรอคอย AVATAR 2 : The Way of Water วิถีแห่งสายน้ำ การกลับมาของครอบครัวซัลลีและชนเผ่าเมทคายีน่าของเหล่านาวีแห่งท้องทะเล งานภาพสวยจับใจไม่เสียชื่อผู้กำกับระดับเทพ เจมส์ คาเมรอน ฟันรายได้ทั่วโลกวันแรก 553 ล้านบาท
- Black Eye เพลงป๊อปพังค์สุดเท่ ผลงานซิงเกิล Solo Mix-Tape ครั้งแรกจากเวอร์นอน ชเว แรปเปอร์หนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกันมากความสามารถแห่งวง Seventeen