เปิดตัวนาฬิกาอวกาศรุ่นล่าสุด ที่เชื่อมโยงกับรุ่นอดีตอันโด่งดัง อย่าง Speedmaster Skywalker X-33 สู่ทายาทรุ่นใหม่ Speedmaster X-33 Marstimer
อีกหนึ่งผลงานแห่งความร่วมมือ ที่ครั้งนี้ OMEGA (โอเมก้า) และพันธมิตร European Space Agency (ESA) ได้เปิดตัวนาฬิกาอวกาศรุ่นใหม่ ที่ยังคงความเชื่อมโยงถึงเรื่องราวการสร้างสรรค์นาฬิกาเรือนแรกที่ถูกสวมใส่บนดวงจันทร์ และนำมาสู่เส้นทางแห่งการเป็นนาฬิกาอวกาศของ Speedmaster รุ่นต่างๆ เช่นเดียวกับนาฬิการุ่นล่าสุดนี้ ที่สานต่อหน้าประวัติศาสตร์ของการจับวัดทุกๆ ช่วงขณะเวลาบนผืนโลก (Earth) และดาวอังคาร (Mars) พร้อมทั้งตั้งชื่อให้กับผลงานใหม่นี้ว่า Speedmaster X-33 Marstimer
ขับเคลื่อนพลังให้กับ Marstimer รุ่นใหม่โดยกลไก 5622 Calibre ของ OMEGA ซึ่งทั้งเที่ยงตรงและแม่นยำสูง สามารถชดเชยอุณหภูมิความร้อน จากการเป็นกลไกควอตซ์ซึ่งควบคุมการทำงานของทั้งฟังก์ชันดิจิทัลและอนาล็อกมากมายของนาฬิกา และด้วยประสิทธิภาพสูงสุดเช่นกัน โดยในรุ่น Speedmaster X-33 Marstimer ได้ถ่ายทอดผ่านตัวเรือนนาฬิกาโครโนกราฟ ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45.0 มิลลิเมตร และทำจากวัสดุสุดทนทานและน้ำหนักเบาพิเศษ อย่าง ไทเทเนียม เกรด 2 มาพร้อมความครบเครื่องของฟังก์ชันติดตามเวลาและแสดงเวลาไทม์โซนต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงบนดาวเคราะห์สีแดงสุดลึกลับอย่าง ดาวอังคาร นอกจากนี้ ยังถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเหลือทีมนักวิทยาศาสตร์ ที่ Marstimer ใหม่นั้นประกอบด้วยเครื่องมือสำคัญๆ มากมาย สำหรับใช้ทำงานร่วมกับทีมวิจัยอวกาศและการทำงานภาคอวกาศ
ฟังก์ชันเฉพาะเหล่านี้ พัฒนาขึ้นภายใต้ใบอนุญาตสิทธิบัตรของ ESA ซึ่งรวมไปถึง ฟังก์ชัน MTC ในการติดตาม sol date และ time ของดาวอังคาร ณ เส้นเมริเดียนแรก (prime meridian) ที่ช่วยติดตามเวลาหนึ่งวันบนดาวอังคารซึ่งมีความยาวนานกว่าบนผืนโลก 39 นาทีได้อย่างถูกต้อง เช่นเดียวกับนวัตกรรมของเข็มชี้ทิศของดวงอาทิตย์ (solar compass) เพื่อให้ทราบถึงทิศเหนือที่แท้จริงบนผืนโลกและบนดาวอังคาร ขณะที่ผู้สวมใส่นาฬิกายังสามารถเข้าสู่การใช้งานเครื่องมืออื่นๆ ที่พบได้นาฬิการุ่นปกติของ Speedmaster Skywalker X33 เช่น ฟังก์ชัน MET (Mission Elapsed Time), PET (Phase Elapsed Time), นาฬิกาปลุกเตือน (alarms) และปฏิทินถาวร (perpetual calendar)
คงไว้ด้วยมาตรฐานและคุณสมบัติเฉพาะของบรรดานาฬิกาสำหรับมืออาชีพของ OMEGA เช่นเดียวกับสไตล์อันโดดเด่น ซึ่งรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับหน้าปัดลุคคลาสสิก ประกอบด้วยพื้นหลังสีตัดกันกับการแสดงค่าต่างๆ ทั้งในรูปแบบอนาล็อกและดิจิทัล เพื่อการอ่านค่าได้อย่างชัดเจนสูง ทั้งยังทำให้มีหน้าตาที่สะอาดและชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะกับสัญลักษณ์ของโลก (Earth) และดาวอังคาร (Mars) ซึ่งช่วยสร้างความแตกต่างให้กับแต่ละฟังก์ชันเฉพาะที่ถูกเลือกใช้ บนหน้าปัดยังคงรายล้อมด้วยขอบตัวเรือนอลูมิเนียมอโนไดซ์ออกซาลิกในเฉดสีแดงน้ำตาลเฮมาไทด์ ชวนให้นึกถึงฝุ่นสีแดงของดาวอังคาร เฉดสีเฉพาะตัวนี้ยังนำมาใช้กับเข็มวินาทีกลางซึ่งไล่เฉดจากสีดำไปจนถึงสีแดงเฮมาไทด์ นับเป็นอีกหนึ่งรหัสงานออกแบบที่ส่งสัญญาณถึงสถานะการเป็นอุปกรณ์และเครื่องมืออวกาศสำหรับมืออาชีพของ OMEGA อย่างแท้จริง
และเมื่อพลิกชมบนฝาหลัง ยังคงประทับนูนบนศูนย์กลางไว้ด้วยสัญลักษณ์ของ Speedmaster และโลโก้ Seahorse อันโด่งดังของแบรนด์ และล้อมรอบด้วยคำว่า SPEEDMASTER X-33 MARSTIMER, ESA TESTED AND QUALIFIED ที่ประกาศถึงความร่วมมือและสัมพันธภาพของเรือนเวลารุ่นนี้
สำหรับ Speedmaster X-33 Marstimer สามารถเลือกจับคู่ได้กับสายสร้อยข้อมือไทเทเนียม เกรด 2 และเกรด 5 รวมถึงยังมาพร้อมกับสาย NATO ออกแบบขึ้นพิเศษ และเครื่องมือสำหรับใช้ถอดเปลี่ยนสาย โดยส่งมอบตัวเลือกของสายและเครื่องมือนี้มากับกระเป๋าม้วนเก็บนาฬิกาออกแบบขึ้นพิเศษ พร้อมการตกแต่งรายละเอียดด้วยเฉดสีแดง ที่ถอดแบบมาจาก Hebes Chasma หลุมในหุบเหวบนพื้นผิวดาวอังคารนั่นเอง
แม้ว่าเรายังคงเฝ้ารอชมการเดินทางและภารกิจสู่การเยือนดาวอังคารกันต่อไป กระนั้น นาฬิการุ่นใหม่ก็ไม่ต้องรอที่จะได้ครอบครองแล้ว เพราะเปิดจำหน่ายพร้อมกันแล้วหลายแห่งทั่วโลก ให้บรรดาแฟนๆ อวกาศ มืออาชีพ และนักสะสมผู้หลงใหลในตำนานแห่งนาฬิกาอวกาศ ได้จับจองและสวมใส่สหายแห่งอวกาศอันสมบูรณ์แบบอีกหนึ่งผลงานจากตระกูลอันโด่งดังตลอดกาล อย่าง OMEGA Speedmaster Moonwatch
หมายเหตุ: ESA เป็นเพียงองค์กรพันธมิตร และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิต หรือการค้าและจำหน่ายนาฬิกา OMEGA Speedmaster X-33 Marstimer
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF OMEGA
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่