Moritz Grossmann เปิดตัวนาฬิการุ่น DATE กับเทรนด์สีใหม่ อย่าง เทอร์คอยซ์ ที่เผยความประณีตบรรจงบนหน้าปัดแกะลายกิโยเช่งดงาม
นับเป็นอีกหนึ่งผลงานนำเทรนด์ด้วยความสวยงามโดดเด่นของหน้าปัดสีเทอร์คอยซ์ พร้อมแกะลายกิโยเช่ (guilloché) อย่างวิจิตรบรรจง กับเรือนเวลามาสเตอร์พีซใหม่ของ Moritz Grossmann (มอริตซ์ กรอสส์มันน์) ในรุ่น DATE Turquoise ที่นำเสนอการแสดงวันที่แบบ jumping date ด้วยสเกลวันที่แบบรอบวง และมาร์กเกอร์วันที่รูปทรงวงเล็บ (bracket) ที่โฉมหน้าใหม่ของนาฬิการุ่นรังสรรค์ด้วยงานฝีมืออันประณีตสวยงามนี้ยังผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดพิเศษเพียง 18 เรือนทั่วโลกเท่านั้น
ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องทะเลและผิวน้ำอันเปล่งประกายแสงระยิบระยับ ตลอดจนสีฟ้าไอซ์บลูราวกับผืนน้ำแข็ง ที่นำมาสู่การตีความของหน้าปัดแกะลายกิโยเช่ พร้อมทั้งแต่งแต้มด้วยเฉดสีเทอร์คอยซ์อันบริสุทธิ์ สื่อถึงแรงบันดาลใจที่นำมาซึ่งความมีชีวิตชีวาและพลังเชิงบวก โดยถ่ายทอดอย่างงดงามไว้บนหน้าปัดนาฬิกาของรุ่น DATE Turquoise จากแบรนด์นาฬิกาอิสระอย่าง Moritz Grossmann ผู้นำเสนอแนวคิดของการแสดงวันที่แบบ jumping date พร้อมทั้งเวอร์ชันอันโดดเด่นใหม่ของนาฬิกาหน้าปัดแกะลายกิโยเช่ในเฉดสีเทอร์คอยซ์ได้อย่างงดงามไม่ซ้ำใคร
โดยนาฬิการุ่นพิเศษซึ่งผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 18 เรือนนี้ สร้างสรรค์ขึ้นผ่านความร่วมมือของโรงงานผลิตหน้าปัดอันประณีต Comblémine โดย Kari Voutilainen ช่างนาฬิกาผู้มีชื่อเสียง ซึ่งตั้งอยู่ใน Val-de-Travers ของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อรังสรรค์หน้าปัดนาฬิกาแกะลายกิโยเช่ที่มีความสุกสกาวและพิถีพิถันในรายละเอียดของลวดลาย พร้อมทั้งบรรจุด้วยหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีเล็กที่ดึงดูดสายตา ด้วยเทคนิคการแกะลายกิโยเช่อันเป็นหนึ่งในงานฝีมือเก่าแก่ที่สืบทอดความเชี่ยวชาญนับจากอดีต และมีเพียงช่างฝีมือจำนวนไม่มากนักในปัจจุบันที่ยังคงสืบทอดความชำนาญและทักษะนี้ กับเอกลักษณ์ของลวดลายเรขาคณิตที่ประกอบขึ้นจากเส้นลายอันละเอียดอ่อนที่บรรจงแกะสลักลงบนหน้าปัด โดยการใช้เครื่องแกะลายกิโยเช่ และอาศัยเพียงความชำนาญของช่างฝีมือผู้ควบคุมลวดลาย เพื่อให้มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ของภาพที่มีมิติและมีความแม่นยำระหว่างช่องว่างและการเว้นระหว่างเส้นลายต่างๆ ความสม่ำเสมอและแม่นยำอันสมบูรณ์แบบของลวดลายและภาพที่ได้นั้นจึงนับเป็นหัวใจอันโดดเด่นของเทคนิคแกะลายกิโยเช่ เช่นเดียวกับการมอบซึ่งมิติของแสงสะท้อนจากการขัดเงาวาวพิเศษบนร่องโพรงต่างๆ โดยใช้เพชร เพื่อมอบภาพของแสงสะท้อนอันชวนหลงใหล
โฉมหน้าใหม่นี้ยังผสมผสานด้วยการเล่นระหว่างสีเทอร์คอยซ์และสีน้ำเงิน รวมถึงกรอบวงแหวนของหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีเล็กทำจากเงินและผ่านการเผาพร้อมทั้งเคลือบด้วยเทคนิคพิเศษ ซึ่งมอบการหล่อหลอมของเฉดสีอันลุ่มลึกและชวนให้นึกถึงรัศมีของแสงอาทิตย์ซึ่งตกกระทบบนผิวน้ำอันเป็นแรงบันดาลใจของรุ่น นอกจากนี้ยังเสริมความโดดเด่นด้วยสเกลนาทีที่ขยับเข้ามาด้านในหน้าปัดมากขึ้นเล็กน้อย เพื่อมอบพื้นที่ให้กับสเกลวันที่แบบรอบวง ด้วยตัวเลข 1 ถึง 31 ในโทนสีน้ำเงินตัดกับฉากหลังของหน้าปัดสีฟ้าสว่าง ขณะที่สเกลชั่วโมงและนาทีประทับลงบนวงแหวนสีเงินในรูปแบบเครื่องหมายจุด โดยการผสมผสานของสีเทอร์คอยซ์อันเรืองรองของหน้าปัดกิโยเช่ และตัวเรือนซึ่งทำจากสเตนเลสสตีลขัดเงา ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41.0 มิลลิเมตร และหนา 11.85 มิลลิเมตร นี้ได้ถ่ายทอดภาพอันกลมกลืนและมอบสไตล์แคชชวลหรูได้อย่างทันสมัย
บรรจุด้วยเข็มชี้ทรงลูกไม้สะท้อนความอ่อนช้อย และรังสรรค์ด้วยมือภายในโรงงาน จากนั้นจึงอบด้วยความร้อนเพื่อให้เป็นสีน้ำเงิน และรับไปสเกลวันที่ที่รายล้อมรอบหน้าปัด เช่นเดียวกับมาร์กเกอร์บอกวันที่รูปทรงวงเล็บที่ทำให้เป็นสีน้ำเงินอย่างประณีตโดยการแสดงเวลาของนาฬิการุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยการทำงานของกลไก Calibre 100.3 พร้อมทั้งการแสดงวันที่แบบ jumping date ที่สามารถปรับตั้งได้ทั้งสองทิศทาง รวมไปถึงสามารถปรับตั้งได้แม้ก่อนเวลาเที่ยงคืนหรือหลังเที่ยงคืนทันที
โดยการแสดงวันที่จะสามารถปรับตั้งได้อย่างถูกต้องผ่านสปริงคลิก (click spring) รวมถึงการปรับตั้งได้อย่างแม่นยำด้วยระบบการทำงานของ switching finger และ switching wheel ซึ่งช่วยให้สามารถปรับตั้งวันที่ได้ทั้งเดินหน้าและถอยหลังอย่างง่ายดายและทำได้ทุกช่วงเวลา หรือแม้กระทั่งขณะที่กลไกนาฬิกากำลังงานอยู่ โดยการปรับตั้งวันที่นั้นยังคงใช้งานผ่านเม็ดมะยมปรับตั้งแยก ณ ตำแหน่ง 10 นาฬิกา ที่สามารถปรับหมุนได้ทั้งสองทิศทาง นับเป็นวิถีของการแสดงวันที่อันสมบูรณ์แบบและแม่นยำสูง รวมถึงมอบประสิทธิภาพของการอ่านค่าได้อย่างชัดเจนและสะดวกสบาย
DATE Turquoise มาพร้อมฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ที่เผยความสวยงามประณีตในการตกแต่งกลไกด้วยงานฝีมือและโชว์การทำงานอันแม่นยำของกลไก Calibre 100.3 ซึ่งมาพร้อม Grossmann balance ป้องกันจากแรงสะเทือน ผ่านการตกแต่งและแกะสลักด้วยมือบนชิ้นส่วนกลไกสำคัญ ทั้ง balance cock, escape-wheel cock ตลอดจนสกรูระดับไมโครมิเตอร์ Grossmann และด้วยลวดลายเอกลักษณ์ เช่น Glashütte ribbing ที่ล้วนอุทิศให้กับงานฝีมือและศิลปะแห่งความแม่นยำ นอกจากนี้ กลไกชุดนี้ยังผ่านการปรับตั้งในห้าตำแหน่ง โดยประกอบด้วยชิ้นส่วนอันซับซ้อนถึง 259 ชิ้น และทับทิม 26 เม็ด และมอบพลังงานสำรองได้นาน 42 ชั่วโมงเมื่อไขลานเต็ม ทั้งยังมาพร้อมระบบหยุดวินาทีสำหรับการปรับตั้งเวลาอย่างเที่ยงตรง รวมถึงปุ่มกดสำหรับเริ่มต้นการทำงานของกลไก โดยถ่ายทอดความสง่างามลงตัวด้วยการประกอบคู่มากับสายหนังจระเข้เย็บด้วยมือ และหัวเข็มขัดทำจากสเตนเลสสตีล
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF MORITZ GROSSMANN
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่