เดินทางไปกับเวลาแบบเหนือจินตนาการ ที่รังสรรค์โดยการตีความและงานฝีมือของ Hermès ในนาฬิการุ่นล่าสุด Arceau Les Folies Du Cie
นับเป็นผลงานอีกหนึ่งรุ่นที่ Hermès (แอร์เมส) เปิดตัวในงาน Watches & Wonders Geneva 2022 ที่ผ่านมา และยังคงเป็นที่พูดถึงเสมอ ด้วยเพราะแนวคิด บวกกับงานออกแบบและสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวเหนือจินตนาการ การเดินทาง และความวิจิตรสวยงามของประดิษฐกรรมเวลา ซึ่งครั้งนี้ แบรนด์ยังคงผสมผสานระหว่างความฝัน แรงบันดาลใจ และผลงานสร้างชื่อเสียงมาหลอมรวมไว้ภายใต้ความพิเศษของนาฬิกา Arceau Les folies du ciel
ได้แรงบันดาลใจมาจากวันเวลายุคแรกเริ่มแห่งการพิชิตท้องฟ้า พร้อมทั้งสดุดีแด่เหล่านักบุกเบิก ผู้ซึ่งไม่เคยย่อท้อกับความเชื่อที่ว่า สักวันหนึ่ง มนุษย์เรานั้นจะสามารถโบยบินกลางเวหาได้ โดยเรื่องราวและแนวคิดนี้ได้ถูกสานจินตนาการมาอยู่ภายใต้ความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนาฬิกา Arceau อีกหนึ่งตำนานการสร้างสรรค์ที่ยังคงเดินหน้าสร้างวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง นับจากการรังสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ. 1978 โดย Henry d’Origny ที่คอลเลกชันเรือนเวลา Arceau ของ Hermès ได้ร่วมอุทิศความโดดเด่นของรูปลักษณ์และงานออกแบบ เพื่อเป็นส่วนผสมที่ลงตัวให้กับการพัฒนาและพลังสร้างสรรค์ของแบรนด์เสมอ
มาจากลวดลายบนผืนผ้าพันคอไหม «Les folies du ciel» ของ Loïc Dubigeon
เหมือนเช่นในรุ่นล่าสุดของ Arceau Les folies du ciel อีกหนึ่งทายาทความโดดเด่นของทั้ง Arceau รวมถึงแรงบันดาลใจและงานฝีมือของ Hermès ซึ่งในรุ่นนี้ สิ่งที่โดดเด่นสะกดสายตาได้เป็นอย่างแรกนั้นย่อมหนีไม่พ้นความสวยงามและสีสันสดใสมีชีวิตชีวาของหน้าปัด ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างภาพวาด งานแกะสลัก และการเคลื่อนไหว องค์ประกอบเหล่านี้ยังหลอมรวมกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวของรุ่น ซึ่งหากสังเกตแล้ว เรายังค้นพบถึงแรงบันดาลใจที่ได้มาจากลวดลายบนผืนผ้าพันคอไหม «Les folies du ciel» ของ Loïc Dubigeon ออกแบบขึ้นในปี ค.ศ. 1984 เพื่อร่วมสดุดีให้กับองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการศึกษาเกี่ยวกับยานบิน นำมาสู่การถ่ายทอดถึงช่วงเวลาแห่งการบุกเบิกด้านการบินในยุคแรกเริ่มเหล่านั้น เช่นเดียวกับการพลิกจากความใฝ่ฝันของคนเรา มาสู่เรื่องราวแห่งความเป็นจริงได้สำเร็จ เมื่อมนุษย์เรานั้นสามารถบินได้ หลังผ่านการศึกษาวิจัยมากมาย นับตั้งแต่การศึกษาที่จริงจังและสำคัญที่สุด จนถึงการศึกษาอันเหนือจินตนาการมากที่สุดเช่นกัน ซึ่งนั่นพิสูจน์ว่าแม้เป็นเพียงความฝัน สักวันหนึ่งก็อาจกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้
จวบจนเริ่มต้นศตวรรษที่ 20 ที่โลกได้พบกับความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากมาย รวมถึงเรื่องราวของนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในการประดิษฐ์คิดค้นและพัฒนาฮอตแอร์บอลลูน ไปจนถึงเรือเหาะและเรือบินอากาศ จึงนับเป็นยุคสมัยและช่วงเวลาสำคัญของการบุกเบิกและพยายามตามความฝัน ที่ Hermès เองได้เลือกหยิบยกมาถ่ายทอดไว้ภายนาฬิการุ่นพิเศษสุดนี้ด้วย
สำหรับ Arceau Les folies du ciel ได้ถ่ายทอดทั้งศาสตร์และศิลป์ของเครื่องบอกเวลาภายใต้จิตวิญญาณเดียวกันของการสร้างสรรค์บุกเบิก โดยรุ่นนี้เผยโฉมาพร้อมกับตัวเรือนไวท์โกลด์ของ Arceau ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 38.0 มิลลิเมตร และการปกป้องของกระจกหน้าปัดและฝาหลังแซฟไฟร์เคลือบกันแสงสะท้อน พร้อมทั้งเผยให้เห็นการขับเคลื่อนภายในโดยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ H1837 ผลิตภายในโรงงาน Manufacture Hermès กับขนาดกลไกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 25.6 มิลลิเมตร ซึ่งมอบการทำงานความถี่ 4 เฮิรตซ์ หรือ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และสำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง บรรจุด้วยการแสดงชั่วโมงและนาทีบนหน้าปัด รวมถึงการตกแต่งกลไกด้วยงานฝีมืออย่างประณีตสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นบนแท่นเครื่องฐานตกแต่งด้วยลายเกรนวงกลมและลายก้นหอย สะพานจักรและโรเตอร์ขึ้นลานขัดแต่งแบบซาติน ตลอดจนลวดลาย “H” อันเป็นเอกลักษณ์
ส่วนความสวยเด่นของหน้าปัดนาฬิกานั้น นอกจากการรังสรรค์ขึ้นจากเปลือกหอยมุกและพื้นผิวแบบเหลือบสีแล้ว ยังโดดเด่นด้วยภาพของฮอตแอร์บอลลูนสีชมพูนีโอราไลต์และสีเขียวสองลำ ที่โบยบินล่องลอยไปตามคลื่นสายลม โดยผืนผ้าใบของบอลลูนยังผ่านกระบวนการเผาภายในเตา เพื่อมอบความโค้งและมีมิติ เหมือนกับภาพของลมร้อนที่ค่อยๆ เติมในบอลลูน และพาบอลลูนขึ้นลอยลำเหนืออากาศ ขณะที่แต่ละพื้นผิวนั้นยังผ่านการขัดเงาด้วยมือ เพื่อมอบประกายรัศมีของแสงสะท้อนเจิดจรัส โดยบอลลูนทั้งสองลำผูกติดกับเรือกอนโดลาทำจากไวท์โกลด์ และวาดด้วยมืออย่างสวยงามเป็นรูปทรงนก สัญลักษณ์ดั้งเดิมของการเดินทางและการย้ายถิ่น และนับเป็นแรงบันดาลใจแรกของมนุษย์ในการประดิษฐ์เรือบินแห่งอนาคต
ลอยเหนือขึ้นไป ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ติดตั้งไว้ด้วยบอลลูนเคลื่อนไหว ซึ่งวาดขึ้นด้วยมือและนำมาติดประกอบบนหน้าปัด ผ่านการออกแบบอย่างสมดุล และสามารถหมุนอยู่บนแกนในจังหวะเดียวกันกับการเคลื่อนไหวของข้อมือผู้สวมใส่ แสดงออกถึงความบางเบา และมอบสัมผัสเหนือจินตนาการที่เป็นต้นแบบของผลงานสร้างสรรค์ของ Hermès พร้อมด้วยคำว่า «Hermès Paris» ประทับนูนราวกับลายเซ็นลับ ที่ตั้งใจมอบให้กับเหล่านักเดินทางทั้ง 24 คน ที่จะได้ครอบครองเรือนเวลาซีรีส์พิเศษนี้ที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 24 เรือนเท่านั้น สำหรับ Arceau Les folies du ciel ยังจับคู่ลงตัวมากับสายหนังจระเข้สีครีม และกันน้ำได้ลึกระดับ 30 เมตร
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF HERMÈS
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
