ปังแบบไม่มีอะไรมากั้น! SNSD กลับมารวมตัวอีกครั้งในอัลบัมชุดใหม่ Forever 1 พร้อมรายการวาไรตี้ Soshi TamTam ฉลองครบรอบเดบิวต์ 15 ปี
แม้จะห่างหายจากการปล่อยอัลบัมเต็มแบบสมาชิกพร้อมหน้าไปตั้งแต่ปีค.ศ. 2017 และแยกย้ายกันไปเติบโตในเส้นทางบันเทิงของแต่ละคนแล้ว แต่การกลับมารวมตัวกันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับตำนานเกิร์ลกรุ๊ปยุค 90s อย่างโซนยอชีแด (SNSD ; Girls’ Genera-tions) เพราะล่าสุดสาวๆ ได้นำเสนออัลบัมชุดใหม่ให้แฟนๆ หายคิดถึงกันด้วยสมาชิกพร้อมหน้าในอัลบัม Forever 1
อัลบัม Forever 1 เป็นผลงานอัลบัมเต็มชุดแรกในรอบ 5 ปีของวง SNSD นับตั้งแต่อัลบัม Holiday Night ที่นำเสนอออกมาในปีค.ศ. 2017 ก่อนที่สมาชิกหลายๆ คนในวงจะตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับค่าย SM Entertainment เพื่อโฟกัสกับผลงานเดี่ยวในบทบาทอื่นๆ ซึ่งก็แน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้พาอัลบัมชุดใหม่ของพวกเธอไปครองชาร์ต worldwide iTunes album chart ในอันดับ 1
และยังขึ้นเป็น Top Album ที่ทำยอดขายสูงที่สุดประจำสัปดาห์ใน 31 ประเทศ ทั้งในโซนยุโรปอย่างสวีเดน ฟินแลนด์ รัสเซีย ฝั่งอเมริกาเหนือและใต้อย่างเม็กซิโก เปรู บราซิล รวมทั้งประเทศในแถบเอเชียทั้งฮ่องกง มาเลเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์และประเทศไทยเราด้วย!
ในอัลบัมชุดใหม่นี้ประกอบไปด้วย 10 บทเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวและหมุดหมายการเดินทางอันยาวไกลของพวกเธอและโซวอน (แฟนคลับ) ในวงการดนตรีมาตลอดระยะเวลา 15 ปี โดยมีเพลงไตเติ้ลชื่อเดียวกับอัลบัมอย่าง Forever 1 เป็นเพลงโปรโมต เล่าเรื่องราวความรักจากคนสำคัญที่จะอยู่เป็นนิรันดร์ และยังคอยมอบความรักและพลังใจให้แก่กันไม่ว่าชีวิตจะไปอยู่ในจุดไหน ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเนื้อหาของเพลงนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อส่งต่อความรักที่พวกเธอมีให้กับเหล่าโซวอน แฟนคลับของพวกเธอนั่นเอง
โดยในเพลงนี้ได้เคนจี (KENZIE) โปรดิวเซอร์มากฝีมือที่เคยร่วมงานกับ SNSD มาแล้วในผลงานสร้างชื่ออย่าง Oh! รวมทั้งเพลงเดบิวต์อย่าง Into The New World มารับหน้าที่แบบเบ็ดเสร็จทั้งการเขียนเนื้อเพลง ดนตรี รวมถึงการเรียบเรียงและโปรดิวซ์ และด้วยความเป็นคนคุ้นเคยของสาวๆ โซนยอชีแดนี้เอง เพลงไตเติลฉลองครบรอบ 15 ปีเพลงนี้จึงถูกนำเสนอในรูปแบบของเพลงป๊อป-แดนซ์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่แสนลงตัวของสมาชิกแต่ละคน พร้อมท่าเต้นที่สดใสและทรงพลัง จนทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในวันแรกที่พวกเธอเริ่มเดบิวต์เมื่อ 15 ปีก่อนอย่างไรอย่างนั้น
แต่นอกจากความสนุกในเพลงไตเติลของอัลบัมชุดที่ 7 นี้ พวกเธอยังอวดเสน่ห์ที่หลายที่ทำให้เรานึกถึงผลงานเก่าๆ ที่ประสบความสำเร็จของพวกเธอ อย่าง You Better Run เพลงป็อปที่มีกรูฟและบีทที่ซับซ้อนซึ่งมีชื่อเพลงที่ละม้ายคล้ายเนื้อเพลงท่อนฮุคของเพลงดังอย่าง Run Devil Run (2010) หรือ Lucky Like That เพลงจังหวะฟังสบายที่เปิดอินโทรเพลงด้วยเสียงประสานซึ่งชวนให้นึกถึงเพลงในอัลบัมแรกชุดแรกของพวกเธออย่าง The 1st Album – Girls’ Generation (2007)
รวมไปถึงเพลงแดนซ์จังหวะหนักแน่นที่สมาชิกคนสำคัญของวงอย่างซูยอง (Choi Sooyoung) และทิฟฟานี่ (Tiffany Hwang) ได้ร่วมกันเขียนเนื้อร้องอย่าง Seventeen และ Villain ที่ผสมผสานดนตรีที่หนักแน่นน่าสนใจ เช่นเดียวกับเนื้อเพลงและการจัดวางท่อนแรปของฮโยยอน (Hyoyeon) ที่เข้ากันได้อย่างดีกับเสียงร้องอันทรงพลังของแทยอน (Kim Taeyeon) ที่ทำให้ฟังซ้ำได้แบบไม่รู้เบื่อ
โดยยุนอา (YoonA) เล่าว่าเพลง Lucky Like That เป็นเพลงที่น่าสนใจเพราะสมาชิกทุกคนจะได้โชว์พลังเสียงเพื่อถ่ายทอดเนื้อหาที่ลึกซึ้ง เล่าถึงความรู้สึกขอบคุณพรมลิขิตและโชคชะตาที่บันดาลให้พวกเธอและโซวอนได้มาพบเจอกัน ซึ่งเธอก็ได้เผยว่าเธอแอบร้องไห้ระหว่างอัดเสียงด้วย เพราะเพลงนี้ทำให้เธอนึกถึงแฟนๆ ทุกคนขึ้นมาจริงๆ
แต่นอกจากอัลบัมฉลองครบรอบการเดบิวต์ สาวๆ SNSD ยังตอบแทนแฟนๆ ด้วยการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในรายการ Soshi Tam Tam รายการวาไรตี้ความยาว 8 ตอน ออกอากาศทางช่อง JTBC ที่จะชวนสาวๆ มาพูดคุยและร่วมกันเล่นเกมสนุกๆ ที่จะทำให้แฟนๆ ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ได้สัมผัสตัวตนความเป็น SNSD และทบทวนความทรงจำที่สวยงามในอดีตที่ผ่านมา
อย่างเช่นในรายการตอนที่ 4 ซึ่งมีการปรากฏตัวของเด็กชายที่เคยร่วมรายการ Hello Baby (2009) รายการวาไรตี้ยอดฮิตที่มอบภารกิจให้เหล่าไอดอลแต่ละวงมาเลี้ยงดูเด็กน้อยวัยอนุบาล เราจะได้เห็นการเติบโตของคยองชานและยูกึนที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ต่างจากที่คุ้นเคยกับภาพการปรากฏตัวครั้งแรกใน Hello Baby ตอนที่พวกเขาอายุเพียง 4 ขวบ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีแต่แฟนๆ ที่รู้สึกตื้นตันใจแต่เหล่าสมาชิก SNSD เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าการคัมแบ็คครั้งนี้ของสาวๆ SNSD ทั้งในด้านงานเพลงและรายการ ช่วยคืนความสุขและคลายความคิดถึงของแฟนๆ ได้แบบอยู่หมัดเลยทีเดียว!
โซนยอชีแด หรือเกิลส์เจเนอเรชัน (SNSD Girls’ Generation) เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปภายใต้สังกัด SM Entertainment เดบิวต์ครั้งแรกในปีค.ศ. 2007 และถูกยกให้เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปเบอร์หนึ่งในยุคนั้น ด้วยความมีเอกลักษณ์และมีผลงานเพลงฮิตอย่างต่อเนื่องทั้ง Genie (2009), Oh! (2010), Run Devil Run (2010) รวมถึงเพลงดังที่ได้รับการขนานนามให้เป็นเพลงแห่งยุคสมัยอย่าง Gee (2009)
พวกเธอถูกยกให้เป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปหญิงแห่งชาติที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุคนั้น และยังถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 50 อันดับรายชื่อผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลีประจำปีค.ศ. 2011 โดยนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) ได้ให้คำจำกัดความว่าพวกเธอคือผู้สร้างความบันเทิงที่มีประสิทธิภาพที่สุดในเกาหลีใต้ในปีค.ศ. 2011 นอกจากนั้นอัลบัมชุดดที่ 4 ของพวกเธออย่าง I Got A Boy (2013) ยังสร้างสถิติด้วยการเปิดตัวอันดับหนึ่งบนชาร์ต Billboard World Album อีกด้วย
แม้ต่อมาในปีค.ศ. 2017 ทางต้นสังกัด SM Entertainment ได้ประกาศว่าทิฟฟานี ซูยอง และซอฮยอนจะตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เพื่อทุ่มเทกับการทำงานเดี่ยวในฐานะนักแสดง แต่การคัมแบ็คครั้งนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าพวกเธอยังคงสามารถกลับมารวมตัวกันและทำกิจกรรมในฐานะ SNSD เพื่อแฟนคลับของพวกเธอได้ แม้ไม่อยู่ภายใต้ต้นสังกัดเดิมแล้ว
CREDIT:
PHOTOS: COURTESY OF SM ENTERTAINMENT
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้บน Padthai.co
- รีวิวหลังดูจบแบบไม่สปอยล์ : การปล้นครั้งใหม่ ในซีรีส์ Remake สุดฮิตจาก Netflix ที่ทุกคนรอคอย วง BTS การรวมเกาหลีเหนือและใต้ กับการเสียดสีโลกทุนนิยมอันแสนโหดร้าย ด้วยกลิ่นอายแบบเกาหลี ใน Money Heist Korea – Joint Economic Area ทรชนคนปล้นโลก เกาหลีเดือด
- ตาม LISA ลลิษา มโนบาล แห่งวง Blackpink วีแห่งวง BTS และพัคโบกอม ลัดฟ้าสู่ฝรั่งเศส เกาะชิดติดขอบรันเวย์ Paris Fashion Week ในคอลเลกชั่นฤดูร้อน 2023 ของ CELINE
- ถูกใจชาวนิวยอร์ค! เต๋อ นวพล – ณัฏฐ์ กิจจริต ควงญาญ่า บุกอเมริกา คว้ารางวัลนักแสดงดาวรุ่งนานาชาติยอดเยี่ยม จาก Fast and Feel Love ใน Newyork Asian Film Festival
- เพราะคำสาปที่บิดเบี้ยวที่สุดในโลกนี้ ก็คือความรัก! Jujutsu Kaisen Zero ภาพยนตร์อนิเมะของเหล่าผู้ใช้ไสยเวทย์จากทีมผู้สร้าง Attack on Titan เปิดตัวสุดร้อนแรงในไทย ทำรายได้ทะลุ 50 ล้านบาท
- รู้จักออทิสติกสเปกตรัม และมองผู้ป่วยที่มีภาวะออทิสซึมตามความเป็นจริง ผ่านตัวละคร อูยองอู ทนายสาวอัจฉริยะจากซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo