วัฒนธรรมอิเล็กโทรที่สะท้อนผ่านสีสันและความมีชีวิตชีวาใหม่ในนาฬิกาคอลเลกชั่นแคปซูล CHANEL ELECTRO
ชาเนล อิเล็กโทร แคปซูล คอลเลกชั่น (CHANEL ELECTRO Capsule Collection) นับได้ว่าเป็นการบุกเบิกวัฒนธรรมอิเล็กโทรใหม่มาสู่นาฬิกาข้อมือได้อย่างสวยงามจากแรงบันดาลใจของพลังแห่งดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ที่ ชาเนล (CHANEL) ได้นำมารังสรรค์นาฬิกาทั้ง 5 รุ่นใหม่ ใน Capsule collection พิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดยแต่ละรุ่นล้วนมีเอกลักษณ์ความโดดเด่นของสีสันที่ต่างกันไป พร้อมทั้งบุคลิกหลักๆ สไตล์วัฒนธรรมอิเล็กโทร อย่างตัวเรือนสีดำเข้มตัดกับหลากหลายสีสันของการตกแต่งหน้าปัดไปจนถึงบนสายนาฬิกาที่มีทั้งงานดีไซน์เฉพาะตัวและลูกเล่นต่างๆ
หัวใจของวัฒนธรรมอิเล็กโทรที่มีความโดดเด่นนั้นยังมาจากการใช้รหัสแห่งการสัมผัส ทั้งรูปและเสียง รวมถึงสีสันที่นำมาผสมผสานเข้าด้วยกัน ซึ่งนับจากยุค 1990s วัฒนธรรมนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับแนวดนตรีใหม่ที่เรียกกันว่าอิเล็กทรอนิกส์ กับการผสานระหว่างความแตกต่างและความเป็นต้นตำรับ และสะท้อนถึงฉากแห่งราตรีที่อาบไปด้วยสีสัน รวมถึงแสงสว่างอันเป็นตัวแทนของบรรยากาศแห่งความสนุกสนานอันน่าอภิรมย์ของการใช้ชีวิต
แนวดนตรีนี้ยังได้ขยับขยายจากโลกแห่งดนตรีไปสู่วัฒนธรรมการสร้างสรรค์ซึ่งความสวยงาม การแสดงออกเชิงศิลป์ ตลอดจนแฟชั่นอื่นๆ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ความกล้าที่จะเผชิญหน้า กล้าแสดงออก ถ่ายทอดไว้ด้วยอารมณ์ความรู้สึก และการสร้างประสบการณ์ภาพและเสียงใหม่ๆ กลายเป็น visual & sound effects ที่มีเสน่ห์ชวนให้น่าติดตามและชวนให้หลงใหล
วัฒนธรรมอิเล็กโทรนี้ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและจุดประกายพลังสร้างสรรค์สู่พรมแดนอื่นๆ เช่น งานศิลปะ แฟชั่นและการออกแบบ และยังได้กลายเป็นจุดกำเนิดของแนวคิดใหม่สำหรับ CHANEL ที่ล่าสุดได้เปิดตัวผลงานสุดท้าทายและดึงดูดใจของ CHANEL ELECTRO นาฬิกาจาก Capsule collection กับสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมอิเล็กโทรอันโดดเด่นและมีกลิ่นอายของเสน่ห์ ความน่าตื่นเต้น และสีสันแห่งอิเล็กโทรที่ซ่อนอยู่ในแต่ละผลงาน ด้วยภาพที่ตัดกันอย่างเด่นชัดและกล้าหาญระหว่างองค์ประกอบหลักๆ ของทั้งสีดำ สีขาว และสีสันอื่นๆ โดยสีขาวนั้นจะถูกจุดประกายให้เรืองรองยิ่งขึ้นด้วยสีอื่นๆ ขณะที่สีดำจะดูมิติยิ่งขึ้นเมื่อถูกเสริมด้วยสีสันที่ตัดกัน ตามแนวคิดของอิเล็กโทร
ภายใต้การดูแลของ อาร์โนด์ ชาสแต็ง ผู้อำนวยการฝ่ายรังสรรค์นาฬิกา (Arnaud Chastaingt, Director of the Watchmaking Creation Studio) เขาอธิบายถึงคอลเลกชั่นนี้ว่าพวกเขาคิดค้นแคปซูลคอลเลกชั่นนี้ขึ้นในรูปแบบของโปรแกรมการแสดงดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ และเชื้อเชิญให้คอลเลกชั่นคลาสสิกหลักๆ ของแบรนด์ อย่าง เจทเวลฟ์ (J12), เพรอมิแยร์ (PREMIÈRE), โก้ด โกโก (CODE COCO) และ บอย-เฟรนด์ (BOY·FRIEND) ได้มาร่วมแสดงบนเวที จากแรงบันดาลใจที่ต่างกันซึ่งได้มาจากรหัสอันทรงพลังต่างๆ บนโลก กระทั่งได้กลายมาเป็นความโดดเด่นของแต่ละผลงานสไตล์ ELECTRO จากแต่ละคอลเลกชั่นนาฬิการะดับไอคอนของ CHANEL
เริ่มจาก J12 ELECTRO ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากพลังแห่งดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ โดยเมซงได้คิดค้นและประดิษฐ์นาฬิกา J12 หนึ่งในไอคอนของการประดิษฐ์นาฬิกาแห่งศตวรรตที่ 21 ขึ้นมาใหม่ ในรูปลักษณ์ของตัวเรือนสีดำทำจากเซรามิกทนทานสูงและสตีลเคลือบสีดำ กับลูกเล่นของสีสันอันสดใสที่ปรากฏบนตัวเลขบอกเวลาของหน้าปัด ซึ่งรุ่นนี้จะมีให้เลือกระหว่างในเวอร์ชั่นตัวเรือนขนาด 38.0 มิลลิเมตร ซึ่งติดตั้งด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Manufacture Calibre 12.1 และเวอร์ชั่นตัวเรือนขนาด 33.0 มิลลิเมตร ซึ่งประกอบภายในด้วยกลไกควอตซ์กับความเที่ยงตรงแม่นยำสูง โดยผลิตในจำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 1,255 เรือน
ถัดมาคืออีกหนึ่งซิกเนเจอร์ความหรูสง่างามสไตล์โอต์กูตูร์ของ CHANEL กับนาฬิกา PREMIÈRE ELECTRO ที่ครั้งนี้จับเอา PREMIÈRE มาแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ ด้วยความเท่และทันสมัยยิ่งขึ้นของเวอร์ชั่นตัวเรือนสตีลเคลือบสีดำ พร้อมทั้งสายสร้อยข้อมือแบบโซ่ยาวแบบพันสามรอบที่ร้อยเข้ากับหนังหลากสีสัน ส่วนภายในติดตั้งด้วยกลไกควอตซ์ความเที่ยงตรงสูง ซึ่งรุ่น PREMIÈRE ELECTRO นี้ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดพิเศษเพียง 555 เรือน
รวมถึงการนำเสนอพิเศษด้วย PREMIÈRE ELECTRO Box ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 5 เซ็ต ประกอบด้วยนาฬิกา PREMIÈRE 7 เรือน 7 เวอร์ชั่น ของการจับคู่หน้าปัดแล็กเกอร์สีดำ ตกแต่งด้วยโลโก้ CHANEL สีนีออนพิงค์ สีม่วง สีฟ้า สีเขียว สีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง รวมถึงสายโซ่แบบพันสามรอบเคลือบสีดำและร้อยด้วยหนังสีเดียวกับโลโก้แต่ละสี บรรจุด้วยกลไกควอตซ์ความเที่ยงตรงสูงภายในตัวเรือนสตีลเคลือบสีดำเช่นกัน
และแน่นอนว่าย่อมขาดไม่ได้กับอีกหนึ่งไอคอนของ CHANEL อย่าง CODE COCO ELECTRO ที่แปลงโฉมด้วยเสน่ห์ของลวดลายควิลท์บนสายหนังสีนีออนพิงค์ใหม่ตัดกับขอบสายสีดำ รวมถึงงานดีไซน์ของตัวเรือนสตีลเคลือบสีดำ ประดับด้วยเพชรเจียระไนทรงพริ้นเซส และมาพร้อมการติดตั้งด้วยกลไกควอตซ์เที่ยงตรงแม่นยำสูง รุ่นนี้ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 255 เรือน
ปิดท้ายด้วยกระแสนิยมและความมาแรงไม่มีแผ่วของนาฬิกา BOY·FRIEND ที่วันนี้ได้พลิกโฉมแบบเกินคาด ด้วยรุ่น BOY·FRIEND ELECTRO ในเวอร์ชั่นตัวเรือนสตีล ประดับด้วยเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนท์คัต 142 เม็ด รวมถึงประดับตกแต่งไว้บนหน้าปัดเป็นลวดลายรูปหุ่นยนต์หรือ robot ที่เป็นการตีความขึ้นมาใหม่สำหรับคอลเลกชั่นนี้โดยเฉพาะ จับคู่ลงตัวด้วยสายหนังลูกวัวลายควิลท์และตกแต่งด้านในของสายด้วยสีนีออนพิงค์ ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดสุดพิเศษเพียง 55 เรือนเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีความพิเศษสุดของคอลเลกชั่นแคปซูล CHANEL HAUTE HORLOGERIE ELECTRO ที่สตูดิโอสร้างสรรค์นาฬิกาของแบรนด์ได้รังสรรค์ J12 ขึ้นใหม่ พร้อมกับผสมผสานด้วยกลไกจักรกลชั้นสูง และการประดับอัญมณีล้ำเลอค่าอันประณีตสูงสุด โดยประกอบด้วยนาฬิกา J12 HAUTE HORLOGERIE ELECTRO ทั้งหมด 4 รูปแบบ คือรุ่นเซรามิกสีดำ รุ่นเซรามิกสีขาว รุ่นประดับด้วยเพชรทั้งหมด และรุ่นประดับด้วยพลอยแซฟไฟร์ไล่เฉดสี
รวมทั้ง J12 ELECTRO BOX ที่ภายในบรรจุด้วยนาฬิกา J12 HAUTE HORLOGERIE ELECTRO ทั้ง 12 เรือนในเวอร์ชั่นตัวเรือนเซรามิกสีดำและสตีลเคลือบสีดำขนาด 38.0 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนประดับด้วยพลอยแซฟไฟร์เจียระไนทรงบาแก็ตต์ด้วยเฉดสีสันต่างกัน มาพร้อมสายเซรามิกสีดำแบบด้าน ทำงานด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Manufacture Calibre 12.1 เที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์รับรองโดย COSC สำรองพลังงานได้ประมาณ 70 ชั่วโมง โดยรังสรรค์ขึ้นเป็น Unique Box พิเศษ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF CHANEL
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
MUSIC: OKAY by 13ounce https://soundcloud.com/13ounce
Creative Commons — Attribution-ShareAlike 3.0 Unported — CC BY-SA 3.0
Free Download / Stream: http://bit.ly/2BA9Npw
Music promoted by Audio Library https://youtu.be/qkrpMJP4E-8
Stock Footage: Videezy.com
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่