MIRANDA KERR กับ CAPUCINES กระเป๋ารุ่นใหม่ประจำฤดูกาลของ LOUIS VUITTON


Miranda Kerr ถ่ายทอดกระเป๋า Capucines รุ่นใหม่ประจำฤดูกาลนี้ของ LOUIS VUITTON ที่มาในผิวสัมผัสใหม่ และสีสันที่สดใสขึ้น


Fashion icon showcases this season’s Louis Vuitton Capucines

มิแรนดา เคอร์ (Miranda Kerr) กับ กาปูซีนส์ (Capucines) กระเป๋ารุ่นใหม่ประจำฤดูกาลของ หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) ที่เป็นดั่งไอคอนที่เปี่ยมด้วยความเป็นผู้หญิงที่เหนือกาลเวลา คือสัญลักษณ์ของแก่นแท้ของ เมซง (Maison / House) ที่ผสานเอาไว้ทั้งความดีเลิศ ความคิดสร้างสรรค์ และงานฝีมือ สำหรับฤดูกาลนี้ หลุยส์ วิตตองเลือกความสง่างามของ มิแรนดา เคอร์ มาถ่ายทอดสไตล์ล่าสุด ณ กรุงลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา

กระเป๋ารุ่น Capucines ถือเป็นกระเป๋ารุ่นที่เป็นไอคอนิกที่สุดใบหนึ่งของเมซง โดยตั้งชื่อตามร้านแรกที่เปิดขึ้นของ หลุยส์ วิตตอง ในปีค.ศ. 1854 ตั้งอยู่ที่ 4 ถนน เนิฟ-เดส์-กาปูซีนส์ (Rue Neuve-des-Capucines) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนอกเหนือจากสีสันที่สดใหม่แล้ว ฤดูกาลนี้ กระเป๋ายังมาพร้อมการปักเย็บที่แสนพิเศษ ทั้งบนสายกระเป๋าที่เล่นกับผิวสัมผัส หูจับที่เล่นกับเทคนิคการย่นหนัง และลวดลายพิมพ์ซิลค์สกรีนที่สะท้อนถึงแคนวาสลาย 1854 Jacquard ของ นีโกลาส์ เกสกีแยร์ (Nicolas Ghesquière) ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์

กระเป๋าถือ Capucines MM รังสรรค์จากหนังลูกวัวเนื้อนุ่มปักลาย Since 1854 ออกแบบโดย Nicolas Ghesquière การผสานกันระหว่าง Monogram Flower แบบดั้งเดิม อักษรย่อ LV และตัวเลข 1854 ที่สื่อถึงปีค.ศ. ที่ก่อตั้งเมซงขึ้น มอบเสน่ห์ทั้งแบบวินเทจและทันสมัย สายสะพายแบบกว้างพิเศษถอดออกได้มอบความคล่องตัวในการสะพายไหล่มากยิ่งขึ้น

กระเป๋ารุ่น CAPUCINES MM รังสรรค์จากเส้นใยราฟเฟียถัก (Raffia เส้นใยจากใบปาล์ม) เสริมลุคซัมเมอร์ให้มีสไตล์โดดเด่น หูจับและสายสะพายทำจากหนังลูกวัวผิวเรียบผสานกับเส้นใย Raffia ถักอย่างลงตัว ทำให้กระเป๋ารุ่นคลาสสิกดูเรียบง่ายทว่ามีระดับ ดีไซน์ในรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันยังสะท้อนให้เห็นถึงความสง่างามตามแบบฉบับฝรั่งเศสของเมซงได้เป็นอย่างดี

กระเป๋าถือขนาดกลางรุ่น Capucines MM ได้เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ. 2013 โดยได้ตั้งชื่อตามถนน Rue des Capucines ในกรุงปารีสที่หลุยส์ วิตตองได้เปิดธุรกิจขึ้นที่นั่นในปีค.ศ. 1854 ตัดเย็บอย่างประณีตด้วยหนังโตรียง (Taurillon ลายจากหนังลูกวัวธรรมชาติที่นำมาฟอกสี ทนทานต่อรอยขีดข่วนและน้ำหนักเบา) แบบฟูลเกรน กระเป๋ามีฝาปิดซึ่งสามารถใส่ได้ 2 แบบ: แบบปิดด้านนอกจะเผยให้เห็นลาย Monogram Flower หรือแบบปิดด้านในจะเห็นตัวอักษรย่อ LV ที่หุ้มด้วยหนัง มีน้ำหนักเบาพอสำหรับถือด้วยมือได้ตลอดทั้งวัน สามารถสะพายไหล่ หรือสะพายเฉียงด้วยสายสะพายหนังแบบถอดได้

กระเป๋าถือรุ่น Capucines BB ให้ความรู้สึกร่วมสมัยและมีน้ำหนักเบาพร้อมหูจับด้านบนหุ้มยางรัดผมหนังแสนนุ่มนวล กระเป๋าขนาดเล็กแสนโดดเด่นสไตล์เฟมินีนจากหนัง Taurillon ลายเกรนโทนสีเรียบหรูขับเน้นรูปทรงกระเป๋าให้สวยสง่ายิ่งขึ้น มาพร้อมสายสะพายแถบกว้างที่สามารถถอดออกได้ให้คุณสะพายไหล่หรือสะพายเฉียงได้สบาย

หลุยส์ วิตตอง (LOUIS VUITTON) ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1854 โดย หลุยส์ วิตตอง ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปีค.ศ. 1837 หลุยส์ วิตตองได้เดินทางมายังกรุงปารีส และเริ่มต้นฝึกงานกับ เมอซิเออร์ มาเรชาล (Monsieur Maréchal เจ้าของเวิร์คช็อปทำกล่องและแพ็คกิ้ง) โดยในเวลานั้นผู้คนยังใช้รถม้า เรือ และรถไฟเป็นพาหนะในการเดินทาง ทำให้กระเป๋าถูกขนย้ายอย่างไม่ระมัดระวังนัก นักเดินทางต่างจึงตามหาช่างฝีมือมาหาวิธีจัดเก็บและป้องกันเครื่องใช้ส่วนตัวของพวกเขาให้ดีที่สุด และ หลุยส์ วิตตอง กลายเป็นช่างฝีมือที่ได้รับการยกย่องที่อาเตอลิเยร์ที่ปารีสของ Monsieur Maréchal ภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการวางรากฐานที่สำคัญของทักษะงานฝีมือขั้นสูงของเขาและถือเป็นจุดเริ่มต้นอาชีพในวงการการรังสรรค์กล่องตามความต้องการเฉพาะบุคคลที่ต่อมากลายเป็นหีบเดินทางอันเลื่องชื่อ โดยหลุยส์ วิตตอง ทำงานที่ให้กับ Monsieur Maréchal เป็นเวลากว่า 17 ปี ก่อนออกมาเปิดอาเตอลิเยร์ของตนเองขึ้นที่ Rue Neuve-des-Capucines ใกล้กับ ปลาซ วองโดม (Place Vendôme)

อานิแยร์ (Asnières) ที่เป็นทั้งที่พักอาศัยของครอบครัวและจุดถือกำเนิดของบริษัท คือสัญลักษณ์ของความสำเร็จส่วนตัวและทางธุรกิจของครอบครัววิตตองมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1859 ความสำเร็จในช่วงต้นของ หลุยส์ วิตตอง คือการที่สามารถขยายกิจการออกไป ซึ่งได้นำไปสู่การเปิดอาเตอลิเยร์ขึ้นในปีค.ศ. 1859 ที่เมือง Asnières ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของใจกลางกรุงปารีส โดยมีพนักงานทั้งหมด 20 คนด้วยกัน ต่อมาในปีค.ศ. 1900 พนักงานก็เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเกือบถึง 100 คน และในปีค.ศ. 1914 มีพนักงานทั้งสิ้น 225 คน อาเตอลิเยร์ ดั้งเดิมถูกขยายต่อเติมอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษ ซึ่งรวมถึงที่พักอาศัยของครอบครัววิตตอง และที่นี่ยังคงเป็นที่รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ขึ้นจนถึงทุกวันนี้ ขณะที่บ้านของครอบครัวนั้นก็ได้รับการอนุรักษ์และเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ส่วนตัว อีกทั้งช่างฝีมือกว่า 170 คน ในอาเตอลิเยร์ (Asnières) ก็ยังคงทำงานทั้งออกแบบและรังสรรค์เครื่องหนังและคำสั่งซื้อพิเศษสำหรับลูกค้าทั่วโลก


CREDITS: 
PHOTOS: COURTESY OF Louis Vuitton
 


สามารถอ่านคอนเทนต์อื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่ 

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn
On Key

Related Posts

Your Tarot Weekly

Post Views: 71 คำพยากรณ์รายสัปดาห์ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน – วันเสาร์ที่​ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 โดย​ มาดามราเชล วันอาทิตย์ นิสัย​ของดาว : ยศศักดิ์…

Franck-muller-long-island-thumbnail

Franck Muller Long Island Evolution

Post Views: 31 Franck Muller เสนอนาฬิการุ่น Long Island Evolution ด้วยสามรูปแบบของการแสดงออกแห่งเวลา Franck Muller (แฟรงค์ มุลเลอร์) เสนอนาฬิการุ่น Lo…

Cartier Women’s Initiative

Post Views: 41 โครงการเพื่อสตรีของคาร์เทียร์ ประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 33 คน ประจำปี 2024 ประกาศรางวัลชนะเลิศ ณ เมืองเซินเจิ้น สาธารณะรัฐประชาชนจีน 22 พ…

Hermes-Horloger-Arceau-Mon-Premier-Galop-thumbnail

Hermès Horloger Arceau Mon Premier Galop

Post Views: 29 Hermès เผยความงดงามฝีมือเชิงศิลป์ด้วยเส้นด้ายไหม ผ่านเรือนเวลารุ่น Arceau Mon Premier Galop Hermès Arceau Mon Premier Galop (แอร์เมส อา…

Van-cleef-ballet-thumbnail

Van Cleef & Arpels Lady Arpels Ballets

Post Views: 32 Van Cleef & Arpels เผยความสง่าของนาฏกรรมบนเรือนนาฬิการุ่น Lady Arpels Ballets Van Cleef & Arpels (แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์) เผย…