นอกเหนือจากเข็มชี้แล้ว คุณคิดว่านาฬิกาจะสามารถบอกเวลากับเราผ่านอะไรได้อีกบ้าง การสั่นแบบนาฬิกาปลุก หรือว่า “เสียง” ทั้งคู่เป็นไปได้เหมือนกัน และนั่นจึงเป็นที่มาของการสร้างสรรค์นาฬิกาสุดซับซ้อน อย่าง Repeater watch ที่หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อนี้กันมาก่อน
Repeater watch เสียงที่แสดงเวลาของนาฬิกานั้นมาจากการทำงานของกลไกจักรกลภายในโดยตรง โดยในช่วงศตวรรษที่ 14 ที่หลายๆ เมืองในทวีปยุโรป มีนาฬิกาที่ไม่ได้มีส่วนประกอบของหน้าปัดและเข็มชี้ แต่กลับเป็นนาฬิกาที่แสดงเสียงตีบอกเวลาได้อัตโนมัติ เมื่อครบชั่วโมง และในเวลาต่อมา ท่ามกลางช่วงศตวรรษที่ 15 นาฬิกาพกรุ่นแรกๆ ที่ทำงานด้วยกระปุกลานก็มักประกอบไว้ด้วยระบบจักรกลสำหรับตีให้เสียงบอกเวลาอัตโนมัติ ก่อนที่ภายหลัง กลไกการทำงานนี้จะถูกนำไปใช้กับนาฬิกาเมื่อต้นศตวรรษที่ 16 จวบจนกระทั่งปลายศตวรรษที่ 17 จึงได้มีการนำเอากลไกซึ่งประกอบไปด้วยจักรกลตีบอกเวลาได้ตามต้องการเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเริ่มต้นจากฟังก์ชั่นบอกเวลาของ Quarter repeater หรือทุก 15 นาที จากนั้นจึงตามมาด้วยการสร้างสรรค์กลไกตีบอกเวลา Minute repeater ในศตวรรษที่ 18 และกลายเป็นศาสตร์หนึ่งที่หากช่างนาฬิกาแห่งเจนีวาคนใดต้องการพิสูจน์ถึงฝีมือและความสามารถระดับมาสเตอร์แล้ว ก็ต้องแสดงทักษะและความสามารถให้เห็นโดยการสร้างสรรค์นาฬิกา Quarter repeater ถึงจะพิสูจน์ได้ถึงความชำนาญและความเชี่ยวชาญของช่างคนนั้นๆ ได้
โชว์การทำงานและโครงสร้างอันซับซ้อนของกลไก Grande sonnerie
และคงพลาดที่จะไม่เอ่ยถึงชื่อนี้เป็นไม่ได้ หากเรากำลังพูดถึงนาฬิกาตีให้เสียงบอกเวลาหรือ Repeater watch นั่นก็คือ ปาเต็ก ฟิลิปป์ (Patek Philippe) หนึ่งในแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์การคิดค้นและรังสรรค์นาฬิกาจักรกลตีระฆังบอกเวลาด้วยเสียงมาอย่างยาวนาน พร้อมทั้งสร้างซึ่งเอกลักษณ์และคุณภาพของเสียงที่นุ่มนวล ไพเราะ และเป็นต้นตำรับที่ไม่ซ้ำแบบใคร โดยมีรากฐานการผลิตนาฬิกาตีให้เสียงบอกเวลามานับตั้งแต่ต้นของการก่อตั้งแบรนด์ในปี 1839 จากการสร้างสรรค์นาฬิกาพกเรือนแรกที่มาพร้อมการทำงานของกลไก Repeater และจากนั้นในปี 1850 บริษัทได้นำเสนอนาฬิกาพกที่ประกอบด้วยกลไก Grande sonnerie ไปเปิดตัวในงาน Great Exhibition หรืองานนิทรรศการโลกครั้งแรกที่กรุงลอนดอน เมื่อปี 1851 จนได้รับการกล่าวขานกันว่า “Repeater” และ “นาฬิกาตีให้เสียงบอกเวลาอัตโนมัติ” นั้นจัดว่าเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะของ Patek Philippe เลยทีเดียว
แน่นอนว่า นับจากนั้นเป็นต้นมา Patek Philippe ยังคงเดินหน้านำเสนอผลงานนาฬิกาที่มีความเป็นเลิศด้านความละเอียดอ่อนประณีตของเสียงอันแสนไพเราะราวกับเสียงดนตรีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของนาฬิกาพกและนาฬิกาข้อมือ ตลอดจนการพัฒนาด้านกลไกที่สามารถบอกเวลาด้วยเสียงได้ทั้งในรูปแบบ Quarter repeater, Five-minute repeater, Minute repeater และ Grande sonnerie โดยมีทั้ง Philippe Stern ประธานกิติมศักดิ์ และ Thierry Stern ประธานแห่ง Patek Philippe เป็นผู้ควบคุมด้านคุณภาพเสียงของนาฬิกาเหล่านี้อย่างใกล้ชิดด้วยตนเองเสมอ
ของ Patek Philippe Grande Sonnerie Ref. 6301P
และเร็วๆ นี้ Patek Philippe ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำนาฬิกาแห่งเสียงบอกเวลาอีกครั้ง ด้วยการนำเสนอนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่ประกอบด้วยกลไก Grande sonnerie อันเป็นที่ปรารถนาสูงสุดของบรรดานักสะสมและแฟนๆ ของ Patek Philippe โดยเฉพาะ ซึ่งนั่นก็คือ ผลงานรุ่น Grande Sonnerie Ref. 6301P ด้วยความซับซ้อนสูงของจักรกลแสดงเวลาด้วยเสียง ที่ประกอบด้วยกลไก Grande sonnerie, Petite sonnerie และ Minute repeater โดยมาพร้อมการพัฒนากลไกคาลิเบอร์ใหม่ใน GS 36-750 PS IRM ที่แม้จะเรียกได้ว่าเป็นกลไกซับซ้อนสูงด้วยชิ้นส่วนถึง 703 ชิ้น แต่ลงตัวและกะทัดรัดมากขึ้นสำหรับบรรจุลงในนาฬิกาข้อมือได้ ขณะที่ หัวใจสำคัญซึ่งขาดไม่ได้เลยก็คือความชัดเจนของเสียงบอกเวลา และความยากในการจัดการกับพลังงานสำรองของกลไกที่จำเป็นต้องมีอย่างเพียงพอ ทั้งพลังงานสำรอง 72 ชั่วโมงสำหรับกลไกการทำงาน และพลังงานสำรอง 24 ชั่วโมงสำหรับกลไกการตีให้เสียงบอกเวลา เพื่อสร้างทั้งระดับของความเที่ยงตรงแม่นยำ และการให้เสียงบอกเวลาอัตโนมัติในจำนวนมากและต่อเนื่องได้อย่างสมบูรณ์
ในนาฬิกา Patek Philippe Grande Sonnerie Ref. 6301P
ในนาฬิกา Patek Philippe Grande Sonnerie Ref. 6301P
นาฬิกาฟังก์ชั่นซับซ้อน แต่เหมาะกับการใช้งานในทุกโอกาสของชีวิตประจำวันนี้ มาพร้อมตัวเรือนแพลทินัม ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาแยกจับเวลาได้มากกว่าสองรายการขึ้นไปรุ่น Split-seconds chronograph Ref. 5370 ในปี 2015 กับความสมดุลและประณีตของรูปทรงโค้งและกลมมน ผสานด้วยขอบตัวเรือนที่ค่อยๆ โค้งผ่านไปสู่ฝาหลังซึ่งติดตั้งด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ และเช่นเดียวกับนาฬิกา Patek Philippe ที่ทำจากแพลทินัมทุกเรือน ที่บนด้านข้างของตัวเรือน ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกายังประดับด้วยเพชรขนาดเล็ก 1 เม็ด ส่วนในตำแหน่งปกติที่ 6 นาฬิกา แทนที่ด้วยการติดตั้งสวิตช์เลื่อนสำหรับเลือกโหมดการตีให้เสียงบอกเวลา ที่ช่วยให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและเป็นมิตรต่อเจ้าของผู้สวมใส่ได้อย่างแท้จริง
ถือเป็นอีกครั้งที่แบรนด์ได้เปิดประตูก้าวสู่บทใหม่ของเส้นทางการพัฒนานาฬิกาสลับซับซ้อนด้านเสียงบอกเวลา ทั้งยังสะท้อนถึงศิลปะงานฝีมือและพลังแห่งเสียง อันเป็นความสุขของทั้ง Patek Philippe ในฐานะนักสร้างสรรค์ผู้เชี่ยวชาญ และนักสะสมนาฬิกาที่ชื่นชอบและโปรดปรานเรือนเวลาอันซับซ้อนเป็นพิเศษนี้เช่นกัน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF PATEK PHILIPPE
ART DIRECTOR: Perayut Limpanastitphon
สามารถอ่านคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ นาฬิกา ได้ที่
