A Reborn King Seiko สุดพิเศษนี้ จะพร้อมให้จับจองเป็นเจ้าของได้ในเดือนมกราคม ปีค.ศ. 2021 เป็นต้นไป
A Reborn King Seiko ถ้าคุณเป็นหนึ่งในแฟนตัวยงของ Seiko และยังคงคิดถึงนาฬิการุ่นคลาสสิกวินเทจของแบรนด์นี้อยู่เสมอล่ะก็กำเงินในมือคุณไว้ให้ได้ดี เพราะเดือนมกราคมปีนี้ มีเซอร์ไพรส์แน่นอน
นั่นก็เพราะ ปี 2021 ที่กำลังมาถึงนี้ จะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 140 ปีของการก่อตั้งนาฬิกา ไซโก (Seiko) ซึ่งเป็นที่มาของข่าวคราวการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ ที่เป็นผลงาน Reissue หรือ Re-creation มาจากซีรีส์ที่สองของ King Seiko หรือที่รู้จักกันว่า King Seiko KSK เพื่อร่วมฉลองในโอกาสครั้งสำคัญนี้ของแบรนด์
โดยมีต้นกำเนิดการสร้างสรรค์มาจากยุค ’60s นับตั้งแต่การเปิดตัวนาฬิกา Grand Seiko เป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1960 ไปจนถึงการพัฒนาและผลิตนาฬิกาจักรกลอัตโนมัติโครโนกราฟขึ้นในปีค.ศ. 1969 ซึ่งนั่นทำให้ตลอดทศวรรษนี้ นับเป็นก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของทั้งพัฒนาการทางเทคนิคและความก้าวล้ำด้านเทคโนโลยี ตลอดจนงานออกแบบที่ได้วางรากฐานอันมั่นคงไว้ให้กับบริษัท โดยมีหนึ่งในซีรีส์นาฬิกาสำคัญที่สะท้อนได้ดีถึงความสามารถและความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์นาฬิกาจักรกล นั่นก็คือ King Seiko ซึ่งไม่เพียงโดดเด่นด้านความเที่ยงตรงสูง แต่ยังสวยสง่าด้วยงานออกแบบ และเป็นสัญลักษณ์ถึงคุณภาพระดับสูงของโครงสร้างนาฬิกา
อย่างที่แฟนๆ ของ Seiko คงได้เห็นนาฬิกา Reissue ใหม่มาแล้วหลายรุ่นในปีนี้ แต่สำหรับโอกาสสำคัญแห่งการฉลอง 140 ปีของการก่อตั้งแบรนด์ในปีค.ศ. 2021 นั้น รับรองได้ว่าจะยิ่งเข้มข้นไปด้วยการนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ระดับรุ่นเอกทั้งจากยุคประวัติศาสตร์และในยุคปัจจุบันของแบรนด์ตามมาอีกมากมาย โดยประเดิมกันด้วยความน่าตื่นเต้นของ King Seiko KSK ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกรุ่นที่มีอิทธิพลและบทบาทอย่างมากในหน้าประวัติศาสตร์ของ Seiko
หลังสี่ปีของการเปิดตัวแนะนำ King Seiko นาฬิกาซีรีส์ที่สองซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ King Seiko KSK ก็ถูกสร้างสรรค์ขึ้นตามมาในปีค.ศ. 1965 โดยขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานมือ และถือเป็นการพลิกโฉมด้านดีไซน์ใหม่ที่แตกต่างไปจากความโค้งกลมมนของ King Seiko รุ่นแรก ซึ่ง KSK มีตัวเรือนคมชัดขึ้นและเล่นกับเหลี่ยมมุมที่ให้ความรู้สึกของความร่วมสมัยได้มากกว่า ขณะที่ส่วนพื้นผิวเรียบและมุมเหลี่ยมต่างๆ ยังจับกับแสงสะท้อนได้ดี ทำให้ผลงานรุ่นนี้มีความแวววาวและเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น บวกกับการเคลือบแบบ Super-hard coating ที่ช่วยเสริมความทนทานและกันรอยขีดข่วนให้กับตัวเรือน พร้อมทั้งประสิทธิภาพของการกันน้ำ และเข็มวินาทีแบบ hacking ยังมอบซึ่งระดับของความเที่ยงตรงแม่นยำและการใช้งานได้อย่างลงตัว เมื่อรวมเข้ากับงานออกแบบที่โดดเด่นด้วยแล้ว ทำให้ในไม่ช้า KSK ก็กลายเป็นนาฬิกาที่มีผู้คนตามหาและขยายให้จำนวนแฟนๆ ของ Seiko ในญี่ปุ่นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยในรุ่น Re-creation นี้ได้นำเอาคุณสมบัติของ KSK ปีค.ศ. 1965 กลับมาปลุกฟื้นใหม่ในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานระหว่างหน้าปัดแบบเรียบแบน ประกอบเครื่องหมายขีดแบบเหลี่ยมมุม และเหมือนกับรุ่นแรกที่เครื่องหมายขีดบอกเวลาที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ยังผ่านการตกแต่งผิวพิเศษให้เกิดความแวววาวสะท้อนกับแสงและมองเห็นได้อย่างชัดเจน ส่วนเข็มนาฬิกาคงความคมชัดและกว้างซึ่งได้ต้นแบบความสง่างามประณีตมาจากรุ่นดั้งเดิม และขาดไม่ได้คือหูสายที่ยังคงผสมผสานระหว่างพื้นผิวเรียบกว้างและเหลี่ยมมุมคมชัด ทั้งยังตกแต่งด้วยงานขัดแบบ Zaratsu สุดประณีตที่เงาวาวเหมือนกระจกเงา
และเมื่อพลิกดูฝาหลัง ยังคงความพิเศษของการประทับตราสัญลักษณ์และชื่อ King Seiko เดียวกันกับรุ่นดั้งเดิม รวมทั้งหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์ และคำว่า “Limited Edition” ที่ยืนยันถึงการเป็นรุ่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัดเพียง 3,000 เรือน แม้แต่หัวเข็มขัดรัดสายก็ถอดแบบมาจากรุ่นตำนาน แต่ปรับรายละเอียดให้มีความสะดวกสบายในการสวมใส่ยิ่งขึ้น ส่วนชื่อ Seiko และอักษร “W” บนเม็ดมะยมบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการกันน้ำของนาฬิกา ขณะที่ภายในบรรจุไว้ด้วยกลไกจักรกลอัตโนมัติ Caliber 6L35 ที่คงความบางพิเศษ ทำให้นาฬิการุ่นใหม่นี้หนากว่ารุ่นดั้งเดิมเพียง 0.5 มิลลิเมตร กับตัวเรือนขนาดกว้างขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 38.1 มิลลิเมตร แต่เสริมด้วยฟังก์ชั่นแสดงวันที่ พร้อมทั้งมอบพลังงานสำรองได้ถึง 45 ชั่วโมง
เอาเป็นว่า ช่วงนี้ก็ต้องเล็งๆ กันไปก่อน เพราะอย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่านาฬิกา King Seiko KSK Re-creation สุดพิเศษนี้ จะพร้อมให้จับจองเป็นเจ้าของได้ในเดือนมกราคม ปีค.ศ. 2021 เป็นต้นไป
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF SEIKO
ART DIRECTOR: Perayut Limpanastitphon
สามารถอ่านคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ นาฬิกา ได้ที่