อ่านดราม่าให้ลึกกว่าที่เคย: Carbon Footprint คืออะไร ทำไม Taylor Swift ถึงทัวร์ลงเพียงเพราะเป็นดาราที่มีคาร์บอนฟุตปริ้นต์อันดับ 1
ทำเอาเกิดสงครามย่อมๆ ในหมู่แฟนคลับกันเลยทีเดียวหลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ยาร์ด (Yard) บริษัทดิจิทัลเอเจนซีชื่อดังมีนโยบายด้านความยั่งยืน ได้ออกมาเปิดเผยรายงานการวิจัยและรายชื่อ 10 อันดับคนดังที่สร้าง Carbon Footprint (คาร์บอนฟุตพรินต์) มากที่สุดโดยวัดจากการใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวตลอดช่วงครึ่งปีแรกของปีค.ศ. 2022 ซึ่งอันดับหนึ่งก็ตกเป็นของนักร้องสาวสุดฮ็อตอย่างเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ที่ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักหลังจากข้อมูลดังกล่าวถูกนำเสนอออกมา
โดยชาวเน็ตต่างก็ตั้งข้อสังเกตว่าเทย์เลอร์มักจะใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวบ่อยครั้งในเรื่องไร้สาระ เพราะเธอไม่แม้แต่อยู่ในช่วงทัวร์คอนเสิร์ต แต่กลับมีรอบการใช้เครื่องบินเจ็ตและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศสูงที่สุด จนทางต้นสังกัดของเธอต้องออกมาแก้ข่าวเรื่องนี้กับทาง Rolling Stone ว่า “เครื่องบินเจ็ตของเทย์เลอร์ สวิฟต์ มักมีคนอื่นมายืมใช้อยู่เป็นประจำ การคำนวณเที่ยวบินแทบทั้งหมดของเธอจึงผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะเธอไม่ได้เป็นคนเดินทางเองด้วยซ้ำ!”
แม้ดราม่าครั้งนี้จะคลี่คลายไปอย่างรวดเร็ว แต่แน่นอนว่าปัญหาสภาวะโลกร้อน (Global Warming Potential; GWP) และสิ่งแวดล้อมที่กำลังเสื่อมโทรมก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ได้หายไปพร้อมกับดราม่า วันนี้ Padthai.co จึงขออาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับคาร์บอนฟุตพรินต์ เจ้าปัญหาและเหตุผลว่าทำไมชาวเน็ตบางกลุ่มถึงออกมาโจมตีเหล่าดาราและเซเลบริตี้ที่มีรายชื่อติดโผของยาร์ด
คาร์บอนฟุตพรินต์คืออะไร
คาร์บอนฟุตพรินต์ คือการวัดปริมาณการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gas emissions and removals) สู่ชั้นบรรยากาศ โดยวัดจากปริมาณที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์หรือบริการตลอดวัฎจักรชีวิต นับตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การจัดจำหน่าย การใช้งาน และการจัดการของเสียหลังจากการใช้งาน รวมทั้งกิจกรรมการดำเนินงานขององค์กรต่างๆ เช่น การใช้ไฟฟ้า ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล รวมทั้งการใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว โดยจะวัดรวมหน่วยเป็นตัน (กิโลกรัม) ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
โดยงานวิจัยจากยาร์ดที่นำเสนอพร้อมรายชื่อ 10 อันดับเซเลบริตี้และดาราที่ใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวแทนการบินทั่วไปแบบพาณิชย์ เผยว่าค่าเฉลี่ยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากการบินด้วยเจ็ตส่วนตัวอยู่ที่ 3,256.36 ตันต่อปี ซึ่งคิดเป็น 465 เท่า ของเครื่องบินพาณิชย์ปกติซึ่งมีสถิติการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 7 ตันต่อปีเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบในระดับบุคลคลเหล่าเซเลบริตี้มีสถิติการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงกว่าบุคคลทั่วไปถึง 482.37 เท่า!
คาร์บอนฟุตพรินต์และก๊าซเรือนกระจกส่งผลเสียต่อมนุษย์อย่างไร
ก๊าซเรือนกระจกเป็นก๊าซที่มีคุณสมบัติในการดูดซับคลื่นรังสีความร้อนหรือรังสีอินฟาเรดได้ดี ก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศจึงทำหน้าที่ดูดซับความร้อนและรักษาอุณหภูมิในบรรยากาศโลกให้คงที่โดยการดูดซับความร้อนเอาไว้ในเวลากลางวัน และแผ่ความร้อนออกมาในเวลากลางคืน ทำให้อุณหภูมิในชั้นบรรยากาศโลกคงที่และไม่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก็นับเป็นหนึ่งในกลุ่มก๊าซเรือนกระจกดังกล่าว
เมื่อคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกเพิ่มจำนวนมากขึ้น ชั้นบรรยากาศจึงมีความสามารถในการกักเก็บรังสีความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ผลที่ตามมาคืออุณหภูมิเฉลี่ยของชั้นบรรยากาศที่เพิ่มสูงขึ้น และเริ่มส่งผลกระทบแก่อุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นตาม และทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่าภาวะเรือนกระจกที่ทำให้ชั้นบรรยากาศโลกดูดซับความร้อนเข้ามาที่ผิวโลกและคายพลังงานความร้อนกระจายอยู่ในชั้นบรรยากาศและผิวโลก เหมือนเรือนกระจกที่ห่อหุ้มโลกเอาไว้และดูดความร้อนเข้ามาแต่ไม่คายความร้อนออกไป ทำให้เกิดสิ่งที่เรามักเรียกกันคุ้นหูว่าภาวะโลกร้อนนั่นเอง
ยอดภูเขาน้ำแข็งของสภาวะโลกร้อน
แม้จะมีรายงานการวิจัยออกมาอย่างจริงจังว่าการใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของคนดังทั้งสิบอันดับนั้นปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมกว่า 50,000 ตัน โดยเทย์เลอร์ สวิฟต์ ซึ่งอยู่ที่อันดับ 1 มีสถิติการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 8,293.54 ตัน จากการบินส่วนตัว 170 เที่ยวบิน โดยใช้เวลาบินรวมถึง 382 ชั่วโมง แต่อุตสาหกรรมการบินก็นับเป็นเพียง 2.4 % เท่านั้นจากปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์สร้างขึ้น
เพราะยังมีการเผาไหม้เชื้อเพลิงทั้งในภาคอุตสาหกรรม พาณิชย์ เกษตรกรรม รวมทั้งการจัดหาและแปลรูปพลังงานที่สร้างก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากสู่ชั้นบรรยากาศอันนำไปสู่ภาวะโลกร้อน ซึ่งปัญหานี้ก็นับเป็นวาระแห่งชาติที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจในการแก้ปัญหา รวมทั้งหานโยบายที่จะจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ริเริ่มการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อมโลกที่ดีขึ้น และถูกตั้งให้เป็นหนึ่งในวาระสำคัญในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ UNGA ครั้งที่ 76 ที่ผ่านมาร่วมกับตัวแทนประเทศสมาชิกสหประชาชาติกว่า 193 ประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย
แต่แม้จะเป็นปัญหาที่ทั่วโลกต้องแก้ไขไปร่วมกัน คริส บัตเตอร์เวิร์ธ (Chris Butterworth) หัวหน้าฝ่ายดิจิทัลกับความยั่งยืนของยาร์ด ก็ยังชี้ให้เห็นถึงรายงานการวิจัยและการจัดอันดับครั้งนี้ว่า แม้อุตสาหกรรมการบินจะสร้างคาร์บอนไดออกไซด์ราว 2.4 % เท่านั้นจากคาร์บอนทั้งหมดที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่ตัวเลขจากงานวิจัยก็ได้สะท้อนให้เห็นว่าเหล่าดาราและเซเลบริตี้มีช่องว่างที่ต่างกับคนทั่วไปมากๆ ในการสร้างมลพิษจากการบินส่วนตัว และแม้การบินด้วยเจ็ตส่วนตัวจะดูอู้ฟู่หรูหราและน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหล่าดาราและเซเลบริตี้เหล่านี้คือต้นตอสำคัญของปัญหามลพิษจากอุตสากรรมการบินอยู่ดี
นอกจากนั้นคริสยังเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า “การจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในความท้าทายที่เร่งด่วนและเร่งด่วนที่สุดที่เรากำลังเผชิญอยู่ มันจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ที่ผู้คนบนโลกส่วนใหญ่เริ่มหันมาใส่ใจและรณรงค์เพื่อพยายามลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนตัว ด้วยการพยายามแยกขยะ ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ รวมถึงใช้ถุงผ้าและแก้วส่วนตัวเพื่อลดปริมาณการใช้พลาสติก ซึ่งการลดการใช้เจ็ตส่วนตัว และเปลี่ยนมาใช้การบินแบบพาณิชย์ทั่วๆ ไปเพื่อลดปริมาณการปล่อยมลพิษของตนเอง ก็นับเป็นสิ่งที่ดีเช่นกันหากจะลองทำ”
FACT FILE
- ตามข้อมูลจาก Yard เผยว่าเหล่าเซเลบริตี้และดาราดังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 3376.64 ตัน จากการใช้เครื่องบินส่วนตัวตลอดปีค.ศ. 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าการปล่อยมลพิษประจำปีของบุคคล ทั่วไปถึง 482.37 เท่า
- นอกจากเทย์เลอร์ สวิฟต์ยังมีเซเลบริตี้คนอื่นๆ ทั้งแรปเปอร์ดังอย่างเจย์ซี (Jay-Z), เซเลบริตี้สาว คิม คาร์เดเชียน (Kim Kardashian) และทราวิส สก็อตต์ (Travis Scott) ที่แม้จะไม่ได้มีการทัวร์คอนเสิร์ต แต่ก็ยังคงใช้เจ็ทส่วนตัวในการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างคาร์บอนไดออกไซด์รวมหลายพันตันต่อคน
- โดยตามรายงานตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เทย์เลอร์ สวิฟต์ปล่อยมลพิษไปแล้วมากกว่า 8,293.54 ตันหรือมากกว่า 1,184.8 เท่าของการปล่อยมลพิษประจำปีของบุคคลทั่วไป ส่วนเจย์ซีที่บินรวม 136 เที่ยวบินปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 6,981.3 ตัน ซึ่งมากกว่าการปล่อยมลพิษต่อปีของคน ทั่วไปถึง 997.3 เท่า
- โดย Yard นำข้อมูลการบินทั้งหมดมาจาก Celebrity Jets และคำนวณ CO2e หรือคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าซึ่งเป็นค่าความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะมีผลในการแผ่รังสี (radiative forcing) เท่ากันกับก๊าซเรือนกระจกต่างๆ โดยใช้การประมาณการการแผ่รังสีคูณเข้ากับชั่วโมงการบิน และตัวเลขเที่ยวบินโดยใช้วิธีคิดตามหนังสือ Carbon Counter โดย Mark Lynas นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF TAYLOR SWIFT OFFICIAL, WYVERN, ADSBEXCHANGE, TONY NICOLETTI FOR THE DAILY REPORT
RESOURCE: WEAREYARD, THE TAB, BSIGROUP, ROLLING STONE, MINISTRY OF SOCIAL DEVELOPMENT AND HUMAN SECURITY
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้บน Padthai.co
- รีวิวหลังดูจบแบบไม่สปอยล์ : การปล้นครั้งใหม่ ในซีรีส์ Remake สุดฮิตจาก Netflix ที่ทุกคนรอคอย วง BTS การรวมเกาหลีเหนือและใต้ กับการเสียดสีโลกทุนนิยมอันแสนโหดร้าย ด้วยกลิ่นอายแบบเกาหลีใน Money Heist Korea – Joint Economic Area ทรชนคนปล้นโลก เกาหลีเดือด
- ตาม LISA ลลิษา มโนบาล แห่งวง Blackpink วีแห่งวง BTS และพัคโบกอม ลัดฟ้าสู่ฝรั่งเศส เกาะชิดติดขอบรันเวย์ Paris Fashion Week ในคอลเลกชั่นฤดูร้อน 2023 ของ CELINE
- ราชาฤดูร้อนคืนบัลลังก์ ! HOLIDAY มินิอัลบัมชุดที่ 4 จาก WINNER และการกลับมาทำงานร่วมกันพร้อมหน้าอีกครั้งของ มิโน ซึงยูน ซึงฮุน และจินอู ในซิงเกิลจังหวะสดใส I LOVE YOU
- เพราะคำสาปที่บิดเบี้ยวที่สุดในโลกนี้ ก็คือความรัก! Jujutsu Kaisen Zero ภาพยนตร์อนิเมะของเหล่าผู้ใช้ไสยเวทย์จากทีมผู้สร้าง Attack on Titan เปิดตัวสุดร้อนแรงในไทย ทำรายได้ทะลุ 50 ล้านบาท
- จัดเต็มเครื่องสายและไลน์ดนตรี เบล สุพล นำเสนอซิงเกิลใหม่ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นเบล ในเพลง เท่าไหร่ก็ไม่พอ ได้โอม Cocktail, ปู๋ Hens และแม็ก The Darkest Romance มาร่วมงาน