เพราะบิวตี้เป็นเรื่องสนุก มาจอยๆ กับ 21 Days Face Mask Challenge เปลี่ยนผิวพังเป็นผิวปังใน 21 วัน ด้วยชาเลนจ์มาส์กหน้าสารพัดสูตรความงามให้ตรงความต้องการผิวใน 21 วัน พร้อมทริคเด็ดในการใช้มาส์กให้ปังกว่าใคร
ครึ่งปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ว่าแต่ยังจำ New Year’s Resolution ที่เราตั้งปณิธานเมื่อต้นปีกันได้หรือไม่ บางคนตั้งใจจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง แต่เข้ายิมจริงจังแค่ 2 สัปดาห์ก็ขอพักแบบยาวๆ หรือสาวๆ บางคนตั้งใจจะดูแลผิวหน้าให้เปล่งประกาย แต่ขยันทาครีมได้แป๊บๆ ก็หมดพลังในการดูแลผิวไปเสียดื้อๆ หากใครมีอาการเช่นนี้คงแอบเซ็งตัวเองอยู่นิดๆ ใช่ไหมล่ะ แต่อย่าเพิ่งท้อใจไป เพราะการดูแลตัวเองไม่มีคำว่าสายเกินไป มาเริ่มดูแลผิวหน้าให้ใสกิ๊งกันตั้งแต่ตอนนี้กับชาเลนจ์สนุกๆ อย่าง “21 Days Face Mask Challenge” มาส์กหน้าแบบยิงยาว 21 วันกันเถอะ
ก่อนจะไปเลือกมาส์กที่ใช่ มาทำความรู้จักกับ “ทฤษฎี 21 วัน” กันก่อน เป็นทฤษฎีของ Dr. Maxwell Maltz ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน ว่าด้วยเรื่องของการเปลี่ยนนิสัย หรือปรับพฤติกรรมตนเองใหม่ภายใน 21 วัน ซึ่งทฤษฎีดังกล่าวกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและได้รับความนิยมทั่วโลก เนื่องจากหลายคนนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน เช่น ทฤษฎี 21 วัน ลดน้ำหนัก, ทฤษฎี 21 วัน ออกกำลังกาย, รวมไปถึงทฤษฎี 21 วัน กับชาเลนจ์ความงามต่างๆ
สำหรับ “21 Days Face Mask Challenge” นั้น ขั้นตอนแรกคือการทำความเข้าใจเรื่องสภาพผิว และความต้องการผิวของเราก่อนว่าจะเลือกมาส์กแบบไหน เพื่อหวังผลความงามด้านใดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น
- ผิวนุ่มชุ่มชื้น แม้ว่าจะมีการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้าในขั้นตอนประจำวันอยู่แล้ว แต่การมาส์กหน้าจะช่วยเติมน้ำเข้าสู่ชั้นผิว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้าได้อย่างล้ำลึกขึ้น ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งลอก ผิวหยาบกร้าน ได้เป็นอย่างดี
- ผิวกระชับ เต่งตึง การมาส์กหน้าจะช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก และช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว พร้อมช่วยลดปัญหาการเกิดริ้วรอย หย่อนคล้อย ส่งผลให้ผิวหน้ากระชับ ยืดหยุ่น เต่งตึงขึ้น เหมือนผิวเด็ก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส การมาส์กหน้าจะกระตุ้นผิวให้ได้รับออกซิเจนมากยิ่งขึ้น และช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป ทำให้ผิวเรียบเนียน ทั้งยังช่วยกำจัดเม็ดสีส่วนเกิน และปรับสีผิวให้แลดูสม่ำเสมอ ช่วยลดรอยด่างดำ ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส เพิ่มออร่าให้กับใบหน้าได้เป็นอย่างดี
- ผิวสะอาด กระชับรูขุมขน ลดสิว การล้างหน้าเพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกเท่าการมาส์กหน้า โดยมาส์กหลายชนิด จะมีคุณสมบัติช่วยในการขจัดสารพิษและดูดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน จึงช่วยลดสิว ช่วยกระชับรูขุมขน แก้ปัญหารูขุมขนกว้างได้เป็นอย่างดี
แต่งหน้าสวยเป็นธรรมชาติขึ้น ผลพลอยได้จากการใช้มาส์กก็คือการที่เครื่องสำอางไม่หลุดลอกง่าย ติดทนนานขึ้น แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น แต่งแล้วสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมีผิวที่เรียบเนียนขึ้น กระชับขึ้น รูขุมขนเล็กลง ซึ่งเป็นผลจากผิวที่ได้รับการบำรุงอย่างเข้มข้นจากมาส์กนั่นเอง
ในปัจจุบัน มีมาส์กหลากหลายรูปแบบให้สาวๆ ได้สนุกกับขั้นตอนปรนนิบัติผิวมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นการมาส์กหน้าจะสามารถทำได้ทุกวันในกรณีเป็นมาส์กสูตรเติมความชุ่มชื้นผิว แต่หากเป็นมาส์กที่ออกแบบมาเพื่อลดสิว ลดจุดด่างดํา เพิ่มความกระจ่างใส หรือผลัดเซลล์ผิว ควรใช้ตามที่ฉลากของผลิตภัณฑ์บอกไว้ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผิวจนเกินไป
โดยทั่วไป ทุกคนสามารถมาส์กหน้าได้ โดยเหมาะกับผู้ที่มีความต้องการหรือมีปัญหาดังต่อไปนี้
- ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก
- ผู้ที่มีผิวแห้ง หรือขาดความชุ่มชื้น และต้องการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
- ผู้ที่มีผิวมัน หรือมีรูขุมขนกว้าง ต้องการลดความมันบนใบหน้า ทำความสะอาดและกระชับรูขุมขน
- ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ต้องการเติมความกระจ่างใส ให้กับใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการลดปัญหาสิว ลดรอยสิว
ควรมาส์กหน้าตอนไหนดี?
การมาส์กหน้า ควรทำเมื่อสะดวก และควรเป็นช่วงเวลาพักผ่อน ไม่รีบร้อน เพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ผิวหน้าก็จะรู้สึกผ่อนคลายไปด้วยและได้รับสารบำรุงผิวอย่างเต็มที่ ดังนั้น หลังจากเลิกงานหรือเสร็จสิ้นภารกิจต่างๆ ผ่านมลภาวะหรือแสงแดดมาทั้งวัน เวลาช่วงค่ำ หรือก่อนนอน จะเป็นเวลาที่ฟื้นบำรุงผิวที่ดีที่สุด เหมาะที่สุดสำหรับการมาส์กหน้า
การดูแลผิวหลังมาส์กหน้า
เมื่อมาส์กหน้าและทำตามขั้นตอนทั้งหมดตามที่ระบุไว้ข้างฉลากหรือซองผลิตภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว โดยทั่วไปสามารถบำรุงผิวต่อได้ตามต้องการ แต่สำหรับมาส์กบางประเภทหรือบางสูตร อาจมีวิธีดูแลผิวแตกต่างกันไปเล็กน้อย โดยสรุปได้ดังนี้
1. มาส์กทั่วไป หรือชีทมาส์กสำหรับบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมการบำรุงหรือดูแลทุกปัญหา เมื่อใช้แล้ว ควรบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงผิวต่อ ตลอดจนสามารถใช้สารบำรุงที่ใช้แก้ไขปัญหาผิวหน้าต่าง ๆ ต่อได้ อย่างเช่น เจลแต้มสิว หรือครีมลดฝ้า
2. มาส์กสูตรเข้มข้นพิเศษ มาส์กประเภทนี้เมื่อมาส์กตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องบำรุงผิวเพิ่มเติม สามารถปล่อยให้สารบำรุงของมาส์กทำงานอย่างเต็มที่
3. มาส์กประเภทที่ต้องล้างหน้าหลังขั้นตอนการมาส์ก เช่น มาส์กโคลน มาส์กผง มาส์กแบบลอกออก หรือมาส์กบับเบิ้ล มาส์กประเภทนี้ เมื่อล้างหน้าแล้ว สามารถบำรุงผิวต่อตามขั้นตอนปกติได้เลย และดีต่อการบำรุงเพราะเป็นช่วงที่รูขุมขนเปิด
รู้ไว้สักนิดก่อนมาส์กหน้า
1. ล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งก่อนมาส์กหน้า ไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้า เพื่อเตรียมผิวให้สะอาด และเปิดรูขุมขนให้พร้อมรับสารบำรุงผิวอย่างเต็มที่ หากไม่ล้างหน้า นอกจากทำให้รับสารบำรุงได้ไม่เต็มที่แล้วยังอาจทำให้เป็นสิวจากสิ่งสกปรกหรือเมคอัพอุดตันได้อีกด้วย
2. อย่าทิ้งมาส์กไว้เกินเวลาที่ระบุไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์ หลายคนเข้าใจว่ายิ่งมาส์กนานยิ่งดี แต่จริงๆ แล้ว การมาส์กหน้านานจนเกินไป อาจทำให้เกิดผลเสียต่อผิวหน้าด้วยซ้ำ เช่น ถ้าเป็นชีทมาส์กที่เพิ่มความชุ่มชื้น เมื่อแผ่นมาส์กแห้ง ก็จะดึงความชุ่มชื้นจากผิวหน้ากลับไปแทน
3. อย่าลืมดูวันหมดอายุ ถ้ามาส์กหมดอายุแล้วก็ควรหยุดใช้ทันที และแม้ว่าสาวๆ บางคนจะนำมาส์กแช่ตู้เย็นไว้ เพราะเข้าใจว่าจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ แต่จริงๆ แล้ว วิธีจัดเก็บมาส์กโดยทั่วไป ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง และไม่โดนแสงแดด ไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น เนื่องจากในสารบำรุงบางชนิดอาจลดประสิทธิภาพลงได้เมื่อโดนความเย็น
4. ชีทมาส์กไม่ควรใช้ซ้ำ เมื่อใช้ชีทมาส์กไปแล้ว ไม่ควรเก็บแผ่นมาส์กไว้ใช้ซ้ำ เพราะเมื่อฉีกซองมาใช้แล้ว ตัวแผ่นมาส์กก็จะโดนอากาศ ฝุ่น หรือละอองสิ่งสกปรก และอาจเกิดแบคทีเรียได้ ซึ่งส่งผลร้ายต่อผิวหน้าอย่างแน่นอน ดังนั้นหากมีสารบำรุงเหลืออยู่ในซอง อาจเก็บไว้ใช้กับมาส์กเปล่าได้ หรือนำมาทาผิวบริเวณลำคอ หรือ แขน ขา ได้
5. หากแพ้ต้องหยุดทันที หากใช้มาส์กแล้วเกิดอาการแพ้ เช่น รู้สึกคัน ผิวบวม แดง อักเสบ มีผื่น หายใจลำบาก หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ให้หยุดใช้ และรีบไปพบแพทย์ทันที และหากเป็นผู้ที่แพ้ง่าย ควรทดสอบมาส์กที่แขนก่อนใช้ที่ใบหน้า
21 DAYS, 21 FACE MASKS
AUGUSTINUS BADER The Face Cream Mask
BELIF Aqua Bomb Sleeping Mask
BENEFIT The POREfessional Speedy Smooth Mask
CLARINS V-Facial Instant Depuffing Face Mask
CLÉ DE PEAU BEAUTÉ Precious Gold Vitality Mask
DAMDAM Skin Mud Pure Vitamin C Brightening Mask
ESTÉE LAUDER Advanced Night Repair Concentrated Treatment Mask
FIRST AID BEAUTY Ultra Repair Instant Oatmeal Mask
FOREO H2Overdose Activated Mask
HERBIVORE Blue Tansy Invisible Pores Resurfacing Clarity Mask
KATE SOMERVILLE MEGA-C 30% Vitamin C Brightening Mask
KORA ORGANICS Noni Glow Sleeping Mask
LA MER The Lifting and Firming Mask
ORIGINS Drink Up™ Overnight Hydrating Mask with Avocado & Hyaluronic Acid
PETER THOMAS ROTH 24K Gold Mask Pure Luxury Lift & Firm Mask
SHISEIDO White Lucent Overnight Cream & Mask
SK-II Brightening Derm Revival Mask
SULWHASOO Concentrated Ginseng Renewing Creamy Mask
TATA HARPER Clarifying Mask
TATCHA The Clarifying Clay Mask Exfoliating Pore Treatment
SHISEDO WASO SATOCANE Pore Purifying Scrub Mask
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF AUGUSTINUS BADER, BELIF, BENEFIT, CLARINS, CLÉ DE PEAU BEAUTÉ, DAMDAM, ESTÉE LAUDER, FIRST AID BEAUTY, FOREO, HERBIVORE, KATE SOMEVILLE, KORA, LA MER, ORIGINS, PETER THOMAS ROTH, SHIDEIDO, SK-II, SULWHASOO, TATA HARPER, TATCHA
STOCK PHOTOS: Image by Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่