รีวิวหลังดูจบแบบไม่สปอยล์: บุพเพสันนิวาส 2 ความตลกแสนกลมกล่อม เกร็ดประวัติศาสตร์ไทย และเบื้องหลังที่ทำให้ออเจ้ากวาดรายได้ 3 วันแรกไปกว่า 134 ล้านบาท
เรียกได้ว่าสร้างปรากฏการณ์สมเป็นภาพยนตร์จากค่าย GDH อีกครั้ง สำหรับภาพยนตร์ย้อนยุคภาคต่อจากละครดังอย่าง บุพเพสันนิวาส 2 ผลงานการกำกับจากปิ๊ง อดิสรณ์ ตรีศิริเกษม เพราะแม้การระบาดของ Covid-19 รอบล่าสุดรวมทั้งสภาพเศรษฐกิจในประเทศไทยจะน่าเป็นห่วงจนหลายๆ คนเริ่มรัดเข็มขัดค่าใช้จ่ายและงดการดูภาพยนตร์ในโรง แต่ภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องดังจาก GDH ก็ทำรายได้ 3 วันแรกไปกว่า 134 ล้านบาท และมีแนวโน้มว่าจะมุ่งหน้าสู่ 500 ล้านบาทในเร็ววันนี้
บุพเพสันนิวาส 2 เล่าเรื่องราวในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้นของขุนสมบัติธิบดี หรือคุณภพ (รับบทโดยโป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) นายช่างใหญ่ประจำกรมพระคลังและเกสร (รับบทโดยเบลล่า ราณี แคมเปน) ลูกสาวขุนนางใหญ่ในกรมตำรวจ ซึ่งเป็นอีกชาติภพของพ่อหมื่นและแม่หญิงการะเกด ที่บังเอิญเข้าไปพัวพันกับการค้าขายเรือกลไฟอันไม่ชอบมาพากลของหลวงอาวุธวิเศษประเทศพานิช หรือโรเบิร์ต ฮันเตอร์ (รับบทโดยแดเนียล เฟรเซอร์) พ่อค้าชาวอังกฤษผู้ได้สมยานามว่านายหันแตร ผู้เป็นพ่อค้าจากยุโรปคนแรกที่มาทำการค้าขายในประเทศสยามช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3
ความสนุกกลมกล่อมของภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้ ไม่ได้มีเพียงตลกบทสนทนาและการดำเนินเรื่องที่กระชับฉับไวน่าสนใจเท่านั้น แต่หนึ่งในจุดเด่นของภาพยนตร์และละครในจักรวาลบุพเพฯ อย่างการย้อนเวลา ก็ถูกหยิบมาใช้ในภาพยนตร์เช่นกัน แต่ในภาคนี้การย้อนเวลาถูกหยิบมาเล่นกับตัวละครใหม่อย่างเมธัส หันตระกูล (รับบทโดย ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต) พ่อค้าออนไลน์ในยุคปัจจุบันที่บังเอิญข้ามเวลากลับมายังสยามเมื่อราว 180 ปีก่อนหน้าและเข้ามาทำงานรับใช้นายหันแตรซึ่งเป็นบรรพบุรุษต้นตระกูลของตัวเขาเอง
เรื่องราวในภาพยนตร์ภาคนี้จึงไม่ได้มีเพียงแค่บทรักระหว่างคุณภพและแม่หญิงเกสร ผู้มีดวงชะตาและบุพเพสันนิวาสร่วมกันเท่านั้น แต่ยังฉายภาพสยามในยุคสมัยนั้นออกมาอย่างสมจริง โดยไม่ลืมที่จะสอดแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางประวัติศาสตร์จากตัวละครที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบุคคลในประวัติศาสตร์จริงๆ ทั้งบาทหลวงชาวฝรั่งเศส ฌ็อง-บาติสต์ ปาลกัว (Jean-Baptiste Pallegoix หรือพระสังฆราชปาลเลอกัวซ์ รับบทโดยโจนาธาน แซมซัน) แห่งโบสถ์อัสสัมชัญ ผู้นำวิทยาการการถ่ายภาพและสรรพวิชามากมายทั้งภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ภาษาละติน ภาษาฝรั่งเศสเข้ามาในสยามเป็นครั้งแรก โดยในเรื่องพระสังฆราชปาลเลอกัวซ์เป็นครูสอนภาษาและประวัติศาสตร์ให้กับแม่เกสร
รวมทั้งหมอบรัดเลย์ (Dan Beach Bradley รับบทโดยสตีเฟน โธมัส) นายแพทย์ชาวอเมริกันที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในกรุงรัตนโกสินทร์ และได้รับยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งสิ่งพิมพ์จากการนำวิทยาการการพิมพ์เข้ามาเผยแพร่ในสยาม และที่ขาดไม่ได้คือกวีคนสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยอย่าง สุนทรภู่ หรือขุนสุนทรโวหาร (รับบทโดยบ็อบบี้ นิมิตร ลักษมีพงศ์) กวีเจ้าของผลงานที่ชาวไทยคุ้นเคยอย่าง พระอภัยมณี ที่ในภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจากเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นกวีหลวงแห่งกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว ขุนสุนทรโวหารยังเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจคนสำคัญที่คอยพูดกลอนรักสอนใจให้กับภพอีกด้วย
เรื่องราวในภาพยนตร์บุพเพภาคต่อนี้จึงเต็มไปด้วยมิติและแง่มุมที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์มากมาย ทั้งเรื่องราวการซื้อขายดิ เอ็กซ์เพรส เรือเหล็กกลไฟของนายหันแตรในยุคที่สยามกำลังทำการรบกับโครชินไชน่า (เวียดนามในปัจจุบัน) ซึ่งนำมาสู่ข้อพิพาทระหว่างนายหันแตรและสยาม รวมถึงการกำเนิดหนังสือพิมพ์ฉบับแรกอย่าง บางกอกรีกอเดอ (Bangkok Recorder) ของหมอบรัดเลย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และถูกนำมาเล่าโดยสอดแทรกอารมณ์ขันอย่างเป็นธรรมชาติ
โดยเรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไม่ลืมที่จะใส่จุดเชื่อมโยงระหว่างตัวละคร การะเกดหรือแม่เกสรในชาติก่อนจากละครภาคแรก และพุดตานตัวละครในละครภาคต่ออย่างพรหมลิขิต ที่กำลังจะฉายเป็นละครทางโทรทัศน์ในอนาคต ผ่านทางสมุดบันทึกและคัมภีร์กฤษณะกาลีที่ผูกโยงทั้ง 3 ตัวละครสำคัญของเบลล่า ราณีในแต่ละภพชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกล่อมและลงตัว
แต่ทั้งหมดที่เราพูดมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งจากภาพยนตร์ไทยเรื่องนี้เท่านั้น เพราะนอกจากจุดไคลแม็กซ์สำคัญของเรื่องที่ถูกเขียนขึ้นอย่างน่าสนใจ ออเจ้าคนใดที่ยังว่างอยู่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ก็อย่ารีรอที่จะตีตั๋วไปชมมหรสพเรื่องนี้กันด้วยตนเอง เพราะยังมีความสนุกที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ขันรอให้คุณได้สัมผัสอีกมากมายแบบที่พลาดชมในโรงภาพยนตร์ไม่ได้เลยล่ะ!
ละครบุพเพสันนิวาส เป็นละครแนวโรแมนติก-คอมเมดี้-ย้อนยุค ที่สร้างจากนวนิยายในชื่อเดียวกันโดย ‘รอมแพง’ เล่าเรื่องราวของเกศสุรางค์ นักโบราณคดีสาวที่บังเอิญประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตขณะเดินทางกลับจากทำงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองเมื่อ 333 ปีก่อน ในรัชสมัยของสมเด็กพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยาในปีพ.ศ. 2225 แม่หญิงการะเกด หญิงสาวสวยผู้เคยก่อกรรมทำเข็ญมากมายจากความอิจฉาริษยา ได้ตายลงอย่างทุกข์ทรมานจากคำแช่งมนต์กฤษณะกาลีที่ทำให้เธอมีอันเป็นไปเพราะเคยทำผิดคิดร้ายต่อคนบริสุทธิ์
วิญญาณของแม่หญิงการะเกดได้พบกับวิญญาณของเกศสุรางค์ เธอจึงได้อ้อนวอนขอร้องให้เกศสุรางค์ช่วยกลับไปทำความดี เพื่อชดใช้ความผิดให้กับเธอในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากนั้นเกศสุรางค์ก็ตื่นฟื้นขึ้นอีกครั้งในร่างของแม่หญิงการะเกด และพาเธอไปพบกับเรื่องราวต่างๆ มากมาย รวมถึงการได้พบรักกับพระยาวิสูตรสาครหรือพี่หมื่น คู่หมั้นคู่หมายของเธอด้วย
เสน่ห์ของละครชุดนี้ที่ทำให้แฟนๆ หลงใหล คือการผสมผสานวัฒนธรรมแบบไทยๆ และเรื่องราวที่น่าติดตามเข้าด้วยกัน รวมถึงการหยิบเอาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของบุคคลที่มีตัวตนจริงอย่างคอนสแตนติน ฟอลคอน (Constantine Phaulkon) (ฟอลคอนเกิดที่ประเทศกรีซ มีเชื้อสายของชาวกรีกและเวนิส สามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ดีทั้ง ภาษาไทย ภาษาอิตาเลียน ภาษาอังกฤษ ภาษาโปรตุเกสและภาษามลายู เข้าทำงานให้กับบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ พ.ศ. 2205 จึงออกจากบ้าน และเดินเรือสินค้าไปค้าขายยังดินแดนต่าง ๆ) เข้ารับราชการในราชสำนักสมเด็จพระนารายณ์มหาราชในตำแหน่งล่าม นับเป็นชาวตะวันตกคนแรกที่เข้ามารับราชการในสมัยอยุธยา เป็นตัวกลางการค้าระหว่างอยุธยากับฝรั่งเศส ฟอลคอนได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพระยาวิไชเยนทร์ สมุหนายกในสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา อีกทั้งภรรยาคือ นางมารีอา กียูมาร์ ดึ ปีญา (Maria Guyomar de Pinha ชาวโปรตุเกส แต่คนส่วนใหญ่มักรู้จักในชื่อฝรั่งเศสมารี กีมาร์ (Marie Guimar) หรือท้าวทองกีบม้า ผู้คิดค้นต้นตำรับขนมไทยขึ้นชื่อมากมาย อาทิ ทองหยิบ ทองหยอด ทองม้วนและลูกชุบที่ใครหลายคนชื่นชอบ
เรื่องราวในภาพยนตร์จะเล่าเรื่องราวหลายสิบปีต่อจากละครภาคแรก ในช่วงต้นยุครัตนโกสินทร์ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับละครภาคต่ออย่างพรหมลิขิต ซึ่งจะเล่าเรื่องราวของพุดตาน ญาติห่างๆ ของเกศสุรางค์ในโลกปัจจุบันที่บังเอิญไปเจอสมุดข่อยโบราณที่ต้องมนต์กฤษณะกาลี จึงทำให้เธอย้อนกลับมาในอดีตช่วงกรุงศรีอยุธยา และได้พบกับพ่อริดและพ่อเรือง ลูกชายสองพี่น้องของพระยาวิสูตรสาครหรือพี่หมื่นและแม่หญิงการะเกด
โดยความสนุกของเรื่องราวในละครภาคต่อเรื่องพรหมลิขิต คือการที่ตัวละครทั้งหมดจะหน้าเหมือนกันทั้งหมด และแสดงนำโดยโป๊ปและเบลล่า แปลว่าโป๊ปต้องรับบทเป็นตัวละครถึง 3 ตัวในละครเรื่องเดียว ส่วนเบลล่าก็ต้องพยายามถ่ายทอดบทบาทของแม่หญิงการะเกดและพุดตานออกมาให้แตกต่างกันมากกว่าแค่ทรงผมหรือการแต่งตัว ซึ่งนักแสดงนำทั้งสองก็ยอมรับว่าเป็นงานยากและท้าทายที่จะต้องถ่ายทอดบทบาทของตัวละครแต่ละตัวให้มีความแตกต่างกัน
CREDIT:
PHOTOS: COURTESY OF GDH
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้บน Padthai.co
- รีวิวหลังดูจบแบบไม่สปอยล์ : การปล้นครั้งใหม่ ในซีรีส์ Remake สุดฮิตจาก Netflix ที่ทุกคนรอคอย วง BTS การรวมเกาหลีเหนือและใต้ กับการเสียดสีโลกทุนนิยมอันแสนโหดร้าย ด้วยกลิ่นอายแบบเกาหลีใน Money Heist Korea – Joint Economic Area ทรชนคนปล้นโลก เกาหลีเดือด
- ตาม LISA ลลิษา มโนบาล แห่งวง Blackpink วีแห่งวง BTS และพัคโบกอม ลัดฟ้าสู่ฝรั่งเศส เกาะชิดติดขอบรันเวย์ Paris Fashion Week ในคอลเลกชั่นฤดูร้อน 2023 ของ CELINE
- ถูกใจชาวนิวยอร์ค! เต๋อ นวพล – ณัฏฐ์ กิจจริต ควงญาญ่าบุกอเมริกา คว้ารางวัลนักแสดงดาวรุ่งนานาชาติยอดเยี่ยม จาก Fast and Feel Love ใน Newyork Asian Film Festival
- เพราะคำสาปที่บิดเบี้ยวที่สุดในโลกนี้ ก็คือความรัก! Jujutsu Kaisen Zero ภาพยนตร์อนิเมะของเหล่าผู้ใช้ไสยเวทย์จากทีมผู้สร้าง Attack on Titan เปิดตัวสุดร้อนแรงในไทย ทำรายได้ทะลุ 50 ล้านบาท
- รู้จักออทิสติกสเปกตรัม และมองผู้ป่วยที่มีภาวะออทิสซึมตามความเป็นจริง ผ่านตัวละคร อูยองอู ทนายสาวอัจฉริยะจากซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo