FUTURECRAFT.FOOTPRINT รองเท้าวิ่งที่ลดการปล่อยคาร์บอน ฟุตพริ้นต์ให้น้อยที่สุดตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ด้วยความร่วมมือกับ Adidas x Allbirds
Adidas x Allbirds อาดิดาส จับมือกับ ออลเบิร์ดส์ สร้างสรรค์รองเท้ายั่งยืน มีประสิทธิภาพ และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณในการปล่อย คาร์บอน ฟุตพริ้นต์ (Carbon Footprint) ในกระบวนการผลิตตั้งแต่เริ่มต้นจนจบซึ่งทั้ง โดยปกติแล้วรองเท้าวิ่งจะปล่อย คาร์บอน ฟุตพริ้นต์ มากถึง 14 กิโลกรัม ซึ่งปัจจุบันจากการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล และการผลิตที่ทำให้ง่ายต่อการรีไซเคิลซ้ำ ทำให้รองเท้าวิ่งลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์เพียง 7 กิโลกรัม อาดิดาสและออลเบิร์ดส์ได้ตั้งเป้าหมายการลด คาร์บอนฟุตพริ้นท์ ให้เหลือศูนย์
FUTURECRAFT.FOOTPRINT รองเท้าวิ่งที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมีคาร์บอน ฟุตพริ้นต์จากการผลิตต่ำเพียงแค่ 2.94 กิโลกรัม หรือ 1 ใน 5 ของรองเท้าวิ่งโดยทั่วไป ซึ่งรวมทุกขั้นตอนตั้งแต่การผลิตรองเท้า, กล่อง, การขนส่ง และ การใช้งาน การร่วมงานกันของอาดิดาส และออลเบิร์ดส์ในครั้งนี้เน้นใช้วัสดุในระบบ การหมุนเวียนนำกลับมาใช้ (Circular Economy) และออกแบบให้ง่ายต่อการรีไซเคิล
“อาดิดาส ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม แม้วันนี้การผลิตรองเท้าที่ไร้คาร์บอนจะยังไม่เกิดขึ้น แต่บริษัทก็สนใจที่จะรวบรวมนวัตกรรม และเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ในบริษัท และพาร์ตเนอร์ เพื่อให้การผลิตรองเท้าที่ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนเกิดขึ้นจริง” เจมส์ คาร์นส์ (James Carnes) ประธานกลยุทธ์เกี่ยวกับแบรนด์อาดิดาส ได้กล่าวไว้ตั้งแต่การร่วมงานกันในครั้งแรก
FUTURECRAFT.FOOTPRINT เป็นรองเท้าวิ่ง ที่มีการใช้วัสดุรีไซเคิลตั้งแต่ อัปเปอร์ใช้ เท็นเซิล (Tencel) ผ้าที่ผลิตจากเซลลูโลส เยื่อของเปลือกไม้ธรรมชาติ 30 เปอร์เซ็นต์ และตาข่ายที่ทำจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 70 เปอร์เซ็นต์ เส้นด้ายที่มีการเย็บบนหน้าผ้าเพื่อเป็นโครงสร้างนั้นจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ เชือกจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนลิ้นรองเท้าและแผ่นรองเท้าจากชานอ้อย 28 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพื้นชั้นกลางจากนวัตกรรมโฟมแบบใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Lightstrike และ SweetFoam ของ ออลเบิร์ดส์ 18 เปอร์เซ็นต์ และยางพื้นชั้นนอกใช้วัสดุจากยางธรรมชาติ 10% ซึ่งวัสดุเส้นใยที่ทำจากเซลลูโลสซึ่งใช้ในรองเท้าของออลเบิร์ดส์ รุ่น Tree Runners และนอกจากรองเท้าแล้ว กล่องบรรจุรองเท้าได้มีการออกแบบใหม่ โดยมีคาร์บอน ฟุตพริ้นต์จากการผลิตน้อย เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนกล่องในการขนส่งมากขึ้น ทำให้มลพิษจากการขนส่งลดน้อยตามลงไปอีกด้วย
ด้วยความร่วมมือกับ ออลเบิร์ดส์ เรากำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าส่วนที่ยากที่สุดในการต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงระบบภูมิอากาศ (Climate Change) คือการเผชิญหน้ากับความท้าทายที่รออยู่และเริ่มลงมือทำ เราจะเดินหน้าต่อไป จนกว่ารองเท้าทุกคู่ และผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น เป็นมิตรต่อโลก
“การร่วมมือกับ ออลเบิร์ดส์ ได้แสดงให้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราเปลี่ยนจากคู่แข่งมาเป็นพันธมิตร ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ การเปิดกว้าง และการแบ่งปันแนวคิด ความรู้ และทักษะที่โดดเด่นร่วมกัน ความชำนาญของการสร้างรองเท้าที่รักษ์โลก และการใช้วัสดุจากธรรมชาติของ ออลเบิร์ดส์ การออกแบบนวัตกรรมกีฬาประสิทธิภาพสูงจาก อาดิดาส สิ่งนี้จึงไม่เพียงเป็นอีกมาตรฐานหนึ่งของอุปกรณ์กีฬาแต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพที่รักษ์โลกมากกว่าเดิม แต่คือหลักกิโลแรกของความร่วมมือเพื่อโลก และเพื่อทุกคน ในอุตสาหกรรมนี้อีกด้วย” ไบรอัน เกรวี (Brian Grevy) ผู้บริหาร โกบอลแบรนด์ ของ อาดิดาส กล่าว
“ปัญหาความเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศถือได้ว่าเป็นปัญหาร่วมกันในยุคนี้ สิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหาที่จะจัดการได้เพียงคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องร่วมมือกัน เราต้องมองหาวิธีการใหม่ ๆ นวัตกรรมใหม่ ๆ และวิถีการทำงานร่วมกันในแบบใหม่ ๆ เพื่อจัดการกับสิ่งนี้” ทิม บราวน์ (Tim Brown) ผู้บริหารสูงสุด ของ ออลเบิร์ดส์ กล่าว
ออลเบิร์ดส์ โดดเข้ามาเขย่าวงการรองเท้าให้สั่นสะเทือน กับปรากฏการณ์ที่จุดกระแสให้คนดังหลากหลายวงการกลายมาเป็นลูกค้าเจ้ารองเท้าแบรนด์สตาร์ทอัป ที่ทำเงินไปกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ และมีอายุบริษัทเพียง 3 ปีเท่านั้น แบรนด์รองเท้าที่ได้ขึ้นว่า เป็นรองเท้าที่ใส่สบายที่สุดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จุดเริ่มต้นของ ออลเบิร์ดส์ มาจาก ทิม บราวน์ หนุ่มแข้งทอง อดีตรองกัปตันทีมฟุตบอลทีมชาตินิวซีแลนด์ ที่มานั่งคิดว่ารองเท้าที่เขาใส่ลงแข่งส่วนใหญ่มีแต่รองเท้าที่ทำมาจากวัสดุสังเคราะห์แข็ง ๆ เน้นสีสันฉูดฉาด กระแทกสายตา แล้วยังต้องให้ลูกค้าอย่างเรา ๆ ช่วยโปรโมทแบรนด์สินค้าผ่านโลโก้ที่ติดหราบนรองเท้านั่นอีก ในระหว่างการไปเรียน MBA ที่อังกฤษ เขาจึงมีความคิดที่อยากจะทำรองเท้าที่ตัวเองชอบ เน้นความเรียบง่าย ใส่สบาย และเป็นรองเท้าที่เน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากรองเท้าส่วนใหญ่จะผลิตมาจากวัสดุสังเคราะห์ที่มีผลทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก
โดยรองเท้าออลเบิร์ดส์ใช้วัสดุหลักจากธรรมชาติ 2 อย่าง ได้แก่ ขนแกะพันธุ์เมอริโน (Merino) ที่มีคุณสมบัติในเรื่องของความนุ่ม ละเอียด เบา ทนทาน และระบายอากาศได้ดี และ เยื่อจากต้นยูคาลิปตัน ที่ผ่านการปลูกตามมาตรฐาน FSC™ (Forest Stewardship Council™) เป็นมาตรฐการการจัดการป่าไม้โดยจะมีการปลูกต้นไม้ใหม่ทันทีที่มีการตัด เพื่อให้ต้นไม้เป็นตัวช่วยดูดซับก๊าซภาวะเรือนกระจกไปกักไว้ในดินนั่นเอง ส่วนพื้นเท้านั้นทำมาจากชานอ้อย เป็นขยะจากโรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศบราซิล
FUTURECRAFT.FOOTPRINT มีแผนวางจำหน่ายทั่วไปในปี 2022 ที่จะมาถึงนี้!
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF adidas และ @adidas
สามารถอ่านคอนเทนต์อื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่
- adidas Originals by Craig Green รองเท้าดีไซน์ใหม่จากโมเดล ZX
- Move to Zero คอลเลคชั่นพิเศษจาก Nike เพื่อลดปริมาณคาร์บอนและของเสียเพื่อความยั่งยืน
- Adidas R.Y.V. คอลเลกชั่นใหม่จาก Adidas Original โดยได้ BLACKPINK ร่วมแคมเปญ “Watch Us Move”
- Adidas Originals: Stan Smith, Forever “END PLASTIC WASTE”
- Go FlyEase สนีกเกอร์ทรงใหม่ไร้เชือกคู่แรกของ Nike
- “ICY PARK” คอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดจาก adidas x IVY PARK
- รวบตึง สนีกเกอร์ แบรนด์ดังที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!