การเปลี่ยนลุคครั้งใหม่ให้กับคอลเลกชั่น Chronomaster Sport ที่มีความถี่พิเศษ 1/10th ของวินาที เป็นการหลอมรวมระหว่างรหัสงานดีไซน์ของ Zenith เข้ากับวัสดุล้ำค่าอย่างทอง
Zenith Chronomaster Sport Rose Gold นับตั้งแต่เริ่มต้นปีค.ศ. 2021 เซนิธ (Zenith) ได้ยืนยันถึงตำแหน่งของตนในฐานะผู้เชี่ยวชาญในนาฬิกาโครโนกราฟกลไกไขลานอัตโนมัติความถี่สูง ด้วยการพัฒนาปรับปรุงนาฬิกาคอลเลกชั่น Chronomaster Sport โดยผสมผสานระหว่างรหัสงานออกแบบอันเป็นหัวใจของ Zenith เข้ากับระดับใหม่ของสมรรถนะและความเที่ยงตรง รวมถึงนำเสนอด้วยรูปลักษณ์ใหม่ของนาฬิกาโครโนกราฟความถี่พิเศษ 1/10th ของวินาทีนี้ที่ได้เสริมเข้ามาในคอลเลกชั่นด้วยเวอร์ชั่นตัวเรือนโรสโกลด์
ถือกำเนิดขึ้นในปีค.ศ. 1969 El Primero คือตำนานอันยิ่งใหญ่ของ Zenith ในฐานะกลไกจักรกลอัตโนมัติโครโนกราฟความถี่สูง ด้วยมาตรฐานแห่งความเที่ยงตรงแม่นยำที่เชื่อถือไว้วางใจได้ และเคยนำเสนอภายใต้นาฬิกาเรือนทองมาแล้วในรุ่น G381 และ G581 จวบจนวันนี้ กับการเปิดตัวทายาทเรือนทองรุ่นใหม่ในเจเนอเรชั่นล่าสุดของ El Primero calibre และ Chronomaster Sport กับตัวเรือนโรสโกลด์ ที่นับเป็นเวอร์ชั่นอันหรูหราและทันสมัย แต่ยังคงภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ตโครโนกราฟไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยบรรจุภายในตัวเรือนขนาด 41.0 มิลลิเมตร ที่ประดิษฐ์รังสรรค์ขึ้นจากโรสโกลด์ 18K รวมถึงปุ่มกดสไตล์ปั๊มอันสวยเด่น ส่วนขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำขัดเงา แกะสลักไว้ด้วยสเกล 1/10th ของวินาที เติมด้วยแล็กเกอร์ทองแบบด้าน ที่จับคู่เข้ากับตัวเรือนและหน้าปัด เพื่อมอบความสามารถในการอ่านค่าเวลาที่ตัดกันได้อย่างชัดเจนพิเศษ ขณะที่หน้าปัดแล็กเกอร์สีขาว จัดวางไว้ด้วยหน้าปัดย่อยโครโนกราฟแบบสามสีอันเป็นต้นตำรับ คือในเฉดสีโรเดียม สีแอนธราไซต์ และสีน้ำเงิน พร้อมเข็มชี้และเครื่องหมายขีดบอกเวลาตกแต่งสีทองและสีดำ บรรจุไว้ด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova SLN C1 เพื่อการแสดงค่าเวลาได้อย่างชัดเจนในทุกสภาวะแสง ประกอบคู่ลงตัวมากับสายหนังวัวสีดำ และหัวเข็มขัดแบบบานพับทำจากโรสโกลด์ เสริมความโดดเด่นให้กับทั้งตัวเรือนและขอบตัวเรือน
หากเป็นแฟนนาฬิกาที่ติดตามแบรนด์ Zenith มาอย่างต่อเนื่องแล้ว เชื่อว่าหลายคนย่อมคุ้นเคยกับคอลเลกชั่น Chronomaster Sport เป็นอย่างดี ด้วยเพราะถือเป็นคอลเลกชั่นนาฬิกายุคใหม่ที่มีความทันสมัย และเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นบทใหม่ของ Zenith ในการเดินหน้าสู่การสร้างมหากาพย์นาฬิกากลไก จักรกลไขลานอัตโนมัติโครโนกราฟอันล้ำสมัยยิ่งขึ้นของตน โดยเฉพาะการต่อยอดพัฒนา และยกระะดับซึ่งนวัตกรรมกลไกความถี่สูง ที่มีความเที่ยงตรงไปสู่จุดสูงสุดครั้งใหม่ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ร่วมพิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วกับทั้งนาฬิกา DEFY 21 ซึ่งมาพร้อมความเที่ยงตรงแม่นยำ 1/100th ของวินาที อันเป็นตัวแทนแห่งนวัตกรรมนาฬิกา Hi-Beat Chronograph แห่งศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน Zenith ยังคงผสมผสานด้วยองค์ประกอบที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และพลิกโฉมสู่ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หนึ่งเดียวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างให้ผลลัพธ์เป็นผลงานเรือนเวลาที่มีทั้งสัมผัสของความร่วมสมัย และเที่ยงตรงแม่นยำ ด้วยจักรกลโครโนกราฟซึ่งมีให้เลือกกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เช่นเดียวกับในรุ่นใหม่ภายใต้ความสง่างามของโรสโกลด์นี้ด้วย
ในฐานะแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่ที่ Zenith ก่อตั้งขึ้นนับตั้งแต่ปีค.ศ. 1865 และกลายเป็นโรงงานผลิตนาฬิกาแห่งแรก ที่พัฒนารูปแบบการผลิตอันทันสมัยสูงสุดของยุค รวมถึงได้มอบผลลัพธ์เป็นนาฬิกา และกลไกซึ่งมีความเที่ยงตรงแม่นยำสูง ทั้งยังบรรจบกับมาตรฐานคุณภาพที่ไว้วางใจเชื่อถือได้ Zenith จึงมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์การผลิตนาฬิกามาอย่างยาวนาน เช่นเดียวกับได้สร้างสถิติใหม่ๆ ในโลกเรือนเวลาจักรกลมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะจากเหล่าผลงานกลไกจักรกล ซึ่งออกแบบ พัฒนา และผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง และติดตั้งสำหรับนาฬิกาของแบรนด์ทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือชื่อเสียงอันเป็นที่ยอมรับของ El Primero ที่สร้างสรรค์ขึ้นในปีค.ศ. 1969 ในฐานะกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ โครโนกราฟคาลิเบอร์แรกของโลก และนับจากนั้นเป็นต้นมา El Primero ก็ได้รับการต่อยอดสู่กลไกความถี่สูงอันเหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของสมรรถนะความถี่สูง และความเที่ยงตรงแม่นยำ 1/10th ของวินาที ที่ได้ติดตั้งไว้ในนาฬิกาคอลเลกชั่น Chronomaster Sport หรือนาฬิกา DEFY 21 กับความเที่ยงตรงแม่นยำ 1/100th ของวินาที ซึ่งนั่นนับเป็นหนึ่งในหลายๆ เหตุการณ์ที่ Zenith ได้สร้างรูปและวางแนวทางให้กับอนาคตใหม่ สำหรับการประดิษฐ์สร้างสรรค์นาฬิกาสวิสมาโดยตลอด
และจากประสบการณ์อันยาวนานกว่า 50 ปี บวกกับการเดินหน้าพัฒนา และปรับปรุงศักยภาพของกลไก พร้อมสมรรถนะการทำงานของนาฬิกามาอย่างต่อเนื่องนี้เอง ที่ทำให้ Chronomaster Sport รุ่นใหม่นี้เรียกได้ว่าครบเครื่องไปด้วยหัวใจกลไกที่กล้าแกร่ง และผสมผสานเข้ากับรูปลักษณ์อันสง่างามได้อย่างสมเกียรติ โดยรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ติดตั้งไว้ด้วยกลไกชื่อดังสูงสุดของโรงงานการผลิตแห่งนี้ นั่นคือ El Primero 3600 calibre พร้อมทั้งสามารถแสดงอัตราความเที่ยงตรง แม่นยำสูงได้ผ่านการแสดงของเข็ม 1/10th วินาที จากการทำงานของเอสเคปเมนต์ (escapement) ด้วยความถี่สูงถึง 5 เฮิร์ตซ์ หรือ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง เช่นเดียวกับขยายพลังงานสำรองได้นานขึ้นถึง 60 ชั่วโมง ขณะที่รูปแบบและงานตกแต่งโดยภาพรวมของกลไกชุดนี้ ได้ปรับโฉมให้ยิ่งดูทันสมัย โดยเปิดให้เห็นโครงสร้างสถาปัตยกรรมกลไกได้มากขึ้น และเติมเต็มความพิเศษสง่างามด้วยคอลัมน์วีลสีน้ำเงิน รวมถึงโรเตอร์แบบเปลือยโปร่ง ที่ประดับไว้ด้วยความสวยเด่นของลวดลายดาว Zenith ห้าแฉก
ประกอบด้วยการแสดงชั่วโมงและนาทีไว้บนหน้าปัดกลาง ส่วนหน้าปัดย่อยบอกวินาทีอยู่ ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และการแสดงความเที่ยงตรงแม่นยำ 1/10th ของวินาทีนั้นปรากฏผ่านเข็มโครโนกราฟกลาง ที่หมุมรอบหน้าปัดหนึ่งรอบในทุก 10 วินาที ส่วนหน้าปัดย่อยจับเวลา 60 นาที จัดวางไว้ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และหน้าปัดย่อยจับเวลา 60 วินาที อยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา พร้อมด้วยช่องหน้าต่างแสดงวันที่ระหว่างตำแหน่ง 4 และ 5 นาฬิกา ซึ่งถือว่าเป็นรูปลักษณ์หน้าตาของนาฬิกาโครโนกราฟอันทันสมัย แต่ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความวินเทจตามแบบฉบับของ Zenith รวมถึงจักรกลหยุดวินาที หรือ Stop-second สำหรับการปรับตั้งเวลาได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำเสมอ โดยรุ่นนี้ยังคงประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึก 100 เมตร หรือ 10 ATM
สำหรับ Chronomaster Sport ในเวอร์ชั่นใหม่กับตัวเรือนโรสโกลด์นี้ ถือเป็นการเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับตัวเลือกภายในหนึ่งในคอลเลกชั่นยอดนิยมสูงสุดของ Zenith ที่แม้จะมาพร้อมวัสดุที่ล้ำค่า และภาพลักษณ์อันหรูหรายิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงไว้ด้วยเอกลักษณ์ของสไตล์สปอร์ตสง่างาม ที่เป็นต้นตำรับได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF Zenith
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
Music: I Saw A Ghost Last Night by Leonell Cassio
from https://www.zapsplat.com
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่