จัดขึ้นทุกๆ สองปี สำหรับงานประมูล Only Watch และนาฬิกา Unique Pieces จากเหล่าแบรนด์เรือนเวลากว่า 50 เรือน ที่ครั้งนี้ มาพร้อมธีมสีส้มของงานและมาปรากฏบนนาฬิกาหลายเรือน ของปีนี้ด้วย
Watch 2021: Orange Theme สำหรับนักสะสมและแฟนๆ นักประมูลนาฬิกาแล้ว งานนี้อาจนับไ้ด้ว่าเป็นอีกหนึ่งเวทีที่พวกเขาเฝ้ารอ ที่นอกจากจะเป็นการจัดงานขึ้นเพียงสองปีครั้งแล้ว ความโดดเด่นของผลงานเรือนเวลาพิเศษที่ผลิตในแบบ Unique Pieces จากเหล่าแบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำที่ตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้น และส่งมอบเป็นรุ่นเฉพาะสำหรับงานประมูลนี้เท่านั้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่แฟนๆ นักสะสมต่างรอชม และพร้อมจะประมูลจับจองความพิเศษเฉพาะหนึ่งเดียวเหล่านี้อย่างใจจดใจจ่อด้วยเหมือนกัน
ซึ่งปีนี้ Only Watch 2021 กลับมาพร้อมการจัดงานเป็นครั้งที่ 9 ด้วยธีมสีส้มอิเล็กทริก (electric orange) ที่ส่วนใหญ่แล้ว แบรนด์ต่างๆ ยังได้นำไปใช้สร้างสรรค์เป็นรายละเอียดเฉพาะตัวของบรรดาผลงานสุดพิเศษเพียงหนึ่งเดียวสำหรับงานนี้ด้วย โดยภายใต้องค์อุปถัมภ์ของ HSH Prince Albert II of Monaco งานการประมูล Only Watch ได้ก่อตั้งขึ้นโดย Monegasque Association against Muscular Dystrophy (AMM) และจัดขึ้นในทุกๆ สองปีมานับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 2005 ด้วยเป้าหมายหลักของการร่วมสมทบทุนให้กับงานการวิจัยโรคกล้ามเนื้อเสื่อม ซึ่งรวมไปถึงโรคกล้ามเนื้อเสื่อมดูเชน (Duchenne Muscular Dystrophy) ที่ส่งผลกระทบต่อหนึ่งในทุกๆ 3,000 คน นับตั้งแต่แรกเกิด และทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อเจริญผิดเพี้ยน โดยนอกจากการรวมตัวของเหล่าเรือนเวลาพิเศษเฉพาะหนึ่งเดียวที่รังสรรค์และมอบให้โดยแบรนด์นาฬิกาหรูแล้ว นับจากเริ่มต้น Only Watch สามารถระดมทุนสนับสนุนงานวิจัยมาแล้วกว่า 70 ล้านยูโร และสำหรับงาน Only Watch 2021 นี้จะเริ่มต้นเปิดตัวขึ้นในงาน Yacht Show ของโมนาโก ระหว่างวันที่ 22 – 25 กันยายน 2021 จากนั้นจึงออกทัวร์จัดแสดงผลงานไปยังสถานที่ต่างๆ และจะสิ้นสุดลง ณ งานประมูล Only Watch ซึ่งจะมีขึ้นในเจนีวา วันที่ 6 พฤศจิกายน 2021
แต่ก่อนจะถึงวันประมูล เราไปชม 21 ผลงาน Unique Pieces บางส่วนจากทั้งหมดกว่า 50 เรือน ของเหล่าแบรนด์นาฬิกาชั้นนำซึ่งได้รังสรรค์ขึ้นพิเศษให้กับการประมูล Only Watch ในปีนี้กันเลย
Watch 2021: Orange Theme
Audemars Piguet Royal Oak “Jumbo” Extra-Thin Only Watch
นาฬิกา Unique Piece ที่อุทิศให้กับตระกูล Royal Oak “Jumbo” Extra-Thin และเป็น Unique Piece Ref. 15202 รุ่นสุดท้ายที่ขับเคลื่อนด้วย Calibre 2121 กลไกจักรไขลานอัตโนมัติบางที่สุด กับโรเตอร์กลางและการแสดงวันที่ที่เปิดตัวแนะนำครั้งแรกใน Royal Oak เมื่อปีค.ศ. 1972 เรือนพิเศษนี้มาพร้อมตัวเรือนและสายผสมผสานระหว่างไทเทเนียมแซนด์บลาสต์และ Bulk Metallic Glass หรือ BMG ขัดเงา ขณะที่หน้าปัดชวนให้นึกถึงรหัสความสวยงามของรุ่นต้นตำรับดั้งเดิม
Bell & Ross BR 01 Cyber Skull Sapphire Only Watch
ผู้นำของนาฬิกาแห่งโลกการบินได้นำเอารุ่นศิลปะเรือนเด่นอย่าง Skull Watch มาสร้างสรรค์เป็นความพิเศษเฉพาะให้กับ Only Watch ด้วยความเด่นของตัวเรือนโปร่งใสทำจากบล็อกแซฟไฟร์สามชิ้น และหน้าปัดบล็อกแซฟไฟร์อีกหกชิ้น ตกแต่งด้วยรูปกะโหลกที่สะท้อนสีส้มจากโลหะด้านหลัง โดยตกแต่งแบบสามมิติ เช่นเดียวกับแต่ละองค์ประกอบของนาฬิกาทั้งเรือน พร้อมทั้งแกะสลักคำว่า Only Watch Piece Unique ไว้บนด้านหลังนาฬิกา
Blancpain Tribute to Fifty Fathoms No Rad for Only Watch
นาฬิกาสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่นไอคอนิกของแบรนด์ในประวัติศาสตร์ช่วงกลางยุค 60s กับสไตล์อุปกรณ์เครื่องบอกเวลาที่เรียกได้ว่าเป็นรุ่นยอดนิยมและหายาก อย่าง “No Rad” โดยในรุ่น Only Watch นี้ ตกแต่งพิเศษด้วยวงแหวน เข็มชี้ และสเกลเวลาบนขอบตัวเรือนเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีส้ม แต่ยังคงโลโก้ “no radiations” ไว้บนหน้าปัด และปรับเปลี่ยนสัญลักษณ์สีเหลืองและแดงแบบดั้งเดิมมาเป็นสีส้มและเหลืองแทน
Bovet 1822 Miss Audrey Sweet Fairy ONLY WATCH
Only Watch เรือนพิเศษนี้มาพร้อมหน้าปัดที่ผสมผสานด้วยงานวาดภาพจำลองขนาดจิ๋ว และเทคนิคการสร้างสรรค์หน้าปัดใหม่ของแบรนด์ โดยการใช้กระจกที่ทำมาจากน้ำตาลบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับวัสดุเรืองแสงที่เป็นวัสดุและเทคนิคใหม่จดสิทธิบัตรโดยแบรนด์ รังสรรค์เป็นภาพของเทพธิดาตัวน้อย และตัวเรือน Amadeo convertible system ที่สามารถเปลี่ยนรูปจากนาฬิกาข้อมือมาเป็นนาฬิกาตั้งโต๊ะทำงานหรือจี้คล้องสายโซ่ได้เช่นกัน
Breguet Type XX Only Watch 2021
อุทิศให้กับนาฬิกานักบินชื่อดังของแบรนด์ในเวอร์ชั่นนาฬิกาโครโนกราฟสำหรับพลเรือนอย่าง Type XX ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากยุค 1950s และ 1960s ซึ่งเรือน Only Watch นี้มาพร้อมความโดดเด่นของรูปลักษณ์สไตล์ดั้งเดิม กับตัวเรือนขนาด 38.30 มิลลิเมตร และการทำงานของกลไก Valjoux 235 แต่เด่นด้วยหน้าปัดสีบรอนซ์ที่หาชมได้ยาก บรรจุด้วยหน้าปัดย่อยแสดงผลการจับเวลาของฟังก์ชั่นฟลายแบ็กโครโนกราฟ
Carl F. Bucherer Heritage BiCompax Annual Only Watch
หล่อหลอมไว้ด้วยสไตล์ของนาฬิกาวินเทจร่วมสมัย และการทำงานของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติแสดงปฏิทิน annual calendar และแสดงวันที่ขนาดใหญ่ ซึ่งผลงานพิเศษนี้มาพร้อมตัวเรือนไวท์โกลด์ ขนาด 41.0 มิลลิเมตร จับคู่สายหนังวัวแต่งขอบข้างด้วยสีฟ้าอ่อน รับกับวงแหวนรอบหน้าปัดกลางและหน้าปัดย่อยสีฟ้าอ่อน ฝาหลังติดตั้งกระจกแซฟไฟร์ แกะสลักคำว่า ‘ONLY WATCH’ และ ‘PIECE UNIQUE’
Chanel J12 Paradoxe Only 2
คู่ของนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวของการผลิตตัวเรือนด้วยเซรามิกสีดำด้านและสีขาวสองสีต่างกัน แต่ผสมผสานเข้าด้วยกันเป็นตัวเรือนเดียว ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการผลิตเป็นพิเศษ โดยนาฬิกาทั้งสองเรือนนี้มาพร้อมการติดตั้งกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Caliber 12.1 ผลิตขึ้นพิเศษสำหรับ Chanel และเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์รับรองโดยประกาศนียบัตร COSC
Chopard Alpine Eagle XL Chrono Only Watch
นาฬิกาโครโนกราฟเที่ยงตรงแม่นยำสูงและประดับตกแต่งด้วยหน้าปัดทำจากหินกราไนต์สวิสธรรมชาติจากเขต Graubünden ที่มีความแวววาวของลายหินเหลือบสีฟ้าและสีเขียวเข้ม ชวนให้นึกถึงสีสันของเทือกเขาอัลไพน์ที่มองเห็นมาจากท้องฟ้า ตัดกับหน้าปัดย่อยสีดำ ตัวเรือนยังคงทำมาจาก Lucent Steel A223 และสายหนังวัว ทำงานด้วยกลไก Chopard 03.05-C flyback chronograph
Girard-Perregaux Casquette – Only Watch Edition
หยิบเอาหนึ่งในรุ่นระดับตำนานสูงสุดของแบรนด์จากยุค 70s กลับมารังสรรค์ขึ้นพิเศษให้กับ Only Watch โดยความร่วมมือของ Bamford Watch Department ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งเรือนนี้ผลิตตัวเรือนจาก forged carbon และติดตั้งด้วยกลไกพัฒนาปรับปรุงใหม่ของ Calibre GP03980 แสดงเวลาบนหน้าจอ Tubular LED มาพร้อมกับสายหนังวัวแต่งลายหนังจระเข้
Hermès H08 Only Watch
ส่งนาฬิกาคู่สองเรือนที่เป็นการตีความใหม่มาจากรุ่นไฮไลต์ของแบรนด์ อย่าง H08 โดยบรรจุในกล่องนาฬิกาเดียวกัน ถ่ายทอดความสง่างามร่วมสมัยของงานดีไซน์และใส่รายละเอียดของ Only Watch ด้วยสีสันที่แสดงออกถึงธีมสีส้มของงานในปีนี้ ตัวเรือนผลิตขึ้นจากไทเทเนียมและ PVC ส่วนบนหน้าปัดตกแต่งด้วยตัวเลขสีส้ม และรายละเอียดของการแสดงเวลาอื่นๆ หน้าปัดทำจาก Black gold ทำงานด้วยกลไก Hermès H1837
Hublot Big Bang Tourbillon Only Watch
นาฬิกา Unique Piece พร้อมทั้งสุดยอดนวัตกรรมของตัวเรือนและกลไกทำจากแซฟไฟร์ใสและแซฟไฟร์สีส้ม โชว์ความเป็นต้นตำรับของงานออกแบบสไตล์ Big Bang กับตัวเรือนขนาด 45.0 มิลลิเมตร และความซับซ้อนของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Tourbillon Manufacture โดยเฉพาะไมโครโรเตอร์ที่มองเห็นได้จากด้านหน้าปัด สำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง และส่งมอบกับสายยางถอดเปลี่ยนสลับกันได้สองเส้น
Jaquet Droz Grande Seconde Skelet-One Tourbillon “Only Watch”
เรือนสมบูรณ์แบบระหว่างความสลับซับซ้อนและศิลปะการรังสรรค์นาฬิกาอันเก่าแก่จาก Ateliers d’Art ของแบรนด์ อย่าง สเกเลตันที่เผยให้เห็นการทำงานของกลไกและจักรกล Tourbillon ผสานเข้ากับหน้าปัดลงยาแบบ plique-à-jour ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในโลกของการประดิษฐ์นาฬิกา บรรจุในตัวเรือนโรสโกลด์ และขับเคลื่อนโดยกลไก Jaquet Droz 2625SQ
Louis Vuitton Tambour Curve GMT Flying Tourbillon, Only Watch 2021
ส่งมอบนาฬิกาเวอร์ชั่นใหม่ของ Tambour Curve GMT Flying Tourbillon ด้วยเฉดสีส้มอันแสนอบอุ่นทั้งบนหน้าปัดและการตกแต่งสาย โดยเฉพาะความเด่นของหน้าปัดแบบไล่เฉดและตัดด้วยสีดำ ขณะที่เครื่องหมายขีดบอกเวลาประดับด้วยแซฟไฟร์บาแกตต์สีส้มที่เป็นสัญลักษณ์ธีมสีของ Only Watch ปีนี้ ติดตั้งในตัวเรือนไทเทเนียม ขนาด 46.0 มิลลิเมตร ส่วนหูตัวเรือนและปุ่มกดทำจากพิงค์โกลด์ 18K เสริมลุคสง่างาม
Maurice Lacroix AIKON Master Grand Date Only Watch 2021
นำเสนอด้วยตัวเรือน 47.0 มิลลิเมตร ที่ขึ้นรูปจากคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งใช้ในการผลิตรถแข่ง Mahindra Racing ที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ พร้อมทั้งเสริมด้วยสเตนเลสสตีลเคลือบ DLC สีดำ บรรจุหน้าปัดกลางสีส้มตกแต่งแบบซันบรัช แสดงเวลาบนหน้าปัดย่อยแบบเยื้องศูนย์ และแสดงวันที่ขนาดใหญ่ เจาะช่องหน้าต่างบางส่วนของหน้าปัดเพื่อโชว์การทำงานของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre ML331 มาพร้อมสายนาฬิกาสีดำและสายสีส้ม
Montblanc Star Legacy Nicolas Rieussec Chronograph Only Watch’21 Unique Piece
ร่วมฉลอง 200 ปี ของอุปกรณ์เครื่องจับเวลาด้วยหมึก หรือ inking chronograph ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย Nicolas Rieussec ด้วยนาฬิกาข้อมือรุ่นเด่นที่พร้อมร่วมงานประมูลไปกับกล่องไม้ถอดต้นแบบมาจากอุปกรณ์เครื่องจับเวลาในประวัติศาสตร์จากปีค.ศ. 1821 ส่วนในนาฬิกาข้อมือบรรจุภายใต้ความสง่างามของตัวเรือนเยลโลโกลด์ ขนาด 43.0 มิลลิเมตร รับไปกับหน้าปัดสีทองและรายละเอียดการแสดงเวลาตกแต่งด้วยสีส้ม ส่วนฝาหลังแกะสลักพิเศษด้วยคำว่า “Only Watch Unique Piece”
Patek Philippe Complicated desk clock
รังสรรค์ขึ้นพิเศษด้วยนาฬิกาตั้งโต๊ะสลับซับซ้อนใน Ref. 27001M-001 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาตั้งโต๊ะซึ่งส่งมอบให้กับ James Ward Packard ในปีค.ศ. 1923 และ ณ ปัจจุบันยังคงเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ Patek Philippe Museum กับความซับซ้อนของกลไกชุดใหม่ caliber 86-135 PEND IRM Q SE ประกอบด้วยการแสดงปฏิทิน perpetual calendar, moon phases, แสดงตัวเลขสัปดาห์ และแสดงพลังงานสำรอง 31 วัน โดยผ่านการปรับตั้งด้วยอัตราความเที่ยงตรง -1/+1 วินาทีต่อวัน บรรจุภายในคาบิเนตเงินและตกแต่งด้วยไม้วอลนัทงดงาม
Richard Mille RM 67-02
ผลงานสานฝันมาจากความปรารถนาที่จะสร้างสรรค์นาฬิกาให้เหมือนกับเป็นผิวหนังชั้นที่สองของ Charles Leclerc นักแข่งความเร็ว อันเป็นที่ต้นแบบให้กับการพัฒนานาฬิกาตระกูล RM 67-02 ของแบรนด์ โดยเรือน Only Watch พิเศษนี้มาพร้อมกับตัวเรือน Quartz TPT® สีแดงและสีขาว คู่ด้วยหน้าปัดตกแต่งด้วยสีสัญลักษณ์ธงชาติของนักแข่ง บรรจุด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติสเกเลตัน Calibre CRMA7
TAG Heuer Only Watch Carbon Monaco
ตีโจทย์และจินตนาการจากรุ่นไอคอนิกขึ้นใหม่สู่นาฬิกา Monaco ที่โดดเด่นด้วยทั้งการติดตั้งกลไก Heuer 02 calibre พร้อมแฮร์สปริงคาร์บอน รวมถึงตัวเรือน 39.0 มิลลิเมตร ทำจาก forged carbon และฝาหลังประกอบด้วยกระจกแซฟไฟร์ ส่วนบนหน้าปัดสเกเลตันเปิดโชว์ให้เห็นการทำงานของกลไก และเติมความเด่นด้วยแท่งสารเรืองแสง Super-LumiNova® ประกอบลงตัวมากับสายหนังรังสรรค์ขึ้นด้วยมือ
TUDOR Black Bay GMT One
เป็นเรือน Unique สำหรับ Only Watch 2021 ด้วยความพิเศษของตัวเรือนสเตนเลสสตีลตกแต่งแบบ aged case เช่นเดียวกับสายโลหะ จับคู่หน้าปัดสีดำแบบด้านและเครื่องหมายแสดงเวลาเคลือบสารเรืองแสง ภายในติดตั้งด้วยกลไก MT5652 Manufacture Calibre แสดงเวลาได้สามไทม์โซนพร้อมกัน และเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer ที่เป็นหนึ่งในมาตรฐานสูงสุดของอุตสาหกรรมนาฬิกา ณ ปัจจุบัน กับการต้านทานแม่เหล็กได้ถึง 15,000 gauss
Ulysse Nardin UFO
เวอร์ชั่นตีความใหม่จากความล้ำยุคของนาฬิกาตั้งโต๊ะ UFO ที่เปิดตัวพร้อมความสำเร็จมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยในเรือน For Only Watch โดดเด่นไม่ซ้ำแบบใครกับการปรับแต่งโครงสร้าง รวมถึงรายละเอียดของนาฬิกาตั้งโต๊ะด้วยโทนสีส้มตามธีมของ Only Watch ปีนี้ แต่ยังคงการขับเคลื่อนและแสดงเวลาสามไทม์โซนได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำ รวมทั้งสำรองพลังงานได้นานหนึ่งป
Zenith Defy Double Tourbillon Felipe Pantone – Unique Piece for Only Watch
เรือน Unique Piece ที่ทำขึ้นจากแซฟไฟร์ ขนาด 46.0 มิลลิเมตร พร้อมทั้งบรรจุกลไก El Primero 9020 และ Double Tourbillon โดยเปิดโชว์การทำงานผ่านหน้าปัดแบบสเกเลตัน ตกแต่งด้วยสะพานจักรเคลือบ PVD สี “Rainbow” รวมถึงเครื่องหมายบอกเวลาและเข็มชี้บนหน้าปัดตกแต่งด้วยสี “Rainbow” เรือนนี้ส่งมอบพร้อมกับกล่องนาฬิกาพิเศษโดย Felipe Pantone พร้อมลายเซ็นของศิลปินเอง
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF THE BRANDS
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
Stock Footage by cottonbro from Pexels
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
