Van Cleef & Arpels เผยโฉมความงดงามมนต์เสน่ห์แสงทิวา Lady Arpels Jour Enchanté
Van Cleef & Arpels (แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์) เผยโฉมความงดงามมนต์เสน่ห์แสงทิวา Lady Arpels Jour Enchanté (เลดี อารเปลส์ ชูร็องชองเต) หนึ่งในคอลเลกชัน Extraordinary Dials ผ่านเครื่องบอกเวลานาฬิกาสู่การเป็นผลงานศิลปะ หลอมรวมหัตถศิลป์ชั้นสูงแบบฉบับฝรั่งเศส métiers d’art เข้ากับทักษะความชำนาญด้านเครื่องประดับอัญมณี ก่อกำเนิดความวิจิตรบรรจงดุจบทกวีพรรณนาเรื่องราวอันงดงามทางสุนทรียศิลป์จุดประกายจินตนาการ มาประดับไว้บนข้อมือ ขับเคลื่อนวิวัฒนาการขยายทักษะความชำนาญหลากแขนงเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ผสานหัตถกรรมลงยาที่บรรจบระหว่างธรรมเนียมดั้งเดิมกับนวัตกรรมล้ำสมัย
ถ่ายทอดผ่านตัวเรือน 41 มิลลิเมตร ประดับขอบตัวเรือนหน้าปัดและเม็ดมะยม ตกแต่งหน้าปัดนาฬิกาทองคำขาว เผยความสง่าด้วยท่วงท่าอันงดงามยามเก็บดอกไม้ของนางฟ้าภายใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า ในการใช้เทคนิคลงยาลายฉลุหรือ plique-à-jour (ปลิกาชูร์) และเทคนิคลงยาขึ้นรูปสามมิติหรือ façonné (ฟาซอนเน) ซึ่งเป็นผลงานที่พัฒนาจาก Van Cleef & Arpels อีกทั้งหน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้เป็นเสมือนเวทีที่ใช้แสดงถึงทักษะความชำนาญด้านงานหัตถศิลป์ และความเป็นเลิศในการสร้างสรรค์นาฬิกา
นาฬิกาข้อมือ “มนต์เสน่ห์แสงทิวา” ออกแบบหน้าปัดด้วยความประณีตอันซับซ้อนเฉกเช่นงานศิลป์ย่อส่วน ด้วยความเป็นเลิศเชิงเทคนิคเติมเต็มความวิจิตรตระการตาผ่านงานออกแบบถ่ายทอดความสดใส มีชีวิตชีวาในธรรมชาติ ด้วยทัศนียภาพประติมากรรมลายนูนมอบความรู้สึกสมจริงดุจมีชีวิต ด้วยการใช้ลูกเล่นมิติความลึก เพิ่มเสน่ห์จากธรรมชาติอย่างแท้จริง ด้วยท่วงท่าสง่างามยามเก็บดอกไม้ของนางอัปสรใต้แสงแรกแห่งทิวา ให้ความรู้สึกดุจมีชีวิตด้วยมนตรา หลังร่มใบตัวเรือนทองคำขาวสุกสกาวรองรับงานลงยาลายฉลุร่วมกับงานประดับเพชร คือมวลดอกไม้ระยับแสงจำแลงความเลอค่าจากไพลินสีเหลือง เทคนิคลงยาขึ้นรูปสามมิติเฉกเช่นแปลงดอกไม้ผลิสะพรั่ง ประติมากรรมนางฟ้าทองคำขาว อันถือกำเนิดจากความละเอียดลออทางหัตถกรรม คลี่ปีกประดับงานลงยาลายฉลุทอประกายเหลือบมุกโปร่งใสรับลำแสงแห่งแรกอรุณ
ในส่วนของฉากหลัง บนแผ่นฟ้าประกอบจากหินไข่นกการเวกหรือเทอร์คอยซ์ถึงสามเฉดสี ทองคำสีเหลืองหล่อแบบสลักเล่นสันเหลี่ยมต่างแถบรัศมีสาดส่องออกมาจากดวงตะวันฝังรัตนชาติเลอค่า ทั้งโกเมนสีส้มสเปซซาไทต์ ไพลินสีและเพชร โดยฝังอัญมณีขึ้นตัวเรือนบนงานลงยาก่อมิติยกสูง เทคนิคนวัตกรรมมอบความงามราวกับหยาดหยดรัตนชาติกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ
ด้านหลังของตัวเรือน สร้างสรรค์ความต่อเนื่องของเรื่องราวดำเนินผ่านงานสลักขึ้นรูปนางอัปสรโบยบิน ต้องใช้เวลาถึงสองปีไปกับการพัฒนาและ 180 ชั่วโมงกับงานประกอบหน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้ สะท้อนหัตถกรรม และความเป็นเลิศในการสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือของเมซง
งานลงยาขึ้นรูปสามมิติ และเทคนิคขึ้นตัวเรือนบนงานลงยาเติมเต็มความอ่อนหวานและคมชัดบนงานประติมากรรมย่อส่วน ท่ามกลางเทคนิคลงยาอันเต็มไปด้วยความสลับซับซ้อน ซึ่งเมซงได้พัฒนาเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ. 2023 ก็คืองานลงยาขึ้นรูปสามมิติหรือ façonné (ฟาซอนเน) เทคนิคอันสลับซับซ้อนทางกระบวนการสร้างสรรค์ สู่ประติมากรรมขนาดจิ๋วด้วยกรอบทรงโครงสัณฐานคมชัด หลังผ่านความร้อนสูงจากการใช้เวลาศึกษา วิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องถึง 16 เดือนและเทคนิคขึ้นตัวเรือนบนงานลงยา (setting in enamel) ซึ่งอาศัยเวลาในการพัฒนาและทดสอบขึ้นแบบนานถึง 24 เดือน
ส่วนงานฝีมือในสาขาศิลปะลงยา นอกจากจะต้องใช้เวลากับความมุ่งมั่นทุ่มเทระดับสูงสู่ความแตกต่างอย่างโดดเด่น และผลักดันการพัฒนาเทคนิคลงยานวัตกรรม อันนำมาซึ่งผลงานตกแต่งลายนูนต่างระดับ จากงานลงยานูนต่ำไปจนถึงงานลงยานูนสูงประดุจประติมากรรมสามมิติ ท้าทายความสามารถทางการออกแบบของแผนกสร้างสรรค์หรือ Creation Studio ในการพัฒนาเทคนิคนวัตกรรมไปกับการศึกษา วิจัย รวมถึงทดสอบกรรมวิธีแต่ละลำดับขั้นตอนบนจุดบรรจบระหว่างศาสตร์และศิลป์ เพื่อหลอมรวมรายละเอียดเชิงเทคนิค เข้ากับความงดงามตามจินตนาการในการเล่าเรื่องราวผ่านหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF VAN CLEEF & ARPELS