คอลเลกชัน Alhambra หนึ่งในสัญลักษณ์ทางการออกแบบอันโดดเด่นด้วยรูปทรงโมทิฟใบโคลเวอร์สี่แฉกสัญลักษณ์นำโชค
“ถ้าอยากมีโชค เราก็ต้องเชื่อในโชค” เป็นคำกล่าวติดปากของฌาคส์ อารเปลส์ หลานชายของเอสแตลล์ อารเปลส์ ค่านิยามอันเป็นแรงบันดาลใจในงานสรรค์สร้างของเมซงตั้งแต่ก่อตั้ง ฌาคส์ อารเปลส์เชื่อว่าเครื่องประดับควรเป็นเครื่องรางนำโชคให้แก่ผู้เป็นเจ้าของยามสวมใส่ และฌาคส์ อารเปลส์ชอบมอบใบโคลเวอร์สี่แฉกให้แก่สมาชิกในทีมของตัวเองพร้อมบอกเสมอว่า “อย่าหยุดยั้ง” (Don’t Quit) เพื่อเป็นเครื่องเตือนให้ทุกคนมีความหวังตลอดไป และ Van Cleef & Arpels ในปีค.ศ. 1968 ได้กำเนิดเครื่องประดับนำโชคอย่างแท้จริงผ่านการสรรค์สร้างดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของใบโคลเวอร์สี่แฉก อันเป็นสัญลักษณ์ประจำเมซงที่โดดเด่น และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องสะท้อนความชำนาญด้านต่างๆ เชิงหัตถศิลป์งานออกแบบอันเอื้ออำนวยต่อความต่อเนื่อง ในการรังสรรค์ศิลปะเครื่องประดับให้สอดคล้องไปกับจิตวิญญาณของแต่ละยุคสมัย
คอลเลกชัน Alhambra (อัลลองบรา) เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการออกแบบของ Van Cleef & Arpels อันโดดเด่นด้วยรูปทรงโมทิฟใบโคลเวอร์สี่แฉกสัญลักษณ์นำโชค โดยมาเป็นเครื่องประดับรูปแบบต่างๆ ผสานวัสดุอันหลากหลายร่วมกับรายละเอียดตกแต่ง นำมาร้อยเรียงสลับเฉดได้อย่างกลมกลืนบนตัวเรือนสร้อยข้อมือ และสร้อยคอยาว Vintage Alhambra (วินเทจ อัลลองบรา) รวมถึงนาฬิกาข้อมือ Sweet Alhambra (สวีท อัลลองบรา) มอบประกายแสงเรืองรองของโรสโกลด์ผสานเฉดสีส้มอมแดงอันอบอุ่นของโมราสีเพลิง หนึ่งในรงคศิลาที่เมซงชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง และรังสรรค์แผ่นโมทิฟโรสโกลด์มีประกายสว่างเจิดจรัสด้วยงานฝีมือสลักลายริ้วรัศมีตะวันหรือ “กิโยเช่” (guilloché) อีกหนึ่งสัญลักษณ์ประจำคอลเลกชันมาตั้งแต่ปีค.ศ.2018
สืบทอดธรรมเนียมตามแบบฉบับในการตกแต่งรายละเอียดเครื่องประดับ Alhambra นับตั้งแต่เริ่มสรรค์สร้างลูกปัดสีทองกลมกลึงมาร้อยเรียงตัวเดินขอบรอบโมทิฟอย่างสง่างาม สะท้อนลูกเล่นผ่านทักษะความชำนาญด้านงานหัตถศิลป์ของ Van Cleef & Arpels นอกจากนั้น และนำลูกปัดทองเม็ดเดี่ยวมาฝังประดับลงตรงกึ่งกลางโมทิฟทองสลักลายริ้วกิโยเช่เพิ่มความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยรูปทรงการออกแบบอิสระผ่านคอลเลกชัน Alhambra ซึ่งแต่ละคอลเลกชันจะมีความน่าสนใจคือ แหวนแฟชั่น อันโดดเด่นจากหัวแหวน ที่สามารถหมุนพลิกสลับด้านไปมา โดยหัวแหวนรุ่นนี้ ประกอบขึ้นจากงานประกบสองวัสดุล้ำค่าไว้คนละฝั่ง ซึ่งด้านหนึ่งเป็นโมราสีเพลิง ส่วนอีกด้านเป็นทองคำสีกุหลาบสลักลายริ้วรัศมีตะวันกิโยเช่ฝังเพชรเดี่ยวตรงกลาง อยู่บนโครงสร้างเรือนแหวนลูกปัดสีทองกลมกลึงเรียงเม็ดไล่ขนาด ซึ่งเป็นงานออกแบบผ่านการคำนวณค่าสัณฐานมาโดยเฉพาะ
คอลเลกชัน Alhambra สะท้อนความชำนาญต่างแขนงในทุกแง่มุมอย่างครบครันของเมซงผู้ผลิตเครื่องประดับชั้นสูง จากงานเจียระไนอัญมณีจนถึงงานขึ้นตัวเรือนโลหะ และงานฝังรัตนชาติขึ้นตัวเรือนไปจนถึงงานขัดผิว ในการใช้ทักษะชั้นสูงของช่างหัตถศิลป์อย่างแท้จริง และได้ชิ้นงานตรงตามมาตรฐานระดับสูงของเมซง รัตนชาติล้วนผ่านการตัดแผ่นตามรูปทรงโมทิฟที่ออกแบบไว้และผ่านการขัดผิวอย่างพิถีพิถันก่อนนำมาเทียบสี ที่คำนึงถึงความสม่ำเสมอและกลมกลืน เหมือนกับทองคำสลักลายกิโยเช่ รงคศิลาเหล่านี้ที่เจิดจรัสออกมาจากตัวเรือน ซึ่งใช้ซี่หนามเตยปลายลูกปัดกลมกลึงเป็นตัวยึดการเดินขอบอย่างแน่นหนาและสวยงาม
Van Cleef & Arpels ใช้ทองคำสีกุหลาบ (Rose Gold) สรรค์สร้างเครื่องประดับมาตั้งแต่ทศวรรษ 1920 ทั้งในแง่ของการเป็นโครงสร้างตัวเรือนและเป็นรายละเอียดในการตกแต่ง จากตลับแป้งไปจนถึงกระเป๋าถือทรงกล่อง “มิโนดิเอร” (Minaudière) ตลอดจนสร้อยข้อมือและนาฬิกาข้อมือ ได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะในการออกแบบ เมซงออกแบบสูตรหลอมทองคำสีกุหลาบตำรับเฉพาะของตนขึ้นจากการใช้ทองคำแท้ ทองแดง และเงินผสม เพื่อให้โลหะเลอค่าที่ได้ คงความงดงามทั้งในแง่ของเฉดสี และประกายเงางามให้แก่เครื่องประดับแต่ละชิ้น อย่างเช่นงานสลักลายริ้วรัศมีตะวัน “กิโยเช่” (guilloché) สะท้อนแสงตกกระทบจรัสประกายสว่างอย่างอบอุ่นละมุนตาบนตัวเรือนเครื่องประดับที่ผ่านการสรรค์สร้างอย่างพิถีพิถัน
วัสดุเลอค่าชนิดต่างๆ มาจากธรรมชาติได้รับการคัดสรรมาใช้ในคอลเลกชัน Alhambra เพื่อสะท้อนความงดงาม ความประณีตของงานฝีมือ และแรงบันดาลใจ รวมถึงคุณภาพของการรังสรรค์งาน Van Cleef & Arpels ที่มุ่งมั่นทุ่มเท อันเปี่ยมเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นโมราสีเพลิงคาร์เนเลียน (Carnelian) ไข่มุกธรรมชาติ (Mother-of-Pearl) หินไข่นกการเวกเทอร์คอยซ์ (Turquoise) นิลกาฬออนิกซ์ (Onyx) โมราแกลเซโดนี (Chalcedony) พลอยนกยูงมาลาไคท์ (Malachite) ไม้เกล็ดงูสเนควูด (Snakewood) และอื่นๆ อีกมากมาย วัสดุล้ำค่าเหล่านี้ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถันให้ได้คุณภาพตรงตามมาตรฐานสูงสุด ที่มีและคุณค่าคู่ควรต่อการนำมาสรรค์สร้างเครื่องประดับของคอลเลกชัน Alhambra
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF VAN CLEEF & ARPELS
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon