Vacheron Constantin Oversea Chronograph Panda Dial


Vacheron Constantin ต้อนรับเรือนเวลาเวอร์ชันใหม่อย่าง Oversea Chronograph Panda Dial โดยนำเสนอความสปอร์ตเข้ากับดีไซน์หน้าปัดแบบแพนด้า ที่มีทั้งความเรียบหรูและดูโดดเด่น 


Vacheron Constantin Oversea Chronograph Panda Dial Vacheron Constantin แนะนำเรือนเวลา Oversea Chronograph ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเรือนเวลา Oversea เมื่อปีค.ศ. 2016 คอนาฬิกาได้เห็นคอลเลกชันเรือนเวลาโครโนกราฟดังกล่าวในรูปแบบหน้าปัดที่หลากหลายเรื่อยมา ล่าสุดทางแบรนด์ได้ต้อนรับเรือนเวลาเวอร์ชันใหม่ของ Oversea Chronograph โดยนำเสนอความสปอร์ตเข้ากับดีไซน์หน้าปัดแบบแพนด้า (Panda dial) ที่มีทั้งความเรียบหรูและดูโดดเด่น ตอบโจทย์การสวมใส่ในทุกๆ ไลฟ์สไตล์  

Vacheron Constantin Oversea Chronograph Panda Dial

ดีไซน์หน้าปัดแบบแพนด้าเป็นการออกแบบที่มีให้เห็นในนาฬิกาโครโนกราฟ โดยจะมีการแต่งแต้มให้พื้นหน้าปัดหลักเป็นสีขาวและวงหน้าปัดย่อยมีสีดำ ซึ่งชวนให้นึกถึงหน้าของแพนด้าได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหน้าปัดแพนด้าเป็นดีไซน์ที่แฟนๆ ของ Vacheron Constantin เฝ้ารอให้ปรากฏกับเรือนเวลา Oversea Chronograph มาตลอด โดยพื้นหน้าปัดแบบแพนด้าของนาฬิกาเรือนนี้จะเป็นการตัดกันของสีเงินสตีลกับสีดำของวงขอบหน้าปัดและหน้าปัดย่อยทดการจับเวลาแสดงวินาทีแยกย่อยนั่นเอง 

Vacheron Constantin Oversea Chronograph Panda Dial

Oversea Chronograph Panda Dial ยังคงมาในตัวเรือนดีไซน์สปอร์ตหรูที่มีรายละเอียดอันมีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างชัดเจน ตัวเรือนสเตนเลสสตีลรังสรรค์ในรูปทรงคุชชัน ขนาด 42.5 มิลลิเมตร หนา 13.7 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนเซาะเป็นลักษณะกางเขนมอลทีส (Maltese Cross) อันเป็นโลโก้ประจำแบรนด์ ขัดแต่งพื้นผิวทั้งแบบขึ้นเงาและปัดด้าน ภายในประกอบด้วยตัวเรือนชั้นในผลิตจากโลหะที่มีความอ่อนตัวเพื่อป้องกันแรงดึงดูดของสนามแม่เหล็ก กันน้ำได้ลึก 150 เมตร

ในส่วนของกลไกที่ทำงานภายในนั้นเป็นกลไก in-house อัตโนมัติ Caliber 5200 เสริมด้วยระบบโครโนกราฟที่ควบคุมด้วย Column Wheel และ Clutch แนวตั้ง ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนทั้งสิ้น 263 ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง ติดทับทิมกันสึก 53 ชิ้น สะสมพลังงานได้นาน 52 ชั่วโมง ขึ้นลานด้วยโรเตอร์ทอง 22K บรรจุลงในตลับลานคู่เพื่อพลังงานที่เพียงพอ 

Vacheron Constantin Oversea Chronograph Panda Dial

Oversea Chronograph Panda Dial เลือกสวมใส่กับสายสเตนเลสสตีลขัดด้านและขัดแต่งรายละเอียดระหว่างข้อสายด้วยพื้นผิวเงา พร้อมที่พับล็อกแบบ 3 ทบและปุ่มปลดล็อก รวมถึงระบบปรับสายเพื่อการสวมใส่อย่างสบายยิ่งขึ้น ทั้งนี้สามารถที่จะเปลี่ยนสายด้วยระบบปลดสายลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ เพื่อเปลี่ยนเป็นสายหนังสีดำหรือสายยางสีดำก็ได้เช่นกัน


CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF VACHERON CONSTANTIN

GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon


สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn
On Key

Related Posts

Sometimes I Lost, Sometimes I Found

Post Views: 5 “Sometimes I Lost, Sometimes I Found” นิทรรศการเดี่ยวครั้งล่าสุดของ Zito Hsu ที่จะพาทุกท่านดำดิ่งสู่มิติแห่งการรำลึกถึง ไม่ว่าจะเป็นการส…

Your Tarot Weekly

Post Views: 32 คำพยากรณ์รายสัปดาห์ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2567 – วันเสาร์ที่​ 25 มกราคม พ.ศ. 2568 โดย​ มาดามราเชล วันอาทิตย์ นิสัย​ของดาว …

Mocha moose makeup

IN MOCHA WE TRUST; 12 MOCHA MOUSSE BEAUTY PRODUCTS

Post Views: 9 งดงามไร้ซึ่งกาลเวลา กับ 12 ไอเท็มเฉดสี Mocha Mousse โทนน้ำตาลละมุนสุดคลาสสิกที่สะท้อนความอบอุ่น เรียบหรู และทันสมัย เติมเสน่ห์ให้ทุกลุคข…

TAG Heuer Formula 1 Chronograph x Oracle Red Bull Racing

Post Views: 15 TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน Formula 1 Chronograph x Oracle Red Bull Racing ฉลอง 20 ปี ในโลกแห่งการแข่งขันของ Red Bull T…