ปลุกความกล้าและจิตวิญญาณผจญภัยด้วยคอลเลกชั่นสปอร์ตสูงสุดของ Vacheron Constantin กับการเปิดตัวนาฬิกาสองรุ่นผลิตจำนวนจำกัด Overseas Limited Editions “Everest”
Vacheron Constantin New Overseas Everest ถือว่าเรียกความสนใจจากบรรดาแฟนๆ ประจำของคอลเลกชั่นนาฬิกา Overseas จาก Vacheron Constantin (วาเชอรอง คองสตองแตง) ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว กับการเปิดตัวล่าสุดของสองผลงานรุ่นผลิตจำนวนจำกัดใหม่ใน Overseas Limited Editions “Everest” ซึ่งประกอบด้วยรุ่น Overseas chronograph “Everest” และ Overseas dual time “Everest” โดยทั้งสองรุ่นผลิตในจำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 150 เรือน และมีจำหน่ายเฉพาะในบูติก Vacheron Constantin เท่านั้น
แม้ไม่ได้พลิกโฉมไปจาก Overseas ที่เราต่างคุ้นเคยมากเท่าใดนัก แต่ทั้งสองผลงานใหม่ถือเป็นการเปิดประตูก้าวสำคัญสู่การผจญภัยและความท้าทายอย่างแท้จริง ทั้งในแง่ของงานดีไซน์และสมรรถนะที่ตอบโจทย์ทั้งการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน หรือทำกิจกรรมสไตล์สปอร์ตผจญภัย ซึ่งเป็นที่มาและแรงบันดาลใจของการสร้างสรรค์นาฬิกา “Everest” สุดพิเศษทั้งสองเวอร์ชั่น โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทางสำรวจและผจญภัยของนักสำรวจและช่างภาพชาวอเมริกัน Cory Richards นั่นเอง ซึ่งนอกจากเขาได้ทดสอบนาฬิการุ่นใหม่ด้วยตนเองจากการสวมใส่รุ่น Overseas dual time “Everest” แล้ว เขายังได้ถ่ายภาพนาฬิกา Overseas chronograph “Everest” ที่โคโลราโด เพื่อถ่ายทอดถึงสมรรถนะและความสมบูรณ์แบบลงตัวในฐานะนาฬิกานักผจญภัยของทั้งสองเวอร์ชั่นนี้ด้วย
Overseas นับเป็นนาฬิกาสปอร์ตแคชชวลที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในรูปแบบของนาฬิกาอันร่วมสมัย ด้วยต้นกำเนิดความตั้งใจของ Vacheron Constantin ที่ต้องการให้คอลเลกชั่น Overseasนี้เป็นสัญลักษณ์ถึงการค้นพบและเปิดประตูสู่โลกกว้าง ผ่านการเดินทางและการสำรวจที่อยู่เหนือความคาดหมายของผู้คน พร้อมกับนำเสนอด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างาม ทันสมัย ผสมผสานเข้ากับคุณสมบัติแห่งความแข็งแกร่งทนทาน ทั้งในเรื่องของการคัดสรรวัสดุในการประดิษฐ์ตัวเรือนเรื่อยไปจนถึงสาย สอดคล้องเข้ากับงานดีไซน์ที่ดูทันสมัยตลอดเวลา และบรรจบกับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของกลไกจักรกลที่พัฒนาขึ้นภายใน ซึ่งแน่นอนว่า Overseas Limited Editions “Everest” ทั้งสองรุ่นนี้ก็สามารถสืบทอดความโดดเด่นและสัญลักษณ์ประจำตัวของคอลเลกชั่นนี้มาได้อย่างสมบูรณ์เช่นกัน
Vacheron Constantin New Overseas Everest
เรือนเวลาทั้งสองรุ่นจึงมีความลงตัวระหว่างเสน่ห์สไตล์สปอร์ตและความสามารถเฉพาะตัว โดยทั้ง Overseas chronograph “Everest” และ Overseas dual time “Everest” ได้แรงบันดาลใจมาจากยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นการเชิดชูจิตวิญญาณการผจญภัยและการก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง ผ่านเรื่องราวและประสบการณ์ของหนึ่งในนักสำรวจและช่างภาพ Cory Richards ผู้มากด้วยความสามารถ และ Vacheron Constantin ได้คัดเลือกเขาเพื่อมาเป็นตัวแทนในแคมเปญสื่อสารของแบรนด์ “One of not many” อีกด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อปีค.ศ. 2019 นักสำรวจมากประสบการณ์ผู้นี้ได้ปีนขึ้นไปยัง ‘หลังคาโลก’ เป็นครั้งที่สาม ผ่านเส้นทาง North-East Ridge ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางที่อันตรายและยากลำบากที่สุด และบนข้อมือของเขาเองยังได้สวมนาฬิกาโปรโตไทป์ Overseas dual time ซึ่ง Vacheron Constantin พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และด้วยเอกลักษณ์นี้ยังได้ส่งต่อรหัสความสง่างามและความสำเร็จผ่านบททดสอบร่วมกับนักผจญภัยคนนี้มายังนาฬิกา Overseas Limited Editions “Everest” ทั้งสองรุ่นของวันนี้นั่นเอง โดยมี Cory Richards ลงมือถ่ายภาพเพื่อถ่ายทอดความโดดเด่นของทั้งนาฬิกาด้วยตัวเอง
สำหรับนาฬิการุ่นใหม่ยังคงเอกลักษณ์ของขอบตัวเรือนทรงหกเหลี่ยม ซึ่งชวนให้นึกถึงเครื่องหมาย Malteseอันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ กับการถ่ายทอดมิติที่แตกต่างด้วยสไตล์อันทรงพลังและโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเลือกผสมผสานระหว่างวัสดุไทเทเนียมและสเตนเลสสตีลเข้าด้วยกันอย่างชำนาญ ซึ่งทั้งบนตัวเรือน ขอบตัวเรือน ปุ่มกด และบ่าปกป้องปุ่มกดล้วนผลิตขึ้นจากไทเทเนียม วัสดุที่มีน้ำหนักเบา แข็งแกร่ง และกันการสึกกร่อนได้ดี แต่ยังคงผ่านการตกแต่งอย่างประณีตและกลายเป็นบุคลิกเฉพาะตัวของคอลเลกชั่นนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขัดเงาและขัดด้านซาตินผสมผสานกันบนตัวเรือน ขณะที่ขอบตัวเรือน เม็ดมะยมรวมถึงบ่าปกป้องปุ่มกดตกแต่งแบบบีดบลาสต์ ซึ่งตัดกันกับหน้าปัดตกแต่งแบบเกรน ส่วนเฉดสีเทาแอนทราไซต์ยังช่วยเสริมความคอนทราสต์กับประกายแวววาวบนขอบวงรอบขอบตัวเรือนที่ผลิตจากสเตนเลสสตีล กับอีกหนึ่งจุดเด่นคือด้านข้างตัวเรือนที่ตกแต่งแบบเกรนและเล่นกับเฉดสีส้มสด ซึ่งเข้ากันกับเฉดสีของด้ายที่ใช้เย็บสายนาฬิกา Cordura® รองด้วยหนังลูกวัวนูบัก เพื่อเสริมความแข็งแรงทนทาน แต่ก็นุ่มสบายเมื่อสวมใส่บนข้อมือ
และเพื่อรูปลักษณ์สง่างามเหมาะสำหรับการสวมใส่ได้หลากสไตล์และหลายโอกาส นาฬิกาทั้งสองรุ่นจึงติดตั้งมาพร้อมกับระบบถอดเปลี่ยนสายได้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชั่นOverseas โดยเป็นระบบถอดเปลี่ยนสายที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ ช่วยในการเปลี่ยนสลับกันระหว่างสาย Cordura® และสายยางที่ส่งมอบมาพร้อมกับนาฬิกา
ในรุ่น Overseas chronograph “Everest” นั้นมาพร้อมกับความสลับซับซ้อนของกลไกจักรกลโครโนกราฟสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งสุดท้าทาย ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียมและสเตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.5 มิลลิเมตร พร้อมทั้งหน้าปัดสีเทาแอนทราไซต์ และแสดงผลการจับเวลาด้วยเข็มชี้เฉดสีส้มที่ช่วยให้สามารถอ่านค่าได้อย่างชัดเจน ส่วนภายในติดตั้งกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Calibre 5200/2 ซึ่งผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง ประกอบด้วยกระปุกลานคู่และคอลัมน์วีลควบคุมฟังก์ชั่นจับเวลา รวมถึงคลัตช์แนวตั้งช่วยให้ปุ่มกดใช้งานได้อย่างนุ่มนวลและแม่นยำ และหากพลิกกลับไปยังฝาหลังนาฬิกายังจะได้ชมความสวยงามของโรเตอร์พิงค์โกลด์ 22 กะรัต ที่สลักไว้ด้วยภาพยอดเขา Everest ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพถ่ายของ Cory Richards ในระหว่างที่เขาออกสำรวจเทือกเขาหิมาลัยอีกด้วย รุ่นนี้ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 150 เรือน
ขณะที่ Overseas dual time “Everest” ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางและนักสำรวจได้อย่างดี ทั้งยังได้ต้นแบบโดยตรงมาจากนาฬิกาโปรโตไทป์ที่ Cory Richards สวมติดตัวเมื่อเดินทางขึ้นไปยัง ‘หลังคาโลก’ ด้วย เวอร์ชั่นนี้ยังคงเป็นรุ่นผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 150 เรือนเช่นเดียวกัน แต่ต่างด้วยฟังก์ชั่นที่เป็นประโยชน์สำหรับนักเดินทางมากยิ่งขึ้น คือการแสดงเวลาได้สองไทม์โซนแบบคลาสสิก ที่ประกอบด้วยเข็มที่สี่ทรงลูกศรสีส้มทำหน้าที่แสดงเวลาบ้านเกิด (home time) พร้อมด้วยตัวแสดงเวลากลางวัน-กลางคืน ขณะที่การแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาจะสอดคล้องไปตามเวลาท้องถิ่น (local time) ฟังก์ชั่นทั้งหมดนี้ประกอบภายในตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมและสเตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41.0 มิลลิเมตร และทำงานโดยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre 5110 DT/2 ผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง ที่เปิดโชว์ผ่านฝาหลังกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ โดยเฉพาะซิกเนเจอร์ของโรเตอร์พิงค์โกลด์ 22 กะรัต ตกแต่งด้วยการสลักภาพ Everest ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพถ่ายของ Cory Richards เช่นกัน กลไกทั้งสองคาลิเบอร์นี้ยังมีคาแรกเตอร์โดดเด่นของการตกแต่งแท่นเครื่องเป็นสีเทาแอนทราไซต์โดยการเคลือบ NAC ที่ยิ่งเสริมความสวยเด่นให้กับโรเตอร์พิงค์โกลด์ และมอบสไตล์สปอร์ตทันสมัยและร่วมสมัยตามแบบฉบับของ Overseas ได้อย่างสมบูรณ์
สลักด้วยภาพ Everest ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพถ่ายของ Cory Richards
“สำหรับผม นาฬิกาทั้งสองรุ่นเป็นการนำเสนอความประณีตและความพยายามที่ต้องใช้เวลานานนับไม่ถ้วน ทั้งยังสื่อให้เห็นถึงการลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นเพื่อเสาะหาสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญ รวมทั้งความหมายของทักษะฝีมือ… อีกทั้งความมุมานะทั้งหมดของผมยังสะท้อนอยู่ในการเดินทางครั้งนี้… ไม่ว่าจะในศิลปะและภาพถ่าย หรือการออกสำรวจ สำหรับผมแล้ว การนำเสนองานฝีมือใดๆ ก็ตามจะเป็นที่เข้าใจได้ดีที่สุด หากเราปลดเปลื้องหรือลดทอนบางสิ่งออกไปในขณะที่มุ่งไปสู่ความสมบูรณ์แบบ ผมเห็นสิ่งเหล่านี้ในรายละเอียดต่างๆ ที่ถูกผนวกเข้าไป รวมทั้งเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้นด้วย มันทำให้ผมนึกถึงหยาดเหงื่อ ทั้งความทุกข์และความสุขที่นำไปสู่ความยิ่งใหญ่ และเมื่อมองกลไก ผมเห็นถึงความทุ่มเท ซึ่งกินเวลามากมายเกินกว่าจะนับได้ในการทำงานให้เป้าหมายนั้นเป็นจริงขึ้นมา ผมมองเห็นเวลาที่ทุ่มลงไป ผมเห็นชีวิตตัวเองสะท้อนกลับมายังตัวผม ผ่านนาทีและวินาทีที่ผ่านไป และมันทำให้ผมคิดว่ายังคงมีเส้นทางข้างหน้ารออยู่ และการเดินทางมากมายไม่รู้จบที่กำลังจะเกิดขึ้น” – Cory Richards
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF Vacheron Constantin
MUSIC: No Brakes (ft. Fluffy) by Stefan Kartenberg from ccmixter.org
STOCK FOOTAGE: Stefano Rinaldo from Pexels
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่