กว่า 50 ปี ของเรื่องราวนาฬิกาโครโนกราฟระดับตำนานของ TUDOR ที่วันนี้ได้ถ่ายทอดสู่ทายาทรุ่นใหม่แห่ง Black Bay Chrono
Tudor Black Bay Chrono 2021 กล่าวได้ว่า Black Bay Chrono นั้นถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นเรือธงสำหรับ TUDOR (ทิวดอร์) ที่พิสูจน์ความเที่ยงตรงแม่นยำของจักรกลโครโนกราฟมาแล้ว จากเส้นทางกว่า 50 ปี ของการสร้างสรรค์โครโนกราฟของแบรนด์ นับตั้งแต่การเปิดตัวนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นแรก อย่าง Oysterdate ในปีค.ศ. 1970 ด้วยสมรรถนะแห่งความแม่นยำ กับดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครจากเอกลักษณ์ของสีสันที่สดใส พร้อมทั้งความโดดเด่นของสัญลักษณ์เครื่องหมายบอกชั่วโมงทรงห้าเหลี่ยมที่ดูคล้ายกับป้ายโฮมเพลทในการแข่งขันเบสบอล ผสานด้วยหน้าปัดย่อยแสดงการจับเวลา 45 นาที และฟังก์ชันวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และด้วยการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในทันทีจากโลกแห่งการแข่งขันความเร็ว ผลงานรุ่นนี้จึงได้บุกเบิกสู่เส้นทางกว่า 50 ปี ของนาฬิกาโครโนกราฟที่ TUDOR ทุ่มเทพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งตลอดมา
เช่นเดียวกันกับการพัฒนาปรับปรุงคุณสมบัติของนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพมาอย่างต่อเนื่องนับจากปีค.ศ. 1954 และนำทางมาสู่การเผยโฉมต้นตระกูลความคลาสสิกวินเทจของ Black Bay ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการบรรจุด้วยเข็มชี้ทรง “เกล็ดหิมะ” หรือ Snowflake ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของบรรดานาฬิกานักดำน้ำสำหรับ TUDOR นับจากปีค.ศ. 1969 โดยรังสรรค์ขึ้นเพื่อช่วยให้สามารถอ่านเวลาได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งเคลือบด้วยสารเรืองแสง และเมื่อสองคุณสมบัติแห่งความเชี่ยวชาญของ TUDOR ได้มาหลอมรวมเข้าด้วยกัน จึงกลายเป็นความสมบูรณ์แบบของทายาทนาฬิการุ่นใหม่ อย่าง Black Bay Chrono ของวันนี้
สำหรับ Black Bay Chrono โฉมใหม่ล่าสุดสำหรับปีนี้นั้น ปรากฏตัวพร้อมด้วยหน้าปัดทรงโดม ที่มีให้เลือกสองรูปแบบ คือหน้าปัดสีดำด้าน หรือสีขาวโอปอลีน มาพร้อมกับหน้าปัดย่อยแบบเว้าลงและตกแต่งด้วยสีที่ตัดกันกับหน้าปัดกลาง เพื่อแสดงผลการจับเวลาได้อย่างชัดเจนและแม่นยำสูง พร้อมทั้งผสมผสานด้วยแรงบันดาลใจจากโครโนกราฟยุคแรกๆ ของ TUDOR ซึ่งประกอบไว้ด้วยหน้าปัดย่อยสำหรับแสดงการจับเวลา 45 นาที และหน้าต่างแสดงวันที่ ที่จัดวางไว้ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
ขณะที่คุณสมบัติอันเป็นที่จดจำของ Black Bay นั้นยังคงรักษาไว้ภายใต้ตัวเรือนสเตนเลสสตีล 316L ขัดซาตินและขัดเงา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 41.0 มิลลิเมตร ที่สวยงามประณีตยิ่งขึ้นด้วยการตัดส่วนล่างของกระจกแซฟไฟร์และปรับตำแหน่งการจัดวางกลไกใหม่อย่างอัจฉริยะ โดยเฉพาะความลงตัวกับดีไซน์ของปุ่มกดสเตนเลสสตีลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาโครโนกราฟ TUDOR เจเนอเรชั่นแรกๆ ส่วนขอบตัวเรือนแบบยึดแน่นทำจากสเตนเลสสตีล 316L บรรจุด้วยวงแหวนอลูมิเนียมเคลือบผิวสีดำพร้อมทั้งสเกลสำหรับวัดคำนวณความเร็ว ที่เติมเต็มสไตล์แห่งนาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟรุ่นใหม่นี้ได้อย่างไร้ที่ติ
Tudor Black Bay Chrono 2021
Black Bay Chrono ยังตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟสมรรถนะสูง โดยการทำงานของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Manufacture MT5813 Calibre ที่พัฒนาและผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง พร้อมทั้่งจักรกลคอลัมน์วีลและคลัทช์แนวตั้งที่เสริมประสิทธิภาพความแม่นยำของการจับเวลา รวมถึงความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ที่ผ่านประกาศนียบัตรรับรองโดย COSC จากองค์ประกอบชิ้นสำคัญของทั้งสปริงซิลิคอนเพิ่มกำลังความเสถียร และมอบพลังงานสำรองได้ 70 ชั่วโมง ซึ่ง TUDOR ยังคงควบคุมการกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ไว้ที่ -2 ถึง +4 วินาทีสำหรับนาฬิกาที่ประกอบสมบูรณ์แล้ว ที่เข้มงวดกว่ามาตรฐานโดย COSC ด้วยค่าความผันแปรเฉลี่ยสำหรับอัตราการทำงานในแต่ละวันที่ยอมรับได้อยู่ระหว่าง -4 ถึง +6 วินาทีสัมพันธ์ไปตามช่วงระยะเวลาเวลาที่กำหนดเฉพาะ นาฬิการุ่นนี้จึงมาพร้อมความทนทานและความน่าเชื่อถืออันยอดเยี่ยม เพื่อคงไว้ซึ่งปรัชญาแห่งคุณภาพของ TUDOR พร้อมรับประกันประสิทธิภาพด้วยการทดสอบระดับสูงสุดในรูปแบบต่างๆ ที่ใช้ในการทดสอบกับนาฬิกา TUDOR ทุกรุ่น
ขุมพลังภายในนาฬิกา Black Bay Chrono นี้ยังทำหน้าที่ขับเคลื่อนการแสดงชั่วโมง นาที วินาที การจับเวลา และวันที่ได้อย่างเที่ยงตรง กับการขึ้นลานด้วยโรเตอร์ทำจากทังสเตนแบบโมโนบล็อกตกแต่งด้วยลวดลายฉลุ พร้อมทั้งงานขัดซาตินและแบบพ่นทราย ขณะที่แท่นเครื่องและสะพานจักรต่างๆ ตกแต่งพื้นผิวแบบพ่นทรายสลับกับขัดเงา พร้อมทั้งการตกแต่งด้วยเลเซอร์
และขาดไม่ได้คือหนึ่งในบุคลิกอันโดดเด่นของบรรดาสายนาฬิกาที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อจับคู่กับสไตล์สปอร์ตร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น สายผ้าทอแจ็กการ์ด (Jacquard) หรือสายโลหะ และความเท่ของสายบันด์ (bund) โดยเฉพาะสายผ้าที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ TUDOR ซึ่งในปีค.ศ. 2010 ได้กลายเป็นนาฬิกาแบรนด์แรกที่มอบสายผ้ามาพร้อมกับนาฬิกา และผ้าดังกล่าวยังทอขึ้นอย่างพิถีพิถันในฝรั่งเศสด้วยเครื่องทอผ้าแจ็กการ์ดสมัยศตวรรษที่ 19 โดยบริษัท Julien Faure แห่งแคว้นแซงต์ เอเตียน ซึ่งมีทั้งความโดดเด่นของความประณีตสวยงามและคุณภาพ รวมถึงสัมผัสที่ให้ความรู้สึกสบายยามสวมใส่บนข้อมือที่ไม่เหมือนใคร โดยในปีค.ศ. 2020 TUDOR และ Julien Faure ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งมานานถึง 150 ปี ได้ร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี แห่งความร่วมมือที่เริ่มต้นขึ้นมาจากนาฬิการุ่น Heritage Chrono ซึ่งนับเป็นนาฬิการุ่นแรกของแบรนด์ที่มาพร้อมสายผ้าที่ถักทอขึ้นโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญ และเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน Baselworld 2010
โดยนาฬิกา Black Bay Chrono จับคู่มากับสายผ้าทอสีดำซึ่งเลือกสรรลวดลายโดย TUDOR รวมถึงตัวเลือกของสายสเตนเลสสตีลซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากสายบานพับตอกหมุดที่ TUDOR ผลิตขึ้นในช่วง 1950s และ 1960s อีกด้วย โดยเป็นที่รู้จักกันดีจากเอกลักษณ์หัวหมุดสำหรับเชื่อมต่อข้อสาย ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากด้านข้างของสายนาฬิกา และข้อต่อเหล่านี้ยังมีโครงสร้างแบบขั้นบันไดที่ไม่เหมือนใคร มอบเป็นสุนทรียภาพแห่งความประณีตและเต็มไปด้วยเรื่องราวของฟังก์ชั่น โดยในนาฬิการุ่นปัจจุบันยังผสานรวมไว้ด้วยกรรมวิธีการผลิตยุคใหม่เข้ากับข้อต่อแบบตันที่เสริมซึ่งความแข็งแกร่งทนทานสูง กับอีกหนึ่งสายนาฬิกาที่ถอดจิตวิญญาณมาจากโลกแห่งการแข่งขันความเร็วในยุค 1970s ด้วยดีไซน์สายหนังสีดำวินเทจแบบบันด์ พร้อมฝีตะเข็บสีขาวนวลและตัวล็อกสายแบบบานพับ สำหรับ Black Bay Chrono รุ่นใหม่กับประสิทธิภาพการกันน้ำได้ลึก 200 เมตร และยังคงมาพร้อมการรับประกัน 5 ปี ของ TUDOR ที่ไม่จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนหรือนำนาฬิกามาตรวจซ่อมบำรุงใดๆ และสามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทายาทนาฬิกา Black Bay Chrono ที่ครบเครื่องทั้งรหัสงานออกแบบและเอกลักษณ์อันเป็นต้นตำรับของตระกูล Black Bay เข้ากับสมรรถนะของกลไกโครโนกราฟไว้วางใจเชื่อถือได้ รวมถึงต้นแบบของนาฬิกานักดำน้ำ TUDOR ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องเกือบ 7 ทศวรรษ ไว้ด้วยกัน แม้จะมีรูปลักษณ์แบบนีโอวินเทจ แต่ด้วยเทคนิคการผลิต พร้อมทั้งความแข็งแกร่งทนทาน และความเที่ยงตรงนั้นยังคงความเหนือชั้นด้วยมาตรฐานและความทันสมัยในเทคโนโลยีการผลิตของ TUDOR เสมอ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF TUDOR
STOCK FOOTAGE : mixkit.co
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่