TUDOR เปิดตัวนาฬิกานักเดินทาง ด้วยรูปลักษณ์สปอร์ตใหม่ แต่คงไว้ด้วยสไตล์คล่องตัวสำหรับการเลือกสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ดี กับ Black Bay Pro
นับเป็นไฮไลต์อีกหนึ่งรุ่นสำคัญของปีนี้ สำหรับ TUDOR (ทิวดอร์) กับการเปิดตัวแนะนำนาฬิการุ่นใหม่แบบพลิกโฉมทั้งสไตล์และฟังก์ชันสำหรับเอาใจเหล่านักเดินทาง พร้อมทั้งงานดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้งานและสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น ในผลงานรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า Black Bay Pro
นำเสนอภายใต้ความสง่างามประณีต แม้เป็นนาฬิกาสไตล์เทคนิคสมรรถนะสูงจากคอลเลกชัน Black Bay อันเลื่องชื่อของแบรนด์ โดยใน Black Bay Pro นี้มาพร้อมกับตัวเรือนทรงกะทัดรัด แข็งแกร่งทนทานและสะท้อนถึงสไตล์สปอร์ตทันสมัย ภายใต้ตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.0 มิลลิเมตร ที่ทำจากสเตนเลสสตีลผ่านการตกแต่งแบบขัดด้านซาตินและขัดเงา พร้อมทั้งขอบตัวเรือนสเตนเลสสตีลแบบยึด บรรจุไว้ด้วยสเกลบอก 24-ชั่วโมง และการขับเคลื่อนอย่างทรงพลังของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ TUDOR Manufacture Calibre MT5652 ซึ่งมาพร้อม built-in GMT function รวมถึงโครงสร้างแบบผสาน ที่แตกต่างจากการเสริมด้วยโมดูลแยก โดยมอบทั้งความโดดเด่นด้านสมรรถนะและความลงตัวให้กับนาฬิกาดีไซน์กะทัดรัดสำหรับนักเดินทางรุ่นนี้ ด้วยกลไกที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 31.8 มิลลิเมตร และหนา 7.52 มิลลิเมตร รวมถึงทับทิม 28 เม็ด
Black Bay Pro ถือเป็นนาฬิการุ่นใหม่ที่ผ่านการพัฒนาด้านสไตล์ รูปลักษณ์และคุณสมบัติด้านฟังก์ชันขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยมีจุดเด่นหลักคือการมาพร้อมฟังก์ชันแสดงเวลาสองไทม์โซน ซึ่งเป็นหนึ่งในความสลับซับซ้อนทางเทคนิคและกลไกจักรกล นอกจากนี้ ยังสะท้อนความเชี่ยวชาญของแบรนด์ในสาขาของนาฬิกาเครื่องมือที่เป็นอุปกรณ์บอกเวลาอันสำคัญของเหล่ามืออาชีพสาขาต่างๆ โดยใน Black Bay Pro ใหม่นั้น ต่อยอดด้วยการสร้างสรรค์และบรรจุภายในไว้ด้วยกลไกจักรกลผ่านการพัฒนาและผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง พร้อมทั้งฟังก์ชัน GMT แบบ built-in ที่แตกต่างไปจากกลไกนาฬิกา GMT อื่นๆ และใน TUDOR Manufacture Calibre MT5652 นี้ได้ผ่านประกาศนียบัตรรับรองระดับโครโนมิเตอร์โดย COSC (Swiss Official Chronometer Testing Institute) ด้วยอัตราค่าความแปรผันระหว่าง -2 และ +4 วินาทีเมื่อประกอบกลไกและนาฬิกาสมบูรณ์ ซึ่งอยู่เหนือกว่าระดับโครโนมิเตอร์ทั่วไปที่กำหนดค่าความแปรผันไว้ระหว่าง -4 และ +6 วินาที โดยมาพร้อมการติดตั้งด้วยซิลิคอนบาลานซ์สปริงที่ไม่เป็นแม่เหล็ก และการทำงานความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 เฮิรตซ์ ซึ่งมอบการสำรองพลังงานได้ประมาณ 70 ชั่วโมง เพียงพอสำหรับถอดนาฬิกาวางไว้ในค่ำวันศุกร์ และหยิบมาสวมอีกครั้งในเช้าวันจันทร์ได้โดยไม่ต้องปรับตั้ง
สะดุดสายตาและบ่งบอกถึงสมรรถนะของการเป็นนาฬิกา GMT อย่างชัดเจน ด้วยขอบตัวเรือนแบบยึดตกแต่งแบบขัดด้านซาติน ซึ่งบรรจุไว้ด้วยสเกลบอก 24-ชั่วโมง รวมถึงเข็ม 24-ชั่วโมงทรง “Snowflake” สีเหลืองโดดเด่น ปกป้องโดยกระจกแซฟไฟร์โค้งทรงโดม ขณะที่อีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นใหม่นี้ คือการใช้เซรามิกเรืองแสงแบบ monobloc และไร้กรอบโลหะสำหรับมาร์กเกอร์แสดงชั่วโมงแบบนำมาติด ตัดกับหน้าปัดสีดำตกแต่งลายเกรนแบบด้าน ที่ช่วยมอบการเรืองแสงได้อย่างสมบูรณ์และสว่างไสว ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้สามารถมองเห็นแสงเรืองได้จากทุกมุมมองมากขึ้น ส่วนเข็มชี้ทรง “Snowflake” ยังคงเชื่อมโยงถึงสัญลักษณ์ของบรรดานาฬิกาดำน้ำ TUDOR นับตั้งแต่ริเริ่มสร้างสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ. 1969 โดยบนเข็มชี้ประกอบด้วยสารเรืองแสง Swiss Super-LumiNova® Grade A ยกระดับความมั่นใจและไว้วางใจเชื่อถือได้ในแง่ของความสามารถในการมองเห็นและอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน อันเป็นหนึ่งในคุณสมบัติหัวใจสำคัญของเหล่านาฬิกาอุปกรณ์สำหรับมืออาชีพ โดยคงไว้ด้วยประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกระดับ 200 เมตร หรือ 660 ฟุต
สำหรับการแสดงเวลาสองไทม์โซนใน Black Bay Pro นี้ เวลาท้องถิ่น (local time) จะแสดงผ่านเข็มชี้ทรง “Snowflake” ที่สั้นกว่า และปรับตั้งได้สะดวกสบายทั้งเดินหน้าหรือถอยหลังครั้งละชั่วโมง ส่วนเวลาอ้างอิง (reference time) จะแสดงโดยเข็มชี้ “Snowflake” ทรงเหลี่ยมมุมสีเหลือง ซึ่งหมุนรอบหน้าปัดสมบูรณ์ในทุกๆ 24 ชั่วโมง ขณะที่วันที่นั้นแสดงผ่านช่องหน้าต่างซึ่งจัดวางอย่างสมดุลลงตัว ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา โดยสอดคล้องและจับคู่เข้ากับเข็มชี้ของเวลาท้องถิ่น (local time) เพื่อช่วยในการปรับตั้งวันที่ได้อย่างสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังคงไว้ด้วยระบบหยุดวินาที (stop-seconds) เพื่อการปรับตั้งเวลาได้อย่างแม่นยำ
ตอบสนองรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสำหรับนักเดินทางท่องโลก นักธุรกิจ และผู้ที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟและรักการผจญภัย ที่ Black Bay Pro ยังมาพร้อมกับตัวเลือกของสายสามรูปแบบ ระหว่างสายผ้า Jacquard สีดำ ตกแต่งแถบสีเหลือง หรือสายไฮบริดระหว่างยางและหนัง และสายสร้อยข้อมือทำจากสตีล 316L ตกแต่งด้วยหมุด ซึ่งมาพร้อมกับระบบ TUDOR “T-fit” สำหรับปรับความยาวของสายได้อย่างง่ายดายสูงสุด 8.0 มิลลิเมตร โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการปรับความยาวสายใดๆ
นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่เป็นตัวอย่างของการแสดงออกถึงความเชี่ยวชาญ ความเอาใจใส่ในรายละเอียดทั้งทางด้านเทคนิคที่พร้อมตอบโจทย์และรูปแบบการใช้งานได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น รวมถึงด้านความสวยงามลงตัว ที่หลอมรวมเป็นความสมบูรณ์แบบและทันสมัยเชิงเทคนิคอันโดดเด่นอย่าง Black Bay Pro ของ TUDOR
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF TUDOR
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่