มัดรวมเทคนิคเลือกน้ำหอมผู้ชายที่ใช่ และทริคฉีดน้ำหอมอัพสกิลความหล่อเท่สะอาดสะอ้านเพื่อมัดใจสาวๆ ได้อย่างอยู่หมัด พร้อมอัพเดทละอองความหอมจากแบรนด์ชั้นนำมากมายที่มีให้เลือกพร่างพรมกันแบบจุใจ
กลิ่นถือเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำและประทับใจ นอกเหนือจากการแต่งตัวของผู้ชายแล้ว น้ำหอมเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการเสริมสร้างเสน่ห์ เมื่อต้องไปงานต่างๆ หรือไปข้างนอกเพื่อพบปะผู้คน ดังนั้น การรู้จุดชีพจรฉีดน้ำหอมจะทำให้กลิ่นน้ำหอมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผู้คนประทับใจและเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้น แต่จุดฉีดน้ำหอมผู้ชายกับผู้หญิงมีความต่างกันเล็กน้อย มาดูกันว่าจะมีทริคฉีดน้ำหอมสำหรับหนุ่มๆ อย่างไรเพื่อเสริมเสน่ห์ให้ถูกจุด มัดใจผู้คนที่พบเจอได้อย่างแน่นอน
ทำความรู้จักกับกลิ่นน้ำหอมก่อนเลือกซื้อ
ก่อนที่จะรู้ถึงวิธีฉีดน้ำหอม หนุ่มๆ ควรรู้ถึงวิธีเลือกน้ำหอมผู้ชายก่อน เพราะน้ำหอม 1 ขวดนั้นมีทั้งหมด 3 กลิ่นด้วยกัน คือ Top Notes, Middle Notes และ Base Notes ซึ่งการทำงานและระยะเวลาของแต่ละกลิ่นย่อมแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำหอม ซึ่งวิธีเลือกน้ำหอมผู้ชายเพื่อให้ได้กลิ่นที่ถูกใจ เสริมเสน่ห์ เพิ่มความมั่นใจ จะต้องเข้าใจถึงกลิ่นน้ำหอมในขวดที่มีทั้ง 3 แบบดังต่อไปนี้
• Top Notes: เมื่อฉีดน้ำหอมออกมาจะได้เป็นกลิ่นแรก เรียกได้ว่าเป็นการสร้างความประทับใจแรกและเป็นการเตรียมให้พบกับกลิ่นถัดไป คือ Middle Notes ซึ่ง Top Notes นั้นจัดเป็นกลิ่นแรกและเป็นกลิ่นชั้นบนสุดของน้ำหอมเมื่อฉีดออกมา แต่จะระเหยไปอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 5-15 นาที
• Middle Notes: คือกลิ่นที่จัดว่าเป็นหัวใจหลักของน้ำหอมขวดนั้น ซึ่งจะทำงานต่อหลังจากกลิ่น Top Notes โดยจะได้กลิ่นอยู่ภายในระยะเวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง
• Base Notes: เป็นกลิ่นสุดท้ายที่จะได้รับในน้ำหอมขวดนั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นฐานของกลิ่นน้ำหอม โดยในบางครั้ง Base Notes จะทำงานร่วมกับ Middle Notes เพื่อเกิดกลิ่นใหม่ ก่อนที่ Middle Notes จะจางหายไป เหลือไว้เพียงฐานของกลิ่นน้ำหอม คือ Base Notes ซึ่งทำให้น้ำหอมขวดนั้นมีกลิ่นที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดย Base Notes จะได้กลิ่นอยู่ภายในระยะเวลาประมาณ 5-10 ชั่วโมง
จุดฉีดน้ำหอมผู้ชายที่รู้ก่อนเท่ก่อน
การรู้จักจุดชีพจรฉีดน้ำหอมจะทำให้การใช้น้ำหอมมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การรู้จักจุดที่ควรฉีดน้ำหอมจะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดทนและกระจายกลิ่นได้ดีขึ้น โดยจุดฉีดน้ำหอมผู้ชายที่สำคัญมีดังนี้
1. หลังใบหูทั้ง 2 ข้าง
หลังใบหูทั้ง 2 ข้างเป็นจุดชีพจรที่น้ำหอมกระจายกลิ่นได้ดี เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของกลิ่นน้ำหอมที่ใกล้ชิดกับผู้คนมากที่สุด สามารถฉีดได้ทุกโอกาส กลิ่นจะชัดเจนและติดทนนาน
2. ข้อมือทั้ง 2 ข้าง
ข้อมือทั้ง 2 ข้างเป็นจุดชีพจรที่ควรฉีดน้ำหอมเพราะมีการเคลื่อนไหวบ่อย ไม่ว่าจะเป็น การขยับ การหยิบจับสิ่งของ เมื่อนั้นจะได้กลิ่นหอมของน้ำหอมโชยมาตามการขยับ ซึ่งการฉีดตรงนี้จะทำให้เราได้กลิ่นน้ำหอมของตัวเองได้ชัดขึ้น ถึงแม้ไม่ต้องเจอใครก็สามารถฉีดเพื่อความพึงพอใจของตนเองได้ หรือฉีดเมื่ออยู่กับเพื่อน อยู่กับคนใกล้ชิด ครอบครัว เรียกได้ว่าสามารถฉีดได้ทุกโอกาสแม้ไม่เจอใคร
3. ด้านหลังคอ
ด้านหลังคอเป็นจุดชีพจรน้ำหอมที่ยิ่งใกล้ชิดยิ่งได้กลิ่นหอม ทำให้หอมแบบมีเสน่ห์น่าหลงใหล ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ควรฉีดน้ำหอมของผู้ชาย เพราะเป็นจุดที่อุณหภูมิสูงและด้วยสภาพอากาศประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน เมื่อเหงื่อออกจะทำให้กลิ่นฟุ้งกระจายได้ดีกว่าเดิม เมื่อเดินไปไหนจะทำให้ได้กลิ่นโชยมาหลังจากเดินผ่าน สามารถฉีดได้ทุกโอกาสโดยไม่ต้องฉีดเยอะให้เปลือง
4. หน้าอก
หน้าอกเป็นอีกจุดชีพจรที่ผู้ชายควรฉีดน้ำหอม เพราะเป็นบริเวณที่ใกล้หัวใจมากที่สุด และมีการไหลเวียนเลือดไปยังหัวใจ เมื่อทำการฉีดน้ำหอมไปยังจุดนี้ กลิ่นจะกระจายตัวได้ดีที่สุด และเราจะได้กลิ่นชัดมากที่สุด เรียกได้ว่ากลิ่นกระจายเมื่อยามหัวใจเต้น ซึ่งจุดนี้ควรฉีดเมื่อไปออกเดทจะยิ่งเพิ่มความมั่นใจได้เป็นอย่างดี
5. บริเวณอื่นๆ ที่ไม่ใช่ผิวหนัง
การฉีดน้ำหอมบริเวณจุดชีพจรน้ำหอมข้างต้นบ่อยๆ อาจทำให้บริเวณผิวหนังเกิดการระคายเคืองได้ จึงควรฉีดไปยังจุดอื่นที่นอกเหนือจากผิวหนังบ้าง เช่น การฉีดบริเวณเส้นผม จะทำให้ติดทนขึ้น แต่ผมควรมีความยาวสักเล็กน้อย หรือการฉีดใส่บริเวณเสื้อผ้า เช่น ปกเสื้อเชิ้ต เสื้อคลุม สูท หรือแม้กระทั่งเนกไทจะทำให้กลิ่นติดทนยาวนานจากเช้าถึงเย็น นอกจากนี้ น้ำหอมบางกลิ่นอาจติดทนข้ามวันจนกว่าจะซักผ้าได้อีกด้วย
วิธีฉีดน้ำหอมผู้ชายให้หอมติดทนนานตลอดทั้งวัน
บางครั้งการฉีดตามจุดชีพจรเพียงอย่างเดียว กลิ่นอาจอยู่ไม่ติดทน ดังนั้น หากหนุ่มๆ ต้องการให้กลิ่นติดทนนานตลอดทั้งวัน การใช้ตัวช่วยเหล่านี้เป็นวิธีฉีดน้ำหอมผู้ชายให้ติดทนนานมากยิ่งขึ้น
• ทาครีมบำรุงผิวเพิ่มความชุ่มชื้น
วิธีฉีดน้ำหอมผู้ชายให้ทนอย่างแรก คือ หลังอาบน้ำควรทาครีมบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกายก่อนฉีดน้ำหอม เพราะน้ำหอมจะเกาะติดผิวที่ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้ดีมากขึ้น และช่วยให้ความหอมติดทนยาวนาน โดยควรเลือกครีมทาผิวที่ปราศจากน้ำหอม หรือมีกลิ่นไปในโทนเดียวกันกับน้ำหอมที่ใช้ มิเช่นนั้นอาจเกิดการตีกันของกลิ่นน้ำหอมได้
• ใช้ปิโตรเลียมเจลลี่รองพื้นก่อนฉีด
ปิโตรเลียมเจลลี่มีความมัน ซึ่งจะช่วยกักเก็บความหอมได้ดีขึ้น โดยสามารถใช้ปิโตรเลียมเจลลี่เป็นรองพื้นก่อนฉีดน้ำหอมบริเวณจุดที่ต้องการ จะทำให้กลิ่นน้ำหอมยิ่งติดทนนาน ทั้งนี้ ไม่ควรใช้กับต้นคอ และหลังคอ เพราะเป็นบริเวณที่มีความมันค่อนข้างมากอยู่แล้ว อาจทำให้ความมันเปื้อนเป็นคราบติดเสื้อผ้าได้
• ฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้า
อีกวิธีฉีดน้ำหอมผู้ชายให้ติดทนมากขึ้น คือ การฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้า โดยเฉพาะในกรณีที่ใส่เสื้อแขนยาว ที่การฉีดบนผิวหนังอาจทำให้กลิ่นไม่ออกมาได้ เพราะฉะนั้น การฉีดที่เสื้อผ้าจะรักษากลิ่นน้ำหอมได้นานมากกว่า
ทั้งนี้ ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรฉีดลงบนเสื้อผ้า เนื่องจากเสื้อผ้าอาจมีกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งอาจทำให้กลิ่นตีกันเองได้ หรืออาจเกิดรอยด่างบนเสื้อผ้าได้ นอกจากนี้ ไม่ควรฉีดบนเสื้อผ้าสีขาว เพราะถ้าน้ำหอมมีสีอาจเกิดรอยเปื้อนอย่างชัดเจน อีกทั้งหากปล่อยไว้นานไป อาจทำให้เสื้อเป็นรอยเหลืองอีกด้วย
• เลือกใช้น้ำหอมให้เหมาะสม
ข้อควรระวังในการฉีดน้ำหอมสำหรับหนุ่มๆ คือ ควรเลือกใช้น้ำหอมให้เหมาะกับสถานที่และเข้ากับสถานการณ์ เนื่องจากน้ำหอมมีทั้งกลิ่นที่บางเบาและเข้มข้น ทริคง่ายๆ คือเลือกใช้น้ำหอมกลิ่นอ่อนสำหรับการไปทำงาน สัมภาษณ์งานหรือการออกเดต และเลือกใช้น้ำหอมกลิ่นเข้มข้นสำหรับออกงานสังคมหรือปาร์ตี้ ทั้งนี้ เลือกให้เหมาะสมกับแต่ละบริบทรับรองว่ายังไงก็หล่อเท่ทุกสถานการณ์แบบกินขาดแล้ว
BEST MEN FRAGRANCES
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF ACQUA DI PARMA , AMOUAGE , BRUNELLO CUCINELLI, CAROLINA HERRERA, CONTES DE PARFUMS, ETAT LIBRE D’ORANGE, L’ARTISAN PARFUMEUR, MONTALE, PACO RABANNE, PARFUMS DE MARLY, PRADA, SAINT LAURENT
STOCK PHOTOS: Image by inventsolutions on Freepik
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่