ติดโซเชียลแบบไม่พัก ติดแชทหนักสุด ต้องระวังผิวคอเหี่ยวแบบกู่ไม่กลับ มาทำความรู้จักกับ Tech Neck Syndrome พร้อมเคล็ดลับดูแลผิวลำคอให้ตึงกระชับไปอีกนานด้วย Neck Cream สารพัดสูตรความงาม
ไลฟ์สไตล์ยุคนี้ที่ทุกคนต่างมีสมาร์ทโฟนเป็นอวัยวะที่ 33 อาจทำให้เราอัพเดททุกความเคลื่อนไหวบนโลกได้อย่างไร้ขีดจำกัดก็จริง แต่หากสังคมก้มหน้าตลอดทั้งวันอาจนำมาสู่อาการปวดคอ บ่า ไหล่ หรือสะบัก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการก้มเล่นมือถือเป็นเวลานานๆ มากกว่าวันละ 10 ชั่วโมง โดยอาการปวดคอเรื้อรัง ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Tech Neck Syndrome นั่นเอง
Tech Neck Syndrome เกิดจากอะไร?
พฤติกรรมสังคมก้มหน้า การก้มหน้าเล่นมือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เป็นเวลานาน เป็นสาเหตุของการเกิดโรค Tech Neck Syndrome โดยการก้มหน้าลงทุก 15 องศา จะทำให้คอ และบ่า ต้องรับน้ำหนักมากสูงสุดถึง 27 กิโลกรัม
- ก้มหน้า 15 องศา คอและบ่าต้องรับน้ำหนัก 5-7 กิโลกรัม
- ก้มหน้า 30 องศา คอและบ่าต้องรับน้ำหนัก 18 กิโลกรัม
- ก้มหน้า 45 องศา คอและบ่าต้องรับน้ำหนัก 22 กิโลกรัม
- ก้มหน้า 60 องศา คอและบ่าต้องรับน้ำหนัก 27 กิโลกรัม
และเพราะน้ำหนักที่เกิดขึ้นจากการกดทับนี้เองที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระดูกสันหลังส่วนคอ ให้มีการปูด แตก และการเคลื่อนของหมอนรองกระดูกจนไปกดทับเส้นประสาทส่วนคอ ยิ่งก้มมากเท่าไร คอและบ่ายิ่งต้องรับน้ำหนักมากขึ้นเท่านั้น
เราเป็น Tech Neck Syndrome แล้วหรือยัง?
อาการของ Tech Neck Syndrome มีหลายระดับ โดยมีตั้งแต่อาการปวดเล็กน้อย มีอาการอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า สะบัก และหัวไหล่ ไปจนถึงอาการที่สามารถสร้างปัญหารุนแรง เช่น อาการชา หรืออ่อนแรงของแขนและมือ ที่อาจเกิดจากความเสื่อมของแนวกระดูก หรือหมอนรองกระดูกคอ ซึ่งก่อให้เกิดการกดทับของไขสันหลัง หรือรากประสาทบริเวณคอ สังเกตอาการที่เป็นสัญญาณเตือนได้ดังนี้
- ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ช่วงบริเวณคอ บ่า ไหล่ หรือสะบัก
- มีอาการอ่อนแรงของแขนและมือ
- มีอาการชา ปวดร้าวจากคอไปยังมือ
Tech Neck Syndrome นอกจากจะมีโอกาสสร้างอาการเจ็บปวดให้กับกล้ามเนื้อช่วงคอและไหล่แล้ว ยังมีผลต่อเรื่องความงาม โดยเฉพาะผิวบริเวณลำคอ โดยทำให้เกิดเส้นริ้วที่คอได้ชัดขึ้น โดยริ้วรอยที่คอนี้แตกต่างกับริ้วรอยบนใบหน้าตรงที่ผิวคอนั้นบอบบางและอ่อนแอกว่า การดูแลจึงไม่เพียงแต่เติมความชุ่มชื้น แต่ยังต้องเน้นการใช้ครีมบำรุงให้เพียงพอ และปรับพฤติกรรมบางอย่างอีกด้วย
การดูแลผิวคอที่ถูกวิธีให้ห่างไกล Tech Neck Syndrome
Tech Neck Syndrome เกิดจากการก้มหน้ามองจอ เพราะฉะนั้นเราจึงควรปรับพฤติกรรม ง่ายๆ คือ ยกหรือวางตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ เช่น การยกมือถือสูงขึ้น และไม่นอนตะแคงเล่น เพราะจะทำให้ใบหน้าและลำคอ รวมถึงช่วงหน้าอกกดไปกับหมอน อาจเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้เช่นกัน
หากต้องทำงานด้วยโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์ ควรวางอุปกรณ์เหล่านี้บนโต๊ะ และนั่งเก้าอี้ที่เอนได้ในระดับ 25-30 องศา และมีที่รองหลัง เพื่อลดโอกาสการเกิดการอักเสบกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณคอ ไหล่ และหลังได้
ไม่ควรเล่นมือถือหรือทำงานติดต่อกันนาน ควรเปลี่ยนอิริยาบถอื่นๆ บ้าง ในทุกๆ 15-30 นาที อาจจะลุกขึ้นยืนเดินไปเดินมา ก็จะช่วยเรื่องการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดีอีกด้วย
หันมาบำรุงผิวคอให้มากขึ้น โดยเลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยดูแลผิวคอโดยเฉพาะ เพราะผิวบริเวณลำคอจะมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าผิวหน้า ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ง่าย ทำให้หลายคนเกิดคำถามตามมาว่า สามารถใช้ครีมทาหน้าแทนครีมทาคอได้หรือไม่ คำตอบคือ สามารถใช้ได้ แต่หากใครมีสภาพผิวที่แห้งมากพร้อมกับมีริ้วรอยที่เห็นชัด การใช้ครีมทาหน้าอาจจะเอาไม่อยู่ โดยทั่วไปแล้วครีมทาหน้าจะมีความเข้มข้นน้อยกว่าครีมทาคอ ทำให้ไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ให้นาน
ดังนั้น จึงควรใช้ Neck Cream หรือครีมทาคอโดยตรงจะดีที่สุด เพราะครีมทาคอจะมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นสูงและมีความหนืดมากกว่าครีมทาหน้า รวมไปถึงมีสารบำรุงต่างๆ ช่วยรักษาระดับความชุ่มชื้นที่ได้ประสิทธิภาพมากกว่าครีมทาหน้า จึงช่วยยึดเกาะผิวได้ดี ไม่ระเหยเร็ว และบำรุงผิวได้ตรงจุดดีกว่าการใช้ครีมบำรุงผิวหน้าทั่วไป แถมยังช่วยชะลอความเสื่อมของผิวในวัยที่เพิ่มขึ้นให้กระชับ มีความยืดหยุ่น และสามารถใช้ทาที่เนินอกได้อีกด้วย
เลือก Neck Cream อย่างไรให้ปัง
Neck Creamเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถฟื้นฟูสภาพผิวบริเวณรอบคอที่เป็นหนึ่งในจุดที่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน มาดูกันว่ามีคุณสมบัติใดบ้างในการเลือกซื้อ Neck Creamให้เหมาะกับสภาพผิว และการใช้งานของคุณ
1. เลือก Neck Cream ที่มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอยเป็นพิเศษ
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ผิวบริเวณลำคอนั้นแตกต่างจากผิวบริเวณใบหน้า เนื่องจากความบางของชั้นหนังแท้ทำให้มีปริมาณคอลลาเจนและอีลาสตินต่ำกว่า ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป แสงแดด กาลเวลา และแรงโน้มถ่วงทำให้ลำคอเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าใบหน้า เพื่อบำรุงผิวพรรณให้กลับมาเปล่งปลั่งและลดเลือนริ้วรอย การเลือกใช้ Neck Cream ที่มีคุณสมบัติลดริ้วรอยเป็นพิเศษจะช่วยให้ผิวบริเวณลำคอมีความเรียบเนียน รวมถึงช่วยยกระชับให้ผิวดูเฟิร์มขึ้น
โดย Neck Cream จะมีส่วนผสมและเนื้อสัมผัสที่มีเข้มข้นสูงมากกว่าครีมทาหน้า เพื่อช่วยยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอยและบำรุงผิวที่คอให้ชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ซึ่งมักจะมีส่วนผสมบำรุงผิว เช่น สารสกัดพืชธรรมชาติ สารสกัดจากน้ำมันธรรมชาติ กลีเซอรีน สควาเลน เชียบัตเตอร์ คอลลาเจน เรตินอล สารสกัดจากเมล็ดกาแฟ กรดไฮยาลูรอนิค วิตามินอี วิตามินบี 5 เป็นต้น เพื่อช่วยชะลอริ้วรอยที่มีการเปลี่ยนแปลงตามอายุ
2. เลือกเนื้อสัมผัสที่เข้ากับสภาพผิวและช่วงอายุ
ผิวบริเวณลำคอมีความบอบบางและเกิดริ้วรอยง่าย ทำให้หลายคนมักจะปล่อยปละละเลยโดยไม่สนใจบำรุง เมื่ออายุเพิ่มขึ้นทำให้สภาพผิวบริเวณนั้นเกิดความแห้งกร้าน มีริ้วรอย และความหย่อนคล้อยเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ฉะนั้น ควรเลือก Neck Cream ที่มีเนื้อสัมผัสและระดับความเข้มข้นตามความเหมาะสมของช่วงอายุ เช่น เนื้อเจลจะมีส่วนผสมของน้ำมันน้อย ใช้ง่ายและมีความหนืดน้อยที่สุด จึงเหมาะกับวัย 25 – 35 ปี หรือผิวที่แห้งแต่ยังไม่มีริ้วรอยเด่นชัด
แต่สำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่สภาพผิวแห้งและเริ่มมีริ้วรอย ควรเลือก Neck Cream ที่มีส่วนผสมของน้ำมันและสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ ที่มีความเข้มข้นสูงและเกลี่ยง่าย เพื่อให้เนื้อครีมซึบซามเข้าสู่ผิวได้เร็ว ลดความหย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอย และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นที่ผิวได้อย่างยาวนาน
3. เลือก Neck Cream ปราศจากสารระคายเคืองสำหรับผิวแพ้ง่าย
สัญญาณการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวนั้นเกิดได้ทุกช่วงวัย โดยเฉพาะผิวบริเวณลำคอที่มักจะเกิดริ้วรอยที่เร็ว เพราะมีต่อมน้ำมันที่น้อยกว่าบริเวณอื่นๆ รวมไปถึงสภาพผิวที่แห้งก็มีส่วนทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายเช่นกัน จึงควรใช้ Neck Cream ที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนและมีสุขภาพดี แต่สำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแพ้ง่ายจะมีความไวต่อสิ่งต่างๆ มากกว่าคนที่มีสภาพผิวปกติ จึงควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่กระตุ้นให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง
โดยควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ได้แก่ แอลกอฮอล์ น้ำหอม พร้อมด้วยสารกันเสียอย่าง พาราเบน, BHT และ Phenoxyethanol นอกจากส่วนผสมดังกล่าวยังมีสีสังเคราะห์ ซิลิโคน มิเนอรัลออยล์ และน้ำมันหอมระเหยที่อาจใส่เข้ามา เพื่อเพิ่มกลิ่น สีสัน หรือเนื้อสัมผัสให้มีความนุ่มลื่นและเกลี่ยง่าย หากผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายใช้อาจทำให้ผิวเกิดอาการคัน ผิวบวมแดง แสบร้อน และในบางคนอาจเกิดผิวลอกเป็นขุยรุนแรงได้
BEST NECK CREAMS TO TRY
CLÉ DE PEAU BEAUTÉ Synactif & Décolletage Cream
CLINIQUE Smart Clinical™ MD Multi-Dimensional Age Transformer Resculpt
IT COSMETICS Confidence in a Neck Cream
LA MER Neck and Décolleté Concentrate
NÉCESSAIRE The Neck Serum
RÉVIVE Fermitif Neck Renewal Serum Firming Treatment
SHISEIDO Benefiance Concentrated Neck Contour Treatment
STRIVECTIN Peptight™ Tightening Neck Serum Roller
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF CLÉ DE PEAU BEAUTÉ, CLINIQUE, IT COSMETICS, LA MER, NÉCESSAIRE, RÉVIVE, SHISEIDO, SRTIVECTIN
STOCK PHOTOS: Image by cookie_studio on Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่