บิวตี้ไอเท็มที่สาวๆ ทุกคนต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้ง ว่าแต่จะเลือกแป้งฝุ่นอย่างไรให้ผิวดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ Padthai.co รวบรวมทุกเคล็ดลับว่าด้วยเรื่องแป้งฝุ่น พร้อมอัพเดทแป้งฝุ่นน่าใช้จากหลากหลายแบรนด์ความงาม ให้สาวๆ ได้เลือกแต่งแต้มตามความต้องการผิว
หลายคนอาจจะเคยประสบปัญหาจากการใช้รองพื้น เพราะรองพื้นบางตัวมีส่วนผสมของน้ำมันและไม่สามารถควบคุมความมันระหว่างวันได้ดีนัก ครั้นจะใช้แป้งผสมรองพื้นเพื่อซับความมันระหว่างวัน ก็ยังควบคุมความมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร “แป้งฝุ่นหรือแป้งโปร่งแสง” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จัดการกับปัญหานี้ได้ตรงจุด ด้วยเนื้อละเอียดบางเบา เหมาะสำหรับทาทับลงบนผิวหน้าหลังจากการรองพื้นหรือทาคอนซีลเลอร์ ช่วยให้ผิวดูนวลเนียนเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยดูดซับความมันหลังการแต่งหน้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถใช้แต่งแต้มระหว่างวัน หรือใช้ในการแต่งหน้าแบบ Every look ได้เช่นกัน
แป้งฝุ่นหรือแป้งโปร่งแสง คืออะไร?
แป้งฝุ่นหรือแป้งโปร่งแสง (Translucent Powder) เป็นแป้งสีขาวหรือสีเนื้อที่ใช้ในการแต่งหน้า แป้งชนิดนี้จะทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังช่วยลดความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ตำแหน่งที่ดีที่สุดในการทาแป้งโปร่งแสงคือบริเวณจมูก หน้าผาก คาง และใต้ตา เนื่องจากแป้งโปร่งแสงมีคุณสมบัติในการเพิ่มความสว่าง จึงไม่ควรปกปิดทั้งใบหน้า หากใช้เพื่อปกปิดทั้งใบหน้า ผิวอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ แป้งโปร่งแสงมีความบางเบาทำให้ทาลงบนใบหน้าได้สบายตลอดวัน เหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อสร้างลุคการแต่งหน้าที่ไร้ที่ติ
วิธีเลือกแป้งฝุ่น เลือกอย่างไรให้สวยเป๊ะทุกสถานการณ์
1. เฉดสี
แป้งฝุ่นนั้นไม่ได้มีแค่สีเนื้อหรือสีขาวเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีหลากหลายสีสันให้เลือก เช่นเดียวกับสีของรองพื้น ควรเลือกให้เหมาะกับสไตล์การแต่งหน้า ดังนี้
- แป้งฝุ่นสีขาว ช่วยให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น
- แป้งฝุ่นสีชมพู เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวขาวอมชมพู เพราะทำให้ใบหน้าเปล่งประกายดูสุขภาพดี
- แป้งฝุ่นสีเนื้อ ช่วยในการปกปิดรูขุมขนและข้อบกพร่องต่างๆ ของใบหน้า และเป็นแป้งฝุ่นที่หาซื้อง่ายที่สุด
- แป้งแบบโปร่งแสง (Translucent Powder) ควบคุมความมันได้ดี เหมาะสำหรับเซตรองพื้นและคงสีของรองพื้นไว้ไม่ให้หน้าหมอง
2. องค์ประกอบของแป้ง
แป้งโปร่งแสงมักจะมีลักษณะคล้ายกับแป้งทาตัว แต่บางแบรนด์อาจทำจากแป้งข้าวโพดหรือแร่ธาตุอื่นๆ หากผิวบอบบางเป็นพิเศษ แนะนำให้หลีกเลี่ยงส่วนผสมบางอย่างที่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง เช่น น้ำหอม พาราเบน และแอลกอฮอล์
3. ประเภทผิว
ประเภทผิวจะเป็นตัวกำหนดประเภทของแป้งที่เลือกใช้ แน่นอนว่ามีแป้งโปร่งแสงที่เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่ก็มีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการผิวโดยเฉพาะ เช่น สาวๆ ผิวแห้งไม่ควรใช้แป้งโปร่งแสงที่ติดทนยาวนาน เนื่องจากอาจทำให้ผิวหน้าแห้งจนเกินไปและอาจทำให้หน้าลอกได้ นอกจากนี้ยังไม่ควรใช้แป้งที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นกับผิวมันเพราะสามารถเน้นความมันให้เพิ่มขึ้นได้
1. BY TERRY Hyaluronic Tinted Hydra Powder สี Medium
แป้งฝุ่นเนื้อบางเบา เหมาะกับทุกสีผิวและมอบฟินิชติดทนแบบแอร์บรัช พร้อมเบลอรูขุมขนและริ้วรอยต่างๆ ช่วยเซตเมคอัพติดทนนานตลอดวัน โดดเด่นด้วยส่วนผสมอย่างกรดไฮยาลูรอน มอบผิวสว่างกระจ่างใส มอบเอฟเฟกต์คุมความมันโดยไม่ทำให้หน้าแวววาว อณูพิกเมนต์ละเอียดกลมกลืนไปกับผิวได้อย่างดี พร้อมปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ
2. CLARINS Joli Loose Powder Loose สี 02
แป้งฝุ่นโปร่งแสงเนื้อเนียนละเอียดที่ช่วยปรับผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยสูตร Micro-Beads รูปแบบเฉพาะที่ช่วยเพิ่มความนวลเนียนให้ผิวเปล่งประกายแม้ในแสงแฟลชหรือแสงธรรมชาติ แถมยังกลมกลืนกับสีรองพื้นได้เป็นอย่างดีโดยไม่ทำให้รองพื้นเปลี่ยนสี มีสารสกัดจากผงไม้ไผ่ช่วยลดความมัน มอบความเบาสบาย อำพรางจุดบกพร่องต่างๆ เพื่อให้ผิวดูสวยสมบูรณ์แบบ
3. ESTÉE LAUDER Double Wear Sheer Flattery Loose Powder สี Medium Soft Glow
เปี่ยมไปด้วยส่วนผสมอันเข้มข้นทว่าเบาสบายผิวได้อย่างยาวนาน โดยที่ไม่ทำให้รู้สึกแห้งกร้าน เน้นลุคผิวสวยธรรมชาติ เหมาะกับชีวิตประจำวันแม้ในชั่วโมงเร่งรีบ หรือแม้วันที่ต้องการผิวที่สวยเรียบเนียนไร้ที่ติ เพื่อให้ผิวหน้าดูสว่างใสอย่างสม่ำเสมอ กดเบาๆ และปัดให้ทั่วทั้งบริเวณที่ต้องการ และลงบริเวณ T-zone เพื่อช่วยคุมความมันบนใบหน้า
4. FASHION FAIR Set It Loose Setting Powder สี It’s Nuts
แป้งเนื้อละเอียดพิเศษ บางเบา ดูดซับน้ำมันส่วนเกินออกจากใบหน้า ลดความมันวาว ให้ผิวแมตต์สวยตลอดวัน สีโปร่งแสงสามารถกลืนไปกับทุกสีผิว มอบเอฟเฟกต์แบบซอฟต์โฟกัสให้ผิวนวลเนียน และช่วยให้เครื่องสำอางของคุณสดชื่นยาวนานยิ่งขึ้น
5. FENTY BEAUTY Pro Filt’r Instant Retouch Setting Powder สี Banana
เนื้อแป้งบางเบาดุจแพรไหม ช่วยเบลอรูขุมขนให้แลดูเล็กลง และเบลอเส้นริ้วรอยต่างๆ เพื่อผิวที่เรียบเนียน ให้ผิวสวยแบบ photo-ready ได้ในทุกสถานการณ์ วิธีใช้เพื่อผลลัพธ์ผิวสวยไร้ที่ติ ใช้แปรงหมุนเป็นวงกลม เคาะเพื่อให้เนื้อแป้งส่วนเกินออกเล็กน้อย แล้วปัดทับรองพื้น คอนซีลเลอร์ หรือคอนทัวร์เพื่อเซตให้ผิวเนียนสวย
6. GIVENCHY Prisme Libre Loose Setting and Finishing Powder สี 4 Mousseline Acidulée
แป้งฝุ่นรุ่นซิกเนเจอร์จากจีวองชี ช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้า มอบเนื้อละเอียดบางเบา ช่วยให้ใบหน้าแลดูเรียบเนียน มาพร้อม 4 สีช่วยกระจายแสง ควบคุมความมัน อีกทั้งยังไม่เปลี่ยนสี ไม่เป็นคราบขาวระหว่างวัน และสามารถเติมระหว่างวันโดยไม่เป็นคราบ
7. GUERLAIN Météorites Illuminating Powder Pearls สี 02 Light
แป้งไฮไลท์ในรูปแบบเม็ดไข่มุกที่ผสมผสานความโกลว์ไว้ในแต่ละเม็ดสีได้อย่างลงตัว เพื่อผิวที่แลดูฉ่ำวาวและมีมิติอย่างเป็นธรรมชาติ พิกเม้นท์แน่น ติดทนนาน เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับแต่งแต้มลงบนบริเวณหน้าผาก สันจมูก โหนกแก้ม และคาง เพื่อผิวเปล่งประกายตลอดวัน
8. HOURGLASS Veil Translucent Setting Powder
เซตติ้งพาวเดอร์ที่ช่วยเซตเครื่องสำอางด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบาไร้น้ำหนัก ให้ผิวหายใจได้ มาพร้อมเฉดสีที่เหมาะสำหรับทุกคน เนื้อแป้งบางเบาไร้น้ำหนัก เกลี่ยง่าย ช่วยปรับผิวให้เบลอแบบซอฟต์โฟกัส ช่วยให้ผิวเนียนสวยดุจซาติน และทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน
9. KAJA Joystick Brightening Undereye Setting Powder สี 02 Power Up Pink
เซตเมคอัพได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงด้วยการเบลนด์เข้ากับโทนสีผิวที่ตัดกัน และผงมุกที่ปรับผิวให้งดงามอย่างง่ายดาย มองดูเปล่งประกาย แตกต่างจากแป้งประกายชนิดอื่นที่ไปทำให้จุดบกพร่องดูชัดขึ้น ผงมุกนี้จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับผิว รวมทั้งเบลอและปรับให้เรียบเนียนทั้งบริเวณเท็กซ์เจอร์ของผิว รูขุมขน และเส้นริ้วรอยจางๆ
10. ONE/SIZE Ultimate Blurring Setting Powder สี Translucent
เนื้อแป้งที่บางเบาเรียบเนียนมีเอฟเฟกต์แบบซอฟต์โฟกัส ช่วยเบลอรูขุมขนและปรับผิวให้เรียบเนียน พร้อมเผยฟินิชดูเป็นธรรมชาติพร้อมคุมความมันและน้ำมันบนผิว ช่วยเซตและเพิ่มความคงทนให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้มากขึ้น สามารถลงในปริมาณน้อยๆ ทั่วใบหน้าเพื่อจัดการกับความมันส่วนเกิน และเซตให้ผลิตภัณฑ์เนื้อลิควิดนั้นอยู่ตัว หรือใช้แต่งแต้มระหว่างวันโดยไม่ทำให้เมคอัพจับตัวเป็นก้อน
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF BY TERRY, CLARINS, ESTÉE LAUDER, FASHION FAIR, FENTY BEAUTY, GIVENCHY, GUERLAIN, HOURGLASS, KAJA, ONE/SIZE
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
