Tissot (ทิสโซต์) เปิดตัวคอลเลกชัน Sideral แรงบันดาลใจจากเรือนเวลาชื่อดังยุค 70s สู่ดีไซน์สปอร์ตสีสันสดใสสะท้อนสไตล์เรโทร
Tissot (ทิสโซต์) แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิส เปิดตัวเรือนเวลาคอลเลกชัน Sideral (ซิเดอรัล) ได้รับแรงบันดาลใจจากเรือนเวลาในตำนานยุค 70s อย่าง ‘Sideral S’ นำมาปรับเปลี่ยนผสมผสานการดีไซน์ที่มีความทันสมัยและความเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของคอลเลกชันนี้ ถ่ายทอดสู่เรือนเวลารูปทรงสปอร์ตสีสันสดใสและฟังก์ชันการทำงานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว
“ทิสโซต์” (Tissot) แบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ.1853 โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 170 ปี ในเครือเดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) มุ่งมั่นในการสรรค์สร้างนาฬิกาที่มีประสิทธิภาพสูงในดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งทางแบรนด์ได้การยอมรับในวงการกีฬา ในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาที่มีเทคโนโลยีระบบจับเวลาด้านความเที่ยงตรงแม่นยำสูงสุด
โดยคอลเลกชัน Sideral (ซิเดอรัล) หยิบยกเรือนเวลาชื่อดังรุ่น ‘Sideral S’ จากปีค.ศ. 1971 มาเป็นแรงบันดาลใจด้วยเอกลักษณ์ของตัวเรือนที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว ผลิตจากไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) วัสดุที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ซึ่งเป็นการปฏิวัติวงการการผลิตนาฬิกาในขณะนั้น โดยตัวเรือนและสายนาฬิกายางมาในโทนสีเหลืองอันโดดเด่นที่แสดงถึงแฟชั่น เรโทรสุดฮิตประจำยุค 70s อีกด้วย
และในปีค.ศ. 2023 นี้ คอลเลกชัน Sideral (ซิเดอรัล) ปรับเปลี่ยนให้มีความทันสมัยผสานเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนา ถ่ายทอดผ่านตัวเรือนทรงถังบาร์เรล (Barrel) ขนาด 41 มิลลิเมตร ผลิตจากฟอร์จคาร์บอนลายหินอ่อนที่มีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา โดยตัวเรือนแบ่งออกเป็น 2 ดีไซน์ ได้แก่ ตัวเรือนลวดลายสีเทาผสมสีดำ และตัวเรือนลวดลายสีน้ำเงินผสมสีดำ โดยหน้าปัดสามารถอ่านค่าเวลาวินาทีผ่านแถบสีเรืองแสง 3 สี คือแถบสีเหลือง สีน้ำเงิน รวมถึงสีเทา ซึ่งมีตัวจับเวลาแถบสีแดงและสีเขียวที่อยู่ระหว่างตำแหน่ง 12 นาฬิกาไปจนถึงตำแหน่ง 2 นาฬิกา เพื่อใช้สำหรับการจับเวลาแบบถอยหลัง โดยมีช่องแสดงวันที่ (Date) อยู่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ด้านเข็มวินาทีตกแต่งด้วยสีแดงง่ายต่อการมองเห็น ส่วนเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีได้รับการเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) ช่วยในการอ่านค่าเวลาในบริเวณที่แสงน้อย
Tissot Sideral ตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกการทำงาน Powermatic 80 สามารถสำรองพลังงานถึง 80 ชั่วโมง และแฮร์สปริงผลิตจากนิวาครอง (Nivachron) ซึ่งมีคุณสมบัติในความแม่นยำ ช่วยต้านทานสนามแม่เหล็กและป้องกันกลไกจากการกระแทกได้ดี ครอบทับด้วยกระจกหน้าปัดและกระจกฝาหลังที่ผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์เพื่อความแข็งแรงจากแรงกระแทก ส่วนกรอบหน้าปัดเบเซล (Bezel) หมุนได้ทิศทางเดียว ใช้สำหรับจับเวลาในกิจกรรมดำน้ำและสามารถในการกันน้ำลึกได้ถึง 300 เมตร จุดเด่นอยู่ที่สายนาฬิกายางดีไซน์เจาะรู มีสีสันโดดเด่นอันหลากหลาย นำแรงบันดาลใจมาจากสายนาฬิกายางสีเหลืองจากเรือนเวลารุ่นดั้งเดิมในปีค.ศ. 1971 ทั้งสีเหลืองที่เป็นสีดั้งเดิม รวมทั้งสีเพิ่มเติมอย่าง สีน้ำเงิน สีแดง สีส้มและสีดำ ที่สามารถเลือกสีของสายนาฬิกาแมตช์กับสีลวดลายของตัวเรือนได้ตามความต้องการในการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: www.tissotwatches.com
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF TISSOT
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon