มาร่วมเดินทางสู่โลกแห่งความอัศจรรย์ไปกับนิทรรศการแห่งกาลเวลาได้ใน “The Timeless Conversation“
เมื่อไม่มีเรื่องของช่วงเวลามาขีดกั้น… ก็เหลือเพียงจินตนาการและการสร้างศิลปะที่อยู่เหนือกาลเวลา
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดเท่าที่เคยมีมา เคยกล่าวว่า “คนอย่างเราที่เชื่อในฟิสิกส์รู้ว่าความแตกต่างระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเป็นเพียงภาพลวงตา” ซึ่งหากลองคิดตามมุมมองของไอน์สไตน์ และหากเวลาเป็นภาพลวงตาเช่นนั้นแล้ว อดีต ปัจจุบัน และอนาคต อาจไม่เคยมีอยู่จริง และเมื่อเวลาไม่มีอยู่จริง เราก็อาจสามารถก้าวข้ามเวลา ช่วงปี หรือยุคสมัยที่ถูกแบ่งโดยนักประวัติศาสตร์ได้
“The Timeless Conversation” คือนิทรรศการเดี่ยวโดย สุดรัก คงพ่วง ศิลปินหญิงมากฝีมือผู้สร้างสรรค์ผลงานที่มาพร้อมกับสีสันอันสดใสและจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด โดยผลงานชุดนี้เกิดจากแรงบันดาลใจในช่วงล็อคดาวน์ของวิกฤตโควิดที่ผ่านมา ท่ามกลางความสับสนอันเงียบงัน สุดรักได้ใช้เวลานี้ในการศึกษาผลงานของศิลปินเอกรุ่นก่อนหลายคนอย่างลึกซึ้ง อาทิ Vincent Van Gogh, Jeff Koons, Claude Monet, Piet Mondrian, René Magritte และ Andy Warhol เธอสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้โดยจินตนาการไปด้วยว่ากำลังได้นั่งสนทนากับพวกเขา ทำให้เกิดเป็นชุดผลงานศิลปะที่เป็นผลจากการพูดตอบโต้และแลกเปลี่ยนความคิดของศิลปินต่างช่วงเวลา ซึ่งเธอก็ได้นำผลงานและแรงบันดาลใจเหล่านั้นมาประยุกต์เป็นรูปแบบงานปัจจุบันของเธอเอง เสมือนกับว่าเธอได้มีบทสนทนากับเหล่าศิลปินสุดยิ่งใหญ่ผู้ล่วงลับไปแล้วอีกครั้ง จึงเป็นที่มาของชื่อนิทรรศการนั่นเอง
เมื่อไม่มีเรื่องของช่วงเวลามาขีดกั้น…
ก็เหลือเพียงจินตนาการของศิลปินที่ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่อยู่เหนือกาลเวลา
เกี่ยวกับศิลปิน
สุดรัก คงพ่วง (เกิดปี ค.ศ. 1975) เป็นศิลปินไทยผู้เริ่มต้นอาชีพของเธอในฐานะศิลปินมืออาชีพเมื่อปี 2003 เธอเชี่ยวชาญในการนำเสนอศิลปะแนวเหนือจริงและมีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการใช้สีสันที่สดใส สุดรักสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาการออกแบบกราฟิก และปริญญาโท สาขาการศึกษาศิลปะ จากมหาวิทยาลัยบูรพา โดยหลังจากจบการศึกษา สุดรักได้มุ่งความสนใจไปที่การทำงานวิจิตรศิลป์อย่างจริงจังเพื่อมุ่งหน้าสู่การเป็นศิลปินอาชีพ
สุดรักได้ใช้เวลา 6 ปีแรกของการเป็นศิลปินในกับการทุ่มเทพัฒนาเทคนิคจนกระทั่งค้นพบสไตล์ที่โดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผลงานศิลปะของสุดรักก็ปรากฏให้สาธารณชนได้ชมทั้งในนิทรรศการศิลปะเดี่ยวและนิทรรศการกลุ่มมากมายทั่วโลก อาทิ นิทรรศการ Grown Up (2016) ที่ South Bay Contemporary เมืองซานเปรโด รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา, นิทรรศการ International art exhibition “Equilibrio : Balance” (2016) ที่ Artemis Art Gallery กัลลาลัมเปอร์ มาเลเซีย, นิทรรศการ “A Tale of Two Shores” (2018) ที่ Sola Gallery เมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งนิทรรศการนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นไฮไลท์อันดับ 1 ของปี 2018 ในบทวิจารณ์ EasyReaderNews ซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ของสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังได้จัดแสดงผลงานที่งานแสดงศิลปะ Pallarax (2019) ใน Kensington Hall ลอนดอน สหราชอาณาจักร รวมไปถึงในนิทรรศการ “HERE COMES THE SUN” (2021) ที่ หอศิลป์ La Fenice ที่ประเทศฮ่องกงอีกด้วย
นอกจากนี้ สุดรักยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 ศิลปินจากทั่วโลกในการเผยแพร่บทสัมภาษณ์และงานศิลปะในนิตยสาร “LandEscape Art Review” ฉบับพิเศษที่เผยแพร่ไปทั่วโลกในปี 2021 และในปีเดียวกันนั้น เธอยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ศิลปินจากทั่วโลกให้ตีพิมพ์ผลงานลงใน Bruxelles Art Vue “Power of Color” ฉบับปี 2021 ซึ่งเป็นอาร์ตบุ๊กของเบลเยี่ยม และในปี 2023 นี้ เธอได้รับเลือกให้เป็นศิลปินใน Art in Embassies (AIE) โดย U.S.Department of State, Washington, D.C., USA อีกทั้งผลงาน “Fly Away to Freedom” ของเธอยังได้รับการติดตั้งที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย
แล้วมาร่วมเดินทางสู่โลกแห่งความอัศจรรย์ไปกับนิทรรศการแห่งกาลเวลาได้ใน “The Timeless Conversation”
เปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 – 7 มกราคม 2567 ที่ RCB Galleria 4 ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF RIVERCITY BANGKOK
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่