Tag Heuer เผยโฉมนาฬิกา Tag Heuer Carrera Date Plasma Diamant d’Avant-Garde ประดับเพชรแท้จากห้องปฏิบัติการ ‘lab-grown diamonds’
Tag Heuer ผู้ผลิตนาฬิกาหรูสัญชาติสวิส เผยโฉมนาฬิกา Tag Heuer Carrera Date Plasma Diamant d’Avant-Garde ประดับเพชรแท้จากห้องปฏิบัติการ หรือ ‘lab-grown diamonds’ ประดับเพชรสีเหลืองขนาด 1.4 กะรัต และเม็ดมะยมอันเป็นเอกลักษณ์ทำจากเพชรสีเหลืองขนาด 1.3 กะรัต เป็นดั่งเครื่องพิสูจน์ความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมล้ำสมัยของแบรนด์ โดยนับเป็นสีที่สองที่ช่างนาฬิกาได้รังสรรค์ขึ้น แสดงให้เห็นถึงความชำนาญด้านการเจียระไนอัญมณี
หัวใจสำคัญของการรังสรรค์เพชรสังเคราะห์ชนิด ‘lab-grown diamond’ อันล้ำสมัยนี้ คือ เทคโนโลยีพลาสมา ซึ่งได้ปฏิวัติวงการการผลิตเพชรของเมซง ด้วยกรรมวิธีการผลิตทางวิทยาศาสตร์ที่จำลองการก่อตัวตามธรรมชาติของผลึกเพชร เพื่อให้มีลักษณะทางกายภาพและการเล่นแสงเหมือนกับเพชรธรรมชาติ ที่ใช้ระยะเวลาในการกำเนิดสั้นกว่าเพชรแท้ตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้เพชรที่สังเคราะห์ขึ้นในห้องแล็บมีความละเอียดซับซ้อนและเปล่งประกาย จากความเชี่ยวชาญในแต่ละกระบวนการอันประณีต ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ผ่านเพชรที่มีน้ำหนักรวม 4.8 กะรัต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ แบรนด์ในการพลิกโฉมงานฝีมือการออกแบบ
สำหรับรุ่นเพชรสีเหลืองนี้ โดยเป็นสีที่สองที่ช่างนาฬิกาได้รังสรรค์ขึ้นจากความสำเร็จของรุ่นที่ประดับด้วยเพชรสีชมพู ซึ่งเป็นเนื้อสีที่เกิดขึ้นได้จากกระบวนการ CVD คือเพชร CVD เป็นอีกหนึ่งในกรรมวิธีการผลิตเพชรสังเคราะห์ สร้างขึ้นจากเพชรเม็ดบาง ๆ ซึ่งเป็นเพชรที่ผลิตด้วยวิธี High Pressure-High Temperature (HPHT)
หลังจากนั้นจึงนำเม็ดเพชรมาวางไว้ในห้องระบบปิด แล้วเพิ่มความร้อนจนได้อุณหภูมิ ประมาณ 800 องศาเซลเซียส ก่อนเติมก๊าซที่มีคาร์บอนสูงเข้าไป เช่น ก๊าซมีเทนและก๊าซอื่น ๆ ซึ่งก๊าซเหล่านี้จะทำให้แตกตัว กลายเป็น ‘พลาสมา’ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่คล้ายกับการทำงานของคลื่นไมโครเวฟหรือแสงเลเซอร์ จนก๊าซเหล่านี้แตกตัว แบ่งพันธะโมเลกุลของก๊าซจนคาร์บอนบริสุทธิ์ไปเกาะตัวกับเม็ดเพชรตั้งต้น และตกผลึกในเวลาต่อมา จนกระทั่งกลายเป็นเพชร Lab-Grown แบบ CVD ในที่สุด เทคโนโลยีพลาสมาช่วยให้เพชรทั้งหมดออกมามีสีที่สม่ำเสมอ เป็นเนื้อเดียวกันตลอดทั้งโครงสร้าง ถือเป็นการบุกเบิกในอุตสาหกรรม แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในด้านนวัตกรรม โดยเพิ่มความหลากหลายของสีสันให้กับนาฬิกา
ถ่ายทอดความงดงามสู่ตัวเรือนทองคำขาวไวท์โกลด์ขนาด 36 มิลลิเมตร ตกแต่งหน้าปัดอันหรูหราที่ทำจากแผ่นเพชร Polycrystalline (โพลีคริสตัลไลน์) ขนาด 2.9 กะรัต เกิดจากการก่อตัวของผลึกเพชรจำนวนมากให้รวมกันเป็นแผ่นสร้างมิติความสวยงามอันเกิดจากการสะท้อนแสง เปล่งประกายความสง่าอันน่าทึ่งจากเพชรเพียงเม็ดเดียว คั่นด้วยหลักบอกเวลาที่ทำจากทองคำขาวทั้ง 12 หลักประดับด้วยเพชรสีขาวเจียระไนเป็นทรงบาแกตต์ขนาด 0.5 กะรัต
เข็มชั่วโมงและนาทีเป็นแบบโครงกระดูก และเพิ่มความโดดเด่นด้วยการประดับเพชรสีเหลืองรูปทรงสัญลักษณ์ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ใต้ประโยค Carrera ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ประดับด้วยเพชรสังเคราะห์จากห้องแล็บทั้งสิ้น 4.8 กะรัต ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Calibre 7 ภายใต้ฝาหลังที่กรุกระจกแซฟไฟร์ นาฬิกาเรือนนี้มาคู่สายนาฬิกาหนังจระเข้สีขาว ติดตั้งตัวล็อคบานพับที่ทำจากทองคำขาว เผยความสง่างามอันโดดเด่น
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF TAG HEUER