นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ Art of Hongtae หรือ ‘ฮ่องเต้’ กนต์ธร เตโชฬาร ศิลปินมากความสามารถที่จะพาผู้ชมเดินทางสู่โลกกึ่งจริง กึ่งฝัน กึ่งสุข กึ่งเศร้า ของเหล่า “คนหัวเมฆ”
ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ภูมิใจเสนอนิทรรศการ “Somewhere Only We Know ที่เพียงเรารู้” นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ Art of Hongtae หรือ ‘ฮ่องเต้’ กนต์ธร เตโชฬาร ศิลปินมากความสามารถที่จะพาผู้ชมเดินทางสู่โลกกึ่งจริง กึ่งฝัน กึ่งสุข กึ่งเศร้า ของเหล่า “คนหัวเมฆ” คาแรคเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นจากส่วนลึกในหัวใจของเขา
“คนหัวเมฆ” คือมนุษย์ที่หัวเป็นปุยเมฆ เขาไม่เคยเผยใบหน้าเพราะเขาไม่ยอมให้ใครเห็นหน้า เขามีเมฆคลุมหน้าเพราะเขาไม่ต้องการให้คุณรู้ว่าเขารู้สึกอะไร เขาล่องลอยไปกับสายลมอย่างอิสระ ไร้จุดหมาย ไร้พันธะ และไร้ทิศทางราวกับแมงกะพรุนตัวจิ๋วบนทะเลเมฆสีหวาน
หากมีคนตั้งคำถามว่าคนหัวเมฆเหงาไหม? เหงาสิ! ใคร ๆ ก็เหงากันทั้งนั้น เหงาได้เเม้จะกำลังมีความรัก หรือไร้รัก เเหงาได้เเม้จะอยู่ที่ตลาดนัดมือสองที่คนจอเเจ หรืออยู่บนดาดฟ้าเงียบ ๆ ตอนพระอาทิตย์เพิ่งลับฟ้าไป
เเละบนดาดฟ้านั้น
เขาพบว่าเขาไม่ใช่คนหัวเมฆคนเดียวบนโลกนี้
แต่เธอก็หัวเมฆด้วยเช่นกัน
นิทรรศการ “Somewhere Only We Know ที่เพียงเรารู้” นอกจากจะเป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ Art of Hongtae และคนหัวเมฆแล้ว ยังเป็นการเปิดเผย 5 คาแรคเตอร์ในจักรวาลอันไม่มีที่สิ้นสุดของคนหัวเมฆ นั่นคือผู้ชายหัวเมฆ ผู้หญิงหัวเมฆ หมาหัวเมฆ รวมไปถึงเจ้าแมวดำและแมวขาว ผ่านทางภาพวาดทั้ง 66 ภาพและชิ้นงานประติมากรรมขนาดสูงกว่า 3 เมตร ซึ่งร้อยเรียงกันอย่างไม่ปะติดปะต่อราวกับห้วงความทรงจำที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างลับ ๆ หรือบทกลอนของนักกวีผู้ไร้กฏเกณฑ์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์เเละไม่สัมพันธ์ในพื้นที่อันเป็นส่วนตัว
Art of Hongtae หวังว่าจักรวาลสีหวานอมเศร้าใบนี้จะสร้างความรู้สึกพิเศษและการตีความอันเป็นส่วนตัว … ที่เพียงผู้ชมเท่านั้นที่รู้
เกี่ยวกับศิลปิน
Art of Hongtae หรือ ‘ฮ่องเต้’ กนต์ธร เตโชฬาร (เกิดปี พ.ศ. 2529) คือศิลปินผู้ที่ลมหายใจเข้าออก 24 ชั่วโมงคือการทำงานศิลปะ แม่ของเขาเล่าว่าเขาเริ่มจับดินสอวาดรูปบนผนังบ้านตั้งเเต่อายุ 2 ขวบและด้วยการสนับสนุนจากครอบครัวและคุณครู สังคม ทองมี ที่เป็นครูสอนศิลปะคนแรกของเขา ทำให้เขาได้เริ่มใช้ความสามารถทางศิลปะ อีกทั้งยังชนะการประกวดรางวัลการวาดภาพจากนิทรรศการแสดงศิลปะนานาชาติที่ประเทศญี่ปุ่นและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในขณะที่มีอายุเพียง 4 ปีเท่านั้น
ตั้งแต่เล็กจนโตศิลปะคือเพื่อนข้างกายของ Art of Hongtae เขาฝึกฝนการวาดรูปด้วยความหลงใหลและไม่เคยหยุดวาดรูปเลยแม้แต่วันเดียว ภาพวาดของเขามักจะเป็นงานสื่อถึงเรื่องความเชื่อ วัฒนธรรม และวรรณกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาได้รับการปลูกฝังจากครอบครัวตั้งแต่เด็ก ๆ
Art of Hongtae ได้มีโอกาสจัดแสดงนิทรรศการกลุ่มมากมาย อาทิ “ไตรโลกา”, “กลับตาลปัตร”, “BODHI THEATER: Buddhist Prayer Re-Told” และ “ASURA2020” โดยนอกจากการวาดภาพแล้ว เขายังสนใจการสื่อสารและการเล่าเรื่องผ่านสื่อที่หลากหลายจนทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักจากหลายบทบาท ทั้งการเป็นเขียน นักกวี พิธีกร นักพากษ์ นักแสดงละครเวที และอินฟลูเอนเซอร์
เกี่ยวกับคนหัวเมฆ
จุดเปลี่ยนในการทำงานศิลปะของ Art of Hongtae เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากภาวะพังหลังการอกหักที่ไม่อาจบอกใครได้ เขาจึงได้สร้างคาแรคเตอร์หนึ่งที่ก่อร่างสร้างขึ้นจากเศษเสี้ยวของหัวใจที่แตกสลายเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองโดยตั้งชื่อว่า ”คนหัวเมฆ” ซึ่งเป็นตัวละครผู้ชายที่มีหัวปกคลุมด้วยเมฆตลอดเวลา
คนหัวเมฆเริ่มปรากฏกายครั้งแรกในนิทรรศการ “Turn Your Scars into Stars #แม้จะเจ็บปวดแต่คุณก็งดงาม” (2023) ที่จัดขึ้น ณ Palette Artspace โดยเป็นภาพของคนหัวเมฆท่ามกลางบรรยากาศอันพร่าเลือน กึ่งจริง กึ่งฝัน กึ่งสุข กึ่งเศร้า ของท้องฟ้ายามเย็น ที่ได้สร้างความรู้สึกอันหลากหลายให้กับผู้ชม ทั้งความฉงน ความลึกลับ ความอบอุ่น และความเหงา จนทำให้ภาพนี้กลายเป็นภาพที่ได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมาก ในเวลาต่อมา คนหัวเมฆได้ปรากฏตัวอีกครั้งในนิทรรศการกลุ่ม “To the moon and (Never) Back” (2023) ที่จัดขึ้น ณ ริเวอร์ ซิติ้ แบงค็อก โดยเขาได้ถ่ายทอดความเหงาของคนหัวเมฆผ่านการตีความเรื่องความสัมพันธ์ของความรักและดวงจันทร์ และต่อมาที่นิทรรศการกลุ่ม “Come Rain or Shine” (2023-2024) ที่จัดขึ้น ณ ริเวอร์ ซิติ้ แบงค็อก Art of Hongtae ก็ได้เผยให้เห็นถึงเรื่องราวและแง่มุมอื่น ๆ ของคนหัวเมฆที่ไม่ได้แค่ล่องลอยบนท้องฟ้าแต่เพียงอย่างเดียว แต่เลือกที่จะถือร่มฝ่าลมฝนอย่างมั่นคง
และในนิทรรศการครั้งนี้ที่นอกจากจะเป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกและครั้งสำคัญของ Art of Hongtae แล้ว ยังเป็นการเปิดเผยคาแรคเตอร์อื่น ๆ ในจักรวาลคนหัวเมฆที่เปิดกว้างต่อจินตนาการและการตีความของผู้ชม
แม้จะเป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของคนหัวเมฆแต่ Art of Hongtae ก็เชื่อว่านี่จะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นในการเดินทางของจักรวาลคนหัวเมฆอันไม่มีที่สิ้นสุด
แล้วพบกันใน “Somewhere Only We Know” จักรวาลสีหวานอมเศร้าที่จะสร้างความรู้สึกพิเศษและการตีความอันเป็นส่วนตัว ที่เพียงผู้ชมเท่านั้นที่รู้
เปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม – 21 เมษายน 2567 ที่ RCB Galleria 4 ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF RIVERCITY BANGKOK
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่