Padthai.co ชวนคุยแบบไม่สปอยล์หลังจบ Snowpiercer ซีซัน2! ซีซันนี้เป็นอย่างไร? ซีซันใหม่มาเมื่อไหร่?
นับว่าเป็นการต่อยอดที่แสนทะเยอทะยานสำหรับซีรีส์แนวไซไฟ-ดิสโทเปียที่ดัดแปลงจากภาพยนตร์โดย บง จุนโฮ ผู้กำกับมากฝีมือจาก PARASITE ชนชั้นปรสิต สำหรับ สโนว์เพียเซอร์ (Snowpiercer) ที่เพิ่งจะฉายตอนจบของ ซีซัน2 ให้แฟน ๆ ชาวไทยได้ชมไปหมาด ๆ เมื่อวานนี้บน Netflix
หลังจากเนื้อเรื่องในซีซันที่แล้วเล่าเรื่องราวการเข้ายึดอำนาจของชนชั้นล่างบนรถไฟ การพยายามทำลายช่องว่างทางชนชั้นเพื่อให้คนทุกคนเท่าเทียม หลายครั้งก็ทำให้เกิดความวุ่นวายและไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย จนยากที่ผู้นำอย่าง อังเดร เลย์ตัน (รับบทโดย ดาวีด ดิกส์) จะควบคุมได้
หนำซ้ำยังถูกรถไฟต้นแบบจากผู้สร้างเดียวกันอย่าง บิ๊ก อลิซ (Big Alice) ไล่กวดตามจนทันและเชื่อมขบวนให้ติดกันเพื่อเอื้อต่อการยึดอำนาจคืนของ วิลฟอร์ด (รับบทโดย ฌอน บีน) ผู้คิดค้นระบบหัวรถจักรนิรันดร์ของสโนว์เพียเซอร์
หากพูดอย่างไม่สปอยล์ ต้องบอกเลยว่าเนื้อหาในซีรีส์ซีซันนี้ค่อนข้างจะเล่าอย่างเชื่องช้า และไม่ตื่นเต้นหวือหวาเท่าเนื้อเรื่องซีซันแรก ทำให้ผู้ชมที่ติดตามอาจจะรู้สึกเบื่อหน่ายพอสมควร กับความเนิบช้าของจังหวะจะโคนในการเล่าเรื่อง
แต่ภายใต้ความช้านั้น สโนว์เพียเซอร์ ปูเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการชิงไหวชิงพริบ และขับเคี่ยวกันของสองขั้วอำนาจอย่างแยบยล รวมทั้งใส่ประเด็นใหม่ที่ไม่เคยพบในฉบับภาพยนตร์ของบงจุนโฮ คือการที่ เมลานี คาร์วิล (รับบทโดย เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี) วิศวกรหญิงประจำหัวรถจักรนิรันดร์ค้นพบสมมติฐานใหม่ ว่าโลกที่เยือกแข็งมานานกว่า 7 ปี ดูเหมือนว่ากำลังอุ่นขึ้นในบางทวีป
และแน่นอนว่าการค้นพบนี้สร้างความหวังให้ผู้คนบนขบวนรถไฟ ในการกลับไปใช้ชีวิตอยู่บนโลกอีกครั้ง แทนที่จะอุดอู้อยู่บนรถไฟที่แล่นไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด (เพราะหากไม่เคลื่อนที่ตลอดเวลา ทุกชีวิตก็จะแข็งตายในอุณหภูมิติดลบ) เมลานีจึงตัดสินใจเสี่ยงอันตรายโดยการลงจากรถไฟ และไปยังศูนย์วิจัยบนเทือกเขาร็อคกี้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสูงชัน เพื่อเก็บข้อมูลจากบอลลูนเช็คสภาพอากาศทั่วโลกและพิสูจน์ข้อเท็จจริงของสมมติฐานนี้
ซีรีส์ในภาคที่สองนี้จึงเป็นเสมือนรางรถไฟที่ทอดยาวสู่ยอดเขา และค่อย ๆ พาหัวรถจักรแล่นด้วยความเร็วคงที่ในช่วง 8 ตอนแรก ก่อนจะเร่งเครื่องเต็มกำลังในเนื้อหา 2 ตอนหลังที่เข้มข้นจนเรียกได้ว่าแทบลืมหายใจ ราวกับหัวขบวนของสโนว์เพียเซอร์กำลังพาเราไต่ขึ้นเทือกเขาร็อคกี้ด้วยความเร็วสูงประหนึ่งเล่นรถไฟเหาะในสวนสนุก
ในภาคนี้เราจะได้ทำความรู้จักกับตัวละครใหม่อย่าง อเล็กซานดรา คาร์วีล (รับบทโดย โรวัน บลานชาร์ด) ลูกสาวแท้ ๆ ของเมลานี ผู้รับหน้าที่คุมหัวรถจักรของบิ๊กอลิซ ไปพร้อม ๆ กับการสัมผัสความเลือดเย็นและน่าเกรงขามของ วิลฟอร์ด ที่สะท้อนออกมาผ่านความเกรงกลัวและไม่พอใจที่เหล่าผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีต่อเขา
รวมทั้งความน่าสนใจของคาแรคเตอร์ คุณออดรีย์ (รับบทโดย ลีน่า ฮอลล์) นางโชว์ผู้เป็นอดีตคนรักของวิลฟอร์ด ที่นอกจากจะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในเนื้อเรื่องซีซันนี้ เรายังจะได้เห็นฝีไม้ลายมือการแสดงของ ลีน่า ฮอลล์ (Lena Hall) ในฉากเลิฟซีนสุดหินที่ได้รับคำชมมากมายจากนักวิจารณ์ต่างประเทศ
เราจึงสามารถพูดได้เต็มปากว่า สโนว์เพียเซอร์ ในภาคนี้ก้าวออกมาไกลจากต้นฉบับเดิมของ บง จุนโฮ ที่เล่าเรื่องราวความเหลื่อมล้ำในขบวนรถอย่างรวดเร็วภายในเวลา 2 ชั่วโมง (จนแทบจะเหมือนทัวร์ชะโงก) และเลือกดำเนินเรื่องอย่างเนิบช้าแทน เพื่อโฟกัสไปที่วิถีชีวิต เรื่องราวยิบย่อย และผู้คนหลากหลายชนชั้นที่อยู่บนรถไฟพันกว่าโบกี้อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ ความสุข ความหวังและสิ้นหวัง ไปจนถึงความหวาดกลัว ความทะเยอทะยาน และการเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณของมนุษย์
นอกจากนั้นยังแฝงเรื่องจิตวิทยารวมถึงการบริหารอำนาจในรัฐ โดยเล่าผ่านสองขั้วอำนาจในเรื่อง ตามที่ตัวละคร รูธ วาร์เดลล์ (รับบทโดย อลิสัน ไรท์) หัวหน้าแผนกต้อนรับของสโนว์เพียเซอร์ได้กล่าวไว้ว่าทั้ง เลย์ตัน และ วิลฟอร์ด มีวิธีในการปกครองและเข้าไปอยู่ในใจของผู้คนที่แตกต่างกัน
อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ถ้าหากใครชอบซีรีส์แนวชิงเหลี่ยมชิงพริบ ไซไฟ-ดิสโทเปียและการพยายามเอาชีวิตรอดของมวลมนุษยชาติ ไปจนถึงซีรีส์ดราม่าแอคชั่น สโนว์เพียเซอร์ ในซีซัน 2 ก็ดูเหมือนจะตอบทุกโจทย์ของคุณได้อย่างครบถ้วน
สโนว์เพียเซอร์ ฉบับซีรีส์โดย TNT ช่องเคเบิ้ลทีวีของอเมริกา ได้ บง จุนโฮ ผู้กำกับเจ้าของต้นฉบับภาพยนตร์มารับหน้าที่อำนวยการสร้างร่วมกับ เกรแฮม แมนสัน (Graeme Manson) โปรดิวเซอร์มากฝีมือที่โด่งดังจากผลงานซีรีส์ไซไฟอวกาศอย่าง Orphan Black
โดยได้ ดาวิด ดิกส์ (Daveed Diggs) นักแสดงมากฝีมือเจ้าของรางวัลแกรมมี่และโทนี่จากเรื่อง Black-ish และ Hamilton มาเชือดเฉือนกับเจ้าพ่อหนังพีเรียด-แฟนตาซีอย่าง ฌอน บีน (Sean Bean) ที่เคยฝากผลงานไว้ในบทบาท โบโรเมียร์ แม่ทัพหนุ่มแห่งกอร์ดอนในภาพยนตร์ไตรภาค The Lord of The Rings และ เน็ด สตาร์ค ลอร์ดแห่งวินเทอร์เฟล จากซีรีส์ชุดชื่อดังอย่าง Game of Thrones
ส่วนคนที่กำลังตั้งคำถามว่าซีรีส์ สโนว์เพียเซอร์ ในซีซันที่ 3 จะปล่อยออกมาเมื่อไหร่ ตามรายงานจากสื่อต่างประเทศหลายแหล่งบอกตรงกันว่าขณะนี้ซีรีส์ภาคต่อกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำโดยคาดการณ์ว่าจะถ่ายทำภาคต่อนี้จบภายในเดือนกรกฏาคม 2021 และฉายให้ได้ชมต่อช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า
และเรายังจะได้ อาร์ชี ปัญจาบี (Archie Panjabi) เจ้าของรางวัลแกรมมี่จาก Good Wife มาเสริมทัพนักแสดง ในบทบาท อาช่า (Asha) ตัวละครใหม่ที่จะถูกเพิ่มขึ้นมาเป็นตัวละครหลักในซีซันที่ 3 ด้วย
ชม Snowpiercer ได้แล้ววันนี้ ทั้งแบบซับไตเติ้ลภาษาไทย และเสียงพากย์ไทยบน Netflix
CREDIT:
PHOTOS: DAVID BUKACH / COURTESEY OF TNT
สามารถอ่านคอนเทนต์อื่น ๆ ที่น่าสนใจบน Padthai.co ได้ที่
- จากร้าน DVD เช่า สู่สตรีมมิ่งระดับโลก : ถอดรหัสความสำเร็จจากความเป็นมาของ Netflix
- DOTA: Dragon’s Blood ซีรีส์อนิเมะเรื่องใหม่จากเกมยอดนิยมของ Valve
- แรงต่อเนื่อง! เน็ตฟลิกซ์ประกาศฉาย LUPIN ซีซัน 2 เร็วๆ นี้ พร้อมปล่อยทีเซอร์แรก
- Snowpiercer รถไฟแห่งความเหลื่อมล้ำยังวิ่งต่อในซีซัน 2 บน Netflix
- Ratched returns to the Asylum: พยาบาลจิตเวชชื่อดังกำลังจะกลับมาใน Ratched
- Alice in Borderland: อลิสในแดนมรณะ
- ‘Ju-On: Origins’
- NETFLIX Celebrate Pride Month!
- STRANGER THINGS : เฟมินิสต์ การเมืองและเรื่องประหลาดในฮอวกินส์