อากาศเย็นทีไรผิวแห้งแบบหยิบจับอะไรก็ช็อต ใครเจอปัญหานี้อย่าเพิ่งนอยด์ไป Padthai.co มีทริคง่ายๆ ที่ช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิต พร้อมอัพเดทครีมทาผิวกายที่ช่วยเคลียร์ปัญหาแบบตรงจุด แถมยังบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นแบบ 2 in 1
ไม่เพียงแค่อากาศแห้งในหน้าหนาวที่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต แต่การใช้ชีวิตในแต่ละวันก็มีโอกาสถูกช็อตเบาๆ ได้จากการหยิบจับสิ่งของต่างๆ หรือกระทั่งแตะโดนตัวใครโดยบังเอิญ หากสงสัยว่าทำไมหน้าหนาว สาวๆ หลายคนจึงกลายเป็นมนุษย์ไฟฟ้า ไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน
ไฟฟ้าสถิต (Static Electricity) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากความไม่สมดุลของปริมาณประจุไฟฟ้าขั้วบวกและขั้วลบภายในวัสดุหรือบนพื้นผิวของวัสดุ ซึ่งประจุไฟฟ้าเหล่านั้นจะยังคงอยู่จนกระทั่งเกิดการเคลื่อนที่หรือมีการถ่ายเทประจุ (Electrostatic Discharge) โดยปกติแล้ววัสดุทุกชนิดมีความเป็นกลางทางไฟฟ้า จะมีปริมาณของประจุบวกและประจุลบอย่างละเท่าๆ กัน
หากพูดให้เข้าใจง่ายๆ ประจุไฟฟ้าเหล่านี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากการขัดถู สัมผัส หรือเสียดสีกันระหว่างวัสดุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัสดุประเภทที่ไม่นำไฟฟ้าหรือที่เรียกว่า “ฉนวน” อย่างในสถานการณ์ที่มีการนำลูกโป่งมาถูกับเส้นผม หรือการสัมผัสกันระหว่างรองเท้าหนังและพรมเช็ดเท้า พอจะนึกออกแล้วใช่ไหมล่ะสาวๆ
และสถานการณ์เช่นนี้เองทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้า เป็นผลให้เกิดความไม่สมดุลของจำนวนประจุบวกและประจุลบในวัสดุแต่ละชิ้น ด้วยเหตุนี้ วัสดุที่ต่างก็มีความไม่สมดุลของประจุไฟฟ้า จึงมีความพยายามถ่ายเทประจุไฟฟ้ากับวัสดุอื่นๆ เพื่อสร้างสมดุลให้กับตัวเอง และการแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้านี้เองที่เป็นสาเหตุของความรู้สึกที่คล้ายกับการถูกไฟฟ้าช็อตหรือที่เรียกว่า “ไฟฟ้าสถิต” นั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อนำลูกโป่งมาถูเข้ากับเส้นผม ประจุลบที่อยู่บนเส้นผมจะถูกถ่ายเทไปยังลูกโป่ง นั่นทำให้ร่างกายมีประจุบวกมากกว่าประจุลบ และเมื่อไปสัมผัสกับมือจับบานเลื่อนประตูซึ่งเป็นโลหะ ประจุลบจากมือจับประตูจะถ่ายเทมายังร่างกายอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้สะดุ้งและรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตเบาๆ
ไฟฟ้าสถิต อันตรายหรือไม่?
ปริมาณกระแสไฟฟ้าจากการถูกไฟฟ้าสถิตช็อตนั้น ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต เพียงแต่อาจทำให้สะดุ้งหรือเจ็บเล็กน้อยจากการช็อตที่ผิวหนังเท่านั้น
ทำไมหน้าหนาวถึงเกิดไฟฟ้าสถิตบ่อย?
ช่วงนี้อุณหภูมิในบ้านเราลดลงอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้หลายคนถูกไฟฟ้าสถิตช็อตอยู่บ่อยครั้ง นั่นเป็นเพราะว่าปัจจัยในเรื่องของความชื้นในอากาศ (Air Humidity) โดยอากาศในช่วงฤดูหนาวก่อให้เกิดการสะสมของประจุไฟฟ้าได้ง่าย และถ่ายเทประจุไฟฟ้าได้มากกว่าอากาศในช่วงฤดูร้อน
ในฤดูหนาว ความไม่สมดุลของประจุไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย เนื่องด้วยมีความชื้นในอากาศน้อยกว่าอากาศที่มีอุณหภูมิสูงกว่า ความชื้นต่ำจะทำให้ประจุไฟฟ้าเกิดการสะสมบนผิวหนัง ซึ่งเมื่อมีการสัมผัสกับวัสดุประเภทตัวนำ จะทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้าไปยังตัวนำอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้เกิดการช็อตเบาๆ ได้
ว่าแต่เคยสังเกตกันไหมว่า ทำไมเวลาเดินห้าง เราถึงโดนไฟช็อตบ่อยกว่าที่อื่น นั่นเป็นเพราะว่าสิ่งต่างๆ ภายในห้างสรรพสินค้า ไม่ว่าจะเป็นบันไดเลื่อน รถเข็น มือจับประตู มีไฟฟ้าสถิตเพราะเป็นโลหะ มีประจุไฟฟ้าค้างอยู่ แต่ว่ามีประจุไฟฟ้าในจำนวนน้อยนิด ซึ่งหลังจากการช็อต ประจุจะเกิดความสมดุล ทำให้ไม่เกิดการช็อตซ้ำอีกในเวลาใกล้ๆ กัน อีกทั้งในห้างสรรพสินค้ามีคนเยอะ การเสียดสีประจุไฟฟ้าถูกถ่ายเทได้อย่างง่ายดาย แต่ไฟฟ้าสถิตไม่ได้เกิดเฉพาะแค่ในห้างเท่านั้น จริงๆ แล้วสามารถเกิดได้ทุกที่ เพียงแต่เราอาจจะไม่ได้สังเกตเท่านั้นเอง
วิธีป้องกันไฟฟ้าสถิต
1. รักษาความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสม โดยอากาศในห้องควรอยู่ระหว่างร้อยละ 40-50 ซึ่งสามารถวัดค่าความชื้นได้ด้วยเครื่องวัดความชื้นสัมพัทธ์ที่หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ทั่วไป
2. ดื่มน้ำเยอะๆ
3. ทาครีมบำรุงผิว เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
4. สวมรองเท้าพื้นยาง
5. หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าขนสัตว์ ซึ่งเป็นตัวนำไฟฟ้า
แน่นอนว่าอากาศเย็นเช่นนี้ หลายคนอาจลุ้นกันว่าปีนี้จะหนาวได้สักกี่วัน แต่สำหรับสาวๆ ผิวแห้งคงกำลังคิดหนัก เพราะยิ่งเจออากาศเย็นๆ จากที่ผิวแห้งอยู่แล้วก็ยิ่งแตกลอกเป็นขุยขึ้นไปอีก ซ้ำร้ายยังทำให้เกิดอาการคันยิบๆ อีกด้วย ขืนปล่อยให้ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น มีหวังผิวพังกู้คืนยากแน่ๆ แบบนี้ต้องหันมาดูแลด้วยครีมบำรุงผิวกายกันหน่อย รับรองว่าช่วยฟื้นบำรุงผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาเนียนนุ่มสุขภาพดีแน่นอน
และอย่าลืมว่า อากาศยิ่งแห้งลงเท่าไร ผิวของเราก็ต้องการการดูแลที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น โดยมีวิธีรับมือง่ายๆ ได้แก่
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำด้วยน้ำร้อนจนเกินไป
- เมื่ออาบน้ำเสร็จต้องรีบทาครีมหรือออยล์บำรุงผิวทันทีที่ผิวยังหมาดๆ อยู่
- เลือกใช้ครีมทาผิวที่มีสารให้ความชุ่มชื้น เนื้อค่อนข้างเข้มข้น เสริมด้วยส่วนผสมที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ยาวนานขึ้น เช่น กรดไฮยาลูรอน, กลีเซอรีน, ยูเรีย รวมถึงวิตามินต่างๆ ที่บำรุงให้ผิวเนียนนุ่ม ทั้งนี้ ควรเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดความระคายเคืองด้วย
TRY THIS!
1. 54 THRONES African Beauty Butter แบรนด์ความงามสัญชาติแอฟริกันที่หลอมรวมส่วนผสมดาวเด่นอย่างวานิลลาจากอูกันดาและน้ำผึ้งจากเอธิโอเปีย กลายเป็นบอดี้บัตเตอร์เนื้อสัมผัสเข้มข้น
2. CAY SKIN Isle Glow Body Lotion SPF 45 สัมผัสความชุ่มชื้นจากบอดี้โลชั่นที่มาพร้อม SPF 45 และน้ำมันสกัดจากพืชเขตร้อนที่จะช่วยฟื้นฟูผิว ให้ความชุ่มชื้น พร้อมมอบผิวสวยโกลว์เปล่งประกาย
3. DR. JART+ Ceramidin Body Lotion บอดี้โลชั่นผสานส่วนผสมของเซราไมด์ ปลอบประโลมและมอบความชุ่มชื้นให้ผิวแห้ง ผิวอักเสบ ผิวแพ้ง่าย และลดอาการคันผิวในทุกครั้งที่ใช้
4. KATE SOMERVILLE Dry Skin Saver อัดแน่นด้วยกรดไฮยาลูรอนพร้อมเชียบัตเตอร์ มอบผิวนุ่มฟูกระจ่างใส ฟื้นฟูผิวแห้งกร้านให้กลับมาแลดูนุ่มเนียนสุขภาพดี
5. KOPARI Tropical Coconut Melt บาล์มบำรุงผิวผสานคุณค่าจากน้ำมันมะพร้าวออร์แกนิก 100% อุดมไปด้วยวิตามินอี และสารป้องกันอนุมูลอิสระ สามารถใช้ได้สารพัดประโยชน์ตั้งแต่หัวจรดเท้า
6. LALICIOUS Birthday Cake Hydrating Body Butter บอดี้บัตเตอร์ผสานคุณค่าการบำรุงจากสวีท อัลมอนด์ ออยล์ หอมโดดเด่นด้วยกลิ่นวานิลลาสุดเย้ายวนพร้อมชิมเมอร์ระยิบระยับ
7. NEOM Bedtime Hero Magnesium Body Butter เข้มข้นทว่าบางเบา ซึมสู่ผิวทันทีเพื่อบำรุงและฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ให้ผิวดูสวยเนียนสม่ำเสมอตลอดค่ำคืน
8. OSEA Undaria Algae Body Butter เชียบัตเตอร์และสารสกัดจากสาหร่ายวากาเมะ กลายเป็นคู่หูสุดปังที่ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นน่าสัมผัสตลอดทั้งวัน
9. PRIMA Skin Therapy Rich Ultra-Hydrating Body Butter มาพร้อมบัตเตอร์สกัดจากพืช ทั้งมารูลา, Cupuaçu, มะม่วง และเชีย สร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะต่างๆ และมีน้ำมันสกัดจากพืช อัดแน่นด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและกรดไขมันดี
10. SOL DE JANEIRO Beija Flor Elasti-Cream อัดแน่นด้วยคอลลาเจนที่ได้จากพืช เสริมสร้างผิวเฟิร์มกระชับ พร้อมด้วยน้ำมันคาเคย์ ส่วนผสมทางเลือกที่ใช้แทนเรตินอล เพื่อผิวเนียนละเอียด นุ่มนวลน่าสัมผัสเกินห้ามใจ
11. TATCHA Hinoki Body Milk Lotion โลชั่นสูตรชุ่มชื้นพร้อมเนื้อสัมผัสที่เนียนจนละลายไปกับผิว ซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว มอบความนุ่มนวลและกลิ่นหอมสดชื่นของสนฮิโนกิตลอดวัน
12. TOPICALS Like Butter Body Hydrating and Soothing Mist น้ำมันบำรุงผิวกายในรูปแบบมิสต์ ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาชุ่มชื้นโดยเฉพาะจุดที่แห้งกร้านเป็นพิเศษ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF 54 THRONES, CAY SKIN, DR. JART+, KATE SOMERVILLE, KOPARI, LALICIOUS, NEOM, OSEA, PRIMA, SOL DE JANEIRO, TATCHA, TOPICALS
STOCK PHOTOS: Image by Racool_studio on Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
