Seoul Vibe : เหยียบมิดไมล์ เจาะเวลาหาอดีตซิ่งทะลุโซลไปกับยูอาอิน


รีวิวหลังดูจบแบบไม่สปอยล์ : Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล – มองประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ที่แฝงไว้ภายใต้หนังซิ่งรถเบาสมองที่มีอะไรให้ค้นหามากกว่าที่คิด


คงต้องใช้คำว่าสนุกสนานสมใจ สำหรับผลงานที่เหล่าแฟนซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลีรอคอยอย่าง Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล ภาพยนตร์ย้อนยุคแนวแอคชัน-คอเมดีเรื่องใหม่จาก Netflix ที่ไม่เพียงแต่รวมนักแสดงเล็กใหญ่ไปจนถึงไอดอลไว้อย่างคับคั่งเท่านั้น แต่ยังสามารถพาผู้ชมเจาะเวลาย้อนไปมองประวัติศาสตร์เกาหลีในยุคค.ศ. 1988 ที่นอกจากจะบันทึกช่วงเวลาแห่งการเติบโตของประเทศเกาหลีใต้ในปีที่เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกเอาไว้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังบันทึกความทรงจำของยุคสมัยในแง่ของดนตรี แฟชั่น รวมทั้งสังคมเอาไว้อย่างครบถ้วน

โซลไวบ์: ซิ่งทะลุโซล เล่าเรื่องราวในปีค.ศ.1988 ในช่วงก่อนพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูร้อนที่เกาหลีใต้ได้เป็นเจ้าภาพ ของแก๊ง ‘ซัง-กเย-ดง ซูพรีมทีม’ กลุ่มนักซิ่งมือฉมังแห่งเกาหลีใต้อย่าง ดงอุค (รับบทโดย ยูอาอิน) หนุ่มนักซิ่งหัวหน้ากลุ่ม จุนกิ (รับบทโดย องซองอู) ผู้เชี่ยวชาญด้านการดัดแปลงรถยนต์ ดีเจ จอห์น อูซัม (รับบทโดย โกคยองพโย) ดีเจมิกซ์เทปคู่ใจ ยุนฮี (รับบทโดย พัคจูฮยอน) นักบิดสาวหุ่นแซ่บ และบกนัม (รับบทโดย อีคยูฮยอง) ผู้ชำนาญเส้นทางและเป็นเหมือนเนวิเกเตอร์ประจำทีม

พวกเขาได้รับการจ้างวานและต้องเข้าไปพัวพันกับคดีฟอกเงินของเหล่าผู้มีอิทธิพล และขณะเดียวกันก็โดนบังคับแบบปฏิเสธไม่ได้จากอัยการอัน (รับบทโดย โอจองเซ) อัยการหนุ่มที่ต้องการใช้พวกเขาเป็นสายลับเพื่อหาเบาะแสในการเอาผิดผู้มีอิทธิพลเหล่านั้น การซิ่งรถเพื่อขนเงินครั้งนี้จึงไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะภารกิจแฝงตัวเสี่ยงตายครั้งนี้มีชีวิตของพวกเขาเป็นเดิมพัน

Seoul vibe

ภาพยนตร์หยิบเรื่องราวช่วงก่อนพิธีโอลิมปิกฤดูร้อนปีค.ศ. 1988 มาเล่า ซึ่งนับเป็นยุคสมัยยอดฮิตที่ถูกเล่าถึงในภาพยนตร์และซีรีส์แนวย้อนยุคจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Reply1988 (2015) Twenty Five Twenty One (2022) รวมถึงหนังใหม่ชนโรงอย่าง Hunt ล่าคนปลอมคน (2022) เพราะปีค.ศ. 1988 นับได้ว่าเป็นหมุดหมายสำคัญในการเติบโตทางวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีใต้ ในยุคหลังรัฐบาลทหารของนายพลซอนดูฮวาน ที่ยอมคืนอำนาจให้ประชาชน จนเกาหลีได้เป็นประเทศเสรีประชาธิปไตยแบบเต็มตัว และได้รับโอกาสในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่มีการถ่ายทอดไปทั่วโลก (ซึ่งก็เป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่ด็อกซอน ใน Reply1988 ได้ไปถือป้ายประเทศมาดากัสการ์นั่นแหละ!)

ปีค.ศ. 1988 จึงเป็นเสมือนยุคเปลี่ยนผ่านที่ทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นที่รู้จักของชาวโลก และขณะเดียวกันวัฒนธรรมร่วมสมัยของตะวันตก โดยเฉพาะวัฒนธรรมจากอเมริกาก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามาที่ประเทศเกาหลีในช่วงเวลาเดียวกัน เราจึงจะเห็นความมีชีวิตชีวาของเหล่าวัยรุ่นและผู้คนที่กำลังตื่นเต้นกับดนตรีสไตล์ใหม่ๆ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดจากตะวันตกอย่างแมคโดนัลด์ที่เข้ามาเปิดสาขาในเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก

โดยไม่ลืมที่จะเล่าถึงสภาพสังคมในช่วงเปลี่ยนผ่าน อย่างการนำเหตุการณ์การปรับปรุงภูมิทัศน์และเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกาหลีใต้ในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในยุคนั้นมาเล่า โดยใช้พื้นที่ในละแวกที่ถูกเวนคืน เป็นแหล่งกบดานของแก๊งสุพรีมทีมอันเป็นฉากหลังหลักของเรื่อง

Seoul vibe
Seoul vibe

ใน โซลไวบ์: ซิ่งทะลุโซล ไม่เพียงแต่บันทึกเรื่องราวการเติบโตของสังคมเกาหลีใต้ออกมาให้เห็นภาพเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยบรรยากาศความสดใส สนุกสนานและเต็มไปด้วยใฝ่ฝันของเหล่าวัยรุ่น ในยุคที่เรียกว่า American Dream ซึ่งเป็นยุคที่ทั้งแฟชั่นและดนตรีกำลังเบ่งบาน ผู้คนต่างก็เห่อกับวัฒนธรรมตะวันตก และใฝ่ฝันจะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยอิสระและเสรีภาพแบบอเมริกา โดยผู้กำกับมุนฮยอนซองยังได้เลือกผสมผสานเรื่องราวของดนตรีและวัฒนธรรมฮิปฮอปจากอเมริกาที่เริ่มเข้ามาสู่เกาหลีใต้ และมามีอิทธิพลในยุคนั้นในเนื้อเรื่องด้วย

โดยนอกจากการหยิบเอาเพลงเก่าที่ฮิตในยุคนั้นอย่าง ออเจทบัม อียากี (어젯밤이야기) จากวงโซบังชา (SoBangCha) มาเป็นหนึ่งในเพลงประกอบภาพยนตร์ ยังได้สองแร็ปเปอร์สุดเจ๋งอย่าง เกโค (GaeKo) แห่งวง Dynamic Duo และซงมินโฮ (MINO) จากวง Winner ซึ่งร่วมแสดงสมทบในเรื่องนี้ มาถ่ายทอดเพลงออริจินอลซาวด์แทร็กประกอบภาพยนตร์เท่ๆ อย่าง CITY+++ ซึ่งมีบีทที่เข้ากับยุคสมัย 90s ซึ่งเป็นจุดเด่นของเรื่อง และจำกัดความว่ามันคือเพลงแนว ฮิปโทร คือฮิปฮอปผสมเรโทรนั่นเอง

ด้วยองค์ประกอบและการสร้างที่แสนละเมียดละไมนี้ เราจึงสามารถพูดได้เต็มปากว่าแม้เรื่องราวใน โซลไวบ์ จะเล่าถึงการเติบโตที่เต็มไปด้วยไฟฝันของคนหนุ่มสาวในยุคเรโทรเช่นเดียวกับ Reply1988 และ Twenty Five Twenty One แต่ภาพยนตร์แอคชัน-คอเมดีความยาว 2 ชั่วโมง 20 นาทีเรื่องนี้ก็เต็มไปด้วยรายละเอียดทางยุคสมัยที่จัดว่าเป๊ะไม่แพ้ภาพยนตร์และซีรีส์แนวย้อนยุคเรื่องอื่นๆ

Seoul vibe

แถมยังได้พระเอกหนุ่มสุดฮอตอย่าง ยูอาอิน จากซีรีส์ Chicago Typewriter (2560) มารับบทนำของเรื่อง ที่นอกจากจะมีมาดเท่ๆ ให้แฟนคลับได้กรี๊ด เขายังมาพร้อมกับ ‘สกิลพระเอก’ คือฝีมือการขับรถสุดโฉบเฉี่ยวที่ทำให้ผู้ชมเชื่อในคาแรคเตอร์ ดงอุค ว่าเขาคือยอดนักซิ่งแห่งกรุงโซลในยุคนั้นจริงๆ และประกบคู่กับนักแสดงสาว พัคจูฮยอน จาก Extracurricular (2020) และ Mouse (2022) ในบท ยุนฮี สาวนักซิ่งที่มาช่วยเติมความสดใสให้กับเรื่อง

ร่วมด้วยคิมซองกยุน ที่ทุกคนคุ้นเคยจากบทบาทของพ่อด็อกซอนใน Reply 1988 จองอุงอิน จาก Chief of Staff (2019) และมุนโซรี จาก The School Nurse Files (2020) ที่ยกขบวนมาเสริมความสนุกให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กันแบบคับคั่ง

ใครที่กำลังมองหาภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยความสดใหม่ ฉากแข่งรถที่ตื่นเต้นเร้าใจ และมุกตลกพอให้ได้ยิ้มมุมปากในช่วงสุดสัปดาห์ Padthai.co แนะนำว่าการเอาใจช่วยแก๊งสุพรีมทีมกับภารกิจทะลายแก๊งฟอกเงินใน โซลไวบ์: ซิ่งทะลุโซล ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

ชม โซลไวบ์: ซิ่งทะลุโซล ได้แล้ววันนี้พร้อมเสียงพากย์ภาษาไทยบน Netflix


CREDIT:
PHOTOS: COURTESY OF NETFLIX


อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้บน Padthai.co

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn
On Key

Related Posts

Your Tarot Weekly

Post Views: 219 คำพยากรณ์รายสัปดาห์ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม – วันเสาร์ที่​ 23 มีนาคม พ.ศ. 2567 โดย​ มาดามราเชล วันอาทิตย์ นิสัย​ของดาว : ยศศักดิ…

Citizen Godzilla X Promaster Dive Limited Edition

Post Views: 17 Citizen เสนอนาฬิการุ่นพิเศษ “Ecozilla” ฉลอง 70 ปี “ราชาแห่งมอนสเตอร์” ​Citizen Godzilla X Promaster Dive Limited Edition สองตำนานข…

Your Tarot Weekly

Post Views: 107 คำพยากรณ์รายสัปดาห์ระหว่างวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม – วันเสาร์ที่​ 16 มีนาคม พ.ศ. 2567 โดย​ มาดามราเชล วันอาทิตย์ นิสัย​ของดาว : ยศศักดิ…

Korat Expo 2029

Post Views: 64 โคราชเฮ.. คว้าสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก  “โคราช เอ็กซ์โป 2029”ประเทศไทยชูวิสัยทัศน์สู่อนาคตแห่งโลกสีเขียว สมาคมพืชสวนระหว่างประเ…