เปิดประตูต้อนรับการเดินทางอีกครั้ง กับผลงานรูปทรงใหม่ของ Seiko Astron GPS Solar ที่พัฒนาและสร้างสรรค์ขึ้นสำหรับคนรุ่นใหม่
ตอบโจทย์การเป็นนาฬิกาเรือนเดียวที่สามารถสวมใส่และใช้งานได้ง่ายสะดวกสบายตลอดทั้งการเดินทาง กับการเปิดตัวของ Astron GPS Solar รุ่นล่าสุดของ Seiko (ไซโก) ที่ยังคงมาพร้อมระดับสูงสุดของความเที่ยงตรงในการแสดงเวลา เช่นกันกับเปี่ยมด้วยประโยชน์การใช้งานสำหรับนักเดินทางข้ามเขตเวลา ทั้งยังได้รับการออกแบบรูปทรงใหม่ เพื่อตอบสนองการใช้งานทุกรูปแบบ ด้วยบุคลิกอันทันสมัยสำหรับคนรุ่นใหม่
คงไว้ด้วยพลังขับเคลื่อนสำคัญจากการทำงานของกลไก GPS ประสิทธิภาพสูง และสะดวกสบายในการใช้งาน โดยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ที่ช่วยให้กลไกสามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย GPS และทำการปรับเวลาให้สอดคล้องกับความเที่ยงตรงของนาฬิกาอะตอมและตามโซนเวลาที่นักเดินทางไปถึง ขณะที่ยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่องและยาวนานด้วยพลังงานที่ได้รับจากแสงเพียงอย่างเดียว โดยในช่วงตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยี GPS ของ Astron ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยวัตถุประสงค์หลักของการยกระดับความเที่ยงตรงและความไว้วางใจเชื่อถือได้ของเทคโนโลยีการปรับเวลาและรักษาความเที่ยงตรงอันเป็นหน้าที่หลักสำคัญของนาฬิกา เช่นในกลไกชุดล่าสุดอย่าง Caliber 5X53 Dual-Time ซึ่งนอกจากจะมีความเที่ยงตรงในระดับสูงสุดแล้ว ยังมีประสิทธิภาพของการใช้พลังงานและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาที่มีความล้ำสมัย เที่ยงตรง ด้วยลูกเล่นของเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานระดับสูงอีกด้วย
และล่าสุด Seiko ได้เพิ่มความน่าสนใจให้กับนาฬิกา Astron GPS ด้วยนาฬิกา 4 รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับการออกแบบและรูปทรงใหม่ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับเทคโนโลยี GPS Solar โดยมีตัวเรือนทำจากไทเทเนียมทั้งเรือน รวมถึงโครงสร้างของรูปทรงที่เน้นความเป็นสันเหลี่ยม คงการขัดแต่งอย่างประณีต สำหรับซีรีส์ใหม่นี้ ประกอบด้วยนาฬิกา 3 รุ่น ระหว่างรุ่นหน้าปัดสีเงิน สีน้ำเงิน-เทา และสีดำ รหัส SSH107, SSH109, SSH111 และนาฬิการุ่นผลิตจำนวนจำกัด Astron GPS Solar 10th Anniversary Limited Edition รหัส SSH113J ที่มีหน้าปัดตกแต่งด้วยลายแถบแนวนอนเฉดสีเทาและขอบตัวเรือนแซฟไฟร์เฉดสีเทาเข้ม แสดงเขตเวลา UTC อย่างเด่นชัด นาฬิกาทั้ง 4 รุ่นนี้ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันหลักอย่าง Astron และจะเริ่มจำหน่ายผ่านทางบูติกและตัวแทนจำหน่ายของ Seiko ทั่วโลกที่ได้รับการคัดเลือกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 ส่วนนาฬิการุ่นพิเศษที่ขึ้นในผลิตจำกัด รหัส SSH113J จะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้
ภายใต้รูปทรงใหม่ที่เน้นเส้นสายและความปราดเปรียว เพรียวบางของ Astron GPS Solar รุ่นใหม่นี้ ผ่านการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยคำนึงถึงการมีตัวเรือนขนาดพอเหมาะรับกับข้อมือได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการเน้นสันเหลี่ยม ซึ่งช่วยให้รูปลักษณ์ของตัวเรือน หูตัวเรือนเชื่อมสาย และแม้แต่ตัวสายเองนั้นมีความเชื่อมโยงและกลมกลืนกันทั้งเรือน ส่วนขอบตัวเรือนทำขึ้นจากกระจกแซฟไฟร์ที่ได้รับการออกแบบให้แคบลง เพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถกวาดสายตาไปยังหน้าปัดได้ดีขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนทำให้ตัวนาฬิกามีมิติแวววาว สะท้อนถึงการผสมผสานด้วยเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใคร และสำหรับตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.7 มิลลิเมตร และหนา 12.2 มิลลิเมตร รวมถึงสายนาฬิกาทำจากไทเทเนียมผ่านการเคลือบแข็ง (Hard-coating) ล้วนช่วยเสริมความทนทานต่อการขีดข่วนได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่ยังคงความโดดเด่นของการมีน้ำหนักเบา ส่วนตัวเรือนถูกออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเมื่อวางบนข้อมือ เพิ่มระดับความสะดวกสบายเวลาที่สวมใส่ เช่นกันกับสายที่ประกอบมาด้วยตัวพับล็อกแบบบานพับทบ 3 ชั้น ปรับสายได้ง่ายดาย โดยมาพร้อมปุ่มกดคลายล็อกสายเพื่อความปลอดภัย
มอบความสามารถในการมองเห็นและอ่านค่าได้อย่างชัดเจน กับการบรรจุด้วยหลักชั่วโมงจัดวางลงตัวและยกตัวสูงขึ้นเหนือพื้นผิวหน้าปัด โดยแต่ละหลักชั่วโมงผ่านการขัดแต่งด้วยเส้นสายที่มีความเฉียบคม และเช่นกันกับชุดเข็มชั่วโมงและนาทีที่ทั้งหมดได้รับการเคลือบสารเรืองแสง Lumibrite ซึ่งช่วยยกระดับความสว่างในการมองเห็นได้แม้อยู่ในสภาวะแสงน้อย ปกป้องด้วยกระจกแซฟไฟร์เคลือบกันแสงสะท้อน คงการมอบไว้ด้วยประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกระดับ 100 เมตร และกันสนามแม่เหล็กได้ 4,800 A/m
ภายใน Astron GPS Solar ทั้ง 4 รุ่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยกลไก 5X53 Dual-Time แบบ GPS Solar ซึ่งนอกจากมาพร้อมด้วยฟังก์ชันแสดงสองเขตเวลา (Dual-Time) พร้อมกับมาตรแสดงช่วงเวลากลางวัน/กลางคืน (AM/PM Indicator) และการปรับชดเชยช่วงเวลาออมแสง หรือ DST โดยอัตโนมัติแล้ว กลไกชุดนี้ยังมีความทันสมัยสูงสุดและบางเฉียบที่สุดสำหรับ Seiko โดยเมื่อเจ้าของต้องการปรับเวลาให้เข้ากับเขตเวลาที่อยู่ สิ่งที่ต้องทำคือ เพียงกดลงบนปุ่มเดียวบนตัวเรือนนาฬิกา จากนั้นชุดเข็มก็จะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วกว่าในกลไกรุ่นก่อนๆ เพื่อปรับเวลาให้สอดคล้องกับเขตเวลานั้นๆ และจะปรับเวลาโดยอัตโนมัติ หากตอนนั้นมีการชดเชยเวลาในช่วงที่มีการใช้ช่วงเวลาออมแสง (Daylight Saving Time) (หากการปรับเปลี่ยนเวลาเสร็จสมบูรณ์ นาฬิกาจะแสดงเวลาของเมืองที่เดินทางมาถึงพร้อมกับการชดเชยช่วงเวลาออมแสง หรือ DST (ยกเว้นในกรณีที่มีผู้สวมใส่ปรับเวลาใหม่ด้วยตัวเองโดยไม่ผ่านระบบ GPS)) รวมถึงระบบที่ออกแบบให้เข็มแต่ละส่วนมีการเคลื่อนที่อย่างอิสระจากกัน นอกจากนี้ ผู้สวมใส่สามารถเปลี่ยนการแสดงเวลาหลักจากเมืองที่เดินทางจากมา (Home Time) เป็นเวลาของเมืองที่เดินทางมาถึง (Local Time) หรือเปลี่ยนกลับในแบบเดียวกันได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น Caliber 5X53 ยังเชื่อมต่อกับเครือข่าย GPS ถึง 2 ครั้งต่อวันเพื่อรักษาความเที่ยงตรงของเวลาให้อยู่ในระดับสูงสุดไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของโลก (เมื่อหน้าปัดตรวจจับว่าอยู่ท่ามกลางแสงแดด นาฬิกาจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายดาวเทียมในระบบ GPS และปรับเวลาที่ถูกต้องโดยอัตโนมัติ แต่หากนาฬิกาไม่ได้สัมผัสกับแสงแดด ตัวนาฬิกาจะจำค่าเวลาครั้งล่าสุดที่ถูกปรับไว้โดยผู้สวมใส่ และในเวลาเดียวกันก็พยายามที่จะรับสัญญาณอีกครั้ง)
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF SEIKO
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่