กระทรวงพาณิชย์ สนับสนุน Sacit หรือสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) เดินหน้าจัดงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 13” และ “Crafts Bangkok 2022” รวมงานหัตถศิลป์ไทยอันทรงคุณค่าและงานคราฟต์ร่วมสมัยใหญ่ที่สุดแห่งปี
กระทรวงพาณิชย์ สนับสนุน Sacit หรือสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) เดินหน้าจัดงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 13” และ “Crafts Bangkok 2022” รวมงานหัตถศิลป์ไทยอันทรงคุณค่าและงานคราฟต์ร่วมสมัยใหญ่ที่สุดแห่งปี เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับช่างฝีมือและผู้ประกอบการไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ตั้งเป้ายอดจำหน่าย 140 ล้านบาท จัดระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน พ.ศ.2565 ณ ไบเทค บางนา
กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริมผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทยถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่สำคัญของการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อสอดคล้องไปกับนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ การกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศและกระตุ้นรายได้ให้กับผู้ประกอบการในทุกระดับ ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ตอบสนองเมกะเทรนด์ของโลก นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
กระทรวงพาณิชย์สนับสนุนให้มีการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์งานศิลปหัตถกรรมไทย ด้วยการประยุกต์นำนวัตกรรมเทคโนโลยีและการออกแบบดีไซน์ให้ทันสมัย เน้นฟังก์ชันการใช้งานเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติที่ดียิ่งขึ้น ช่วยลดต้นทุนในการผลิตการรับรองมาตรฐานให้กับงานศิลปหัตถกรรมไทย สอดคล้องกับตลาดเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งจะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ให้สินค้าของไทยโดดเด่นมากขึ้น รมช.พาณิชย์ กล่าว
จำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่สะท้อนภูมิปัญญาและทักษะเชิงช่าง
โดยการจัดงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 13” และ “Crafts Bangkok 2022” ในครั้งนี้ ภายในงานจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมมากถึง 650 ราย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางของผู้ประกอบการในการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย พัฒนาด้านการตลาดให้ผู้ประกอบการขยายกลุ่มผู้บริโภคเป็นวงกว้างทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้มีเม็ดเงินหมุนเวียน และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการตามวัตถุประสงค์ของกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงเรื่องของเศรษฐกิจชีวภาพ หรือ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่ Sacit ได้รับแนวคิด BCG ส่งเสริมและขับเคลื่อนสินค้าไทย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าหัตถศิลป์และไลฟ์สไตล์ที่มาร่วมจัดแสดงภายในงาน ล้วนเป็นผู้ประกอบการที่นำแนวทาง BCG มาปรับใช้ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการใช้วัสดุหลักจนถึงกระบวนการผลิต
สำหรับกิจกรรมภายในงาน Sacit ได้จัดเตรียมพื้นที่การเจรจาธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มช่องทางการส่งออก การจัดจำหน่าย และการมอบเกียรติบัตรแก่ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี พ.ศ.2565 การจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โครงการเซรามิก สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โครงการกำลังใจ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่สะท้อนภูมิปัญญาและทักษะเชิงช่าง จากกลุ่มครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม รวมถึงงานคราฟต์ร่วมสมัยจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่นับหมื่นรายการกว่า 650 ร้านค้า คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย มียอดจำหน่ายภายในงานกว่า 140 ล้านบาท
กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ขอเชิญชวนคนไทยไปร่วมภาคภูมิใจ เป็นกำลังใจ อุดหนุนงานศิลปหัตถกรรมไทยจากฝีมือชั้นครูและผู้ประกอบการไทย ที่งาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 13” และ “Crafts Bangkok 2022” ระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2565 ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 101-102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
CREDIT:
PHOTOS: COURTESY OF SACIT
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่