ศิลปะสะกดจิตบนข้อมือ ผลงานการตีความใหม่ของ Roger Dubuis และศิลปินชาวญี่ปุ่น Hajime Sorayama
Roger Dubuis Excalibur Sorayama Monobalancier (MB) นับเป็นหนึ่งในนักบุกเบิกด้านงานศิลป์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก Hajime Sorayama ศิลปินชาวญี่ปุ่นที่เคยฝากผลงานอันเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ชิ้นงานเลื่องชื่อ อย่าง “Sexy Robots” คาแร็กเตอร์หุ่นยนต์สาวที่ถ่ายทอดถึงศิลปะซูเปอร์เรียลลิสต์ได้อย่างสะกดสายตา และเรียกได้ว่าเป็นการทลายกำแพงแห่งประเพณีงานศิลป์สู่อีกหนึ่งมิติ และด้วยพรสวรรค์ บวกกับความหลงใหลในศิลปะแนวล้ำอนาคตเฉพาะตัวของเขา ทำให้ Hajime Sorayama คว้ารางวัลมาแล้วมากมาย และนำทางให้เขาได้ร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกทั้งในสาขาแฟชั่น เทคโนโลยี และแม้แต่ดนตรี รวมถึงล่าสุดกับการได้ร่วมงานกับแบรนด์นาฬิกาอย่าง Roger Dubuis (โรเช่ ดูบุยส์)
มองหาซึ่งแรงบันดาลใจและพลังขับเคลื่อนการสร้างสรรค์ที่เป็นส่วนหนึ่งของ DNA สำหรับ Roger Dubuis เสมอ ทำให้การได้ร่วมงานกับอีกหนึ่งศิลปินครั้งนี้ แบรนด์ได้แสดงออกถึงอีกด้านของความสามารถและความพยายามอย่างไม่ลดละในการผสมผสานซึ่งเสน่ห์ของประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาเข้ากับนวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงงานดีไซน์และศิลปะแห่งอนาคต โดยการจับมือร่วมงานกับ Hajime Sorayama ที่ล่าสุดนี้ ทั้งคู่ได้เผยผลงานมาสเตอร์พีซแห่งเรือนเวลาร่วมกันภายในรุ่น Excalibur Sorayama Monobalancier (MB) นาฬิการุ่นที่สามจาก Urban Culture Tribe ของแบรนด์ หลังจากที่ Roger Dubuis ได้เชิญ Hajime Sorayama เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงาน และร่วมภารกิจสุดท้าทายในการตีความใหม่ให้กับสัญลักษณ์แห่งดวงดาวของแบรนด์ ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งที่ศิลปินคนนี้ตีความออกมานั้น คือการผสมผสานอย่างลงตัวกับสไตล์เรียลลิสติกและแสดงออกถึงเอกลักษณ์งานดีไซน์เฉพาะตัวได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งถ่ายทอดถึงโลกอันเปี่ยมด้วยเสน่ห์ของการสร้างสรรค์นวัตกรรมเรือนเวลาสลับซับซ้อนชั้นสูงที่เป็นหัวใจความเชี่ยวชาญของเมซงแห่งนี้ด้วย
Excalibur Sorayama Monobalancier (MB) จึงถ่ายทอดไว้ด้วยหลากหลายมิติในนาฬิกาเรือนเดียว ทั้งการเป็นเครื่องบอกเวลาสลับซับซ้อนสูง ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยความเที่ยงตรงแม่นยำอันเป็นหัวใจ ขณะเดียวกันก็หลวมรวมไว้ด้วยโลกแห่งศิลปะอันโดดเด่น โดยเฉพาะแรงบันดาลใจจากศิลปะสะกดจิต ที่สามารถนำเสนอได้อย่างลงตัว กลายเป็นงานศิลป์ชิ้นเอกอันทันสมัยสำหรับข้อมือของบรรดานักสะสม ทั้งนักสะสมเรือนเวลาและผู้ที่คลั่งไคล้หลงใหลในงานศิลปะตัวยง
ความโดดเด่นของผลงานรุ่นนี้ หนึ่งในนั้นต้องยกให้กับการนำเอา Excalibur Monobalancier ซึ่งถือเป็นนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดของปีนี้ มาพลิกโฉมผ่านงานตกแต่งและการขึ้นรูปใหม่สู่ศิลปะบนข้อมือ โดยยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของทั้งเส้นสายที่คมชัด ทั้งบนตัวเรือนและกลไก ซึ่งมอบเป็นสัมผัสของความมีมิติลุ่มลึกได้อย่างดี ตลอดจนถึงงานฝีมือการตกแต่งที่ตัดกัน พร้อมด้วยสัญลักษณ์ดวงดาว ที่ในรุ่นนี้ได้เลือกถ่ายทอดเสมือนกับกำลังล่องลอยอย่างอิสระเหนือตลับลาน และปล่อยพื้นที่ทั้งหมดของเรือนเวลาให้กลายเป็นผืนผ้าใบสำหรับสร้างสรรค์งานศิลป์ของ Sorayama ได้อย่างเต็มที่ โดยสิ่งที่เขาได้ตีความใหม่นั้น มีทั้งการหยิบยืมเอาสัญลักษณ์จากผลงานสร้างสรรค์สุดไอคอนิกของเขาเองมาใช้ โดยสะท้อนผ่านประติมากรรมสามมิติภายในงานตกแต่งวัสดุไทเทเนียมขัดเงา ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือและความทุ่มเทของช่างฝีมือและช่างนาฬิกาผู้เปี่ยมด้วยทักษะและความเชี่ยวชาญสูงมาร่วมกันสร้างสรรค์และพัฒนากระบวนการจำลองมิติความเงาวาว รวมถึงความมีเอกลักษณ์ของชิ้นงานให้ถ่ายทอดออกมาบนเรือนเวลาได้อย่างโดดเด่นและชัดเจน
หนึ่งในกระบวนการอันท้าทายสูงเป็นพิเศษนั้น ยังคงอยู่ที่การตกแต่งด้วยงานขัดเงาอย่างสมบูรณ์สำหรับตัวเรือนและสายสร้อยข้อมือไทเทเนียม ซึ่งนอกจากความประณีตของพื้นผิวแล้ว ช่างฝีมือยังต้องคำนึงถึงมิติการเล่นกับแสงสะท้อนของเรือนเวลาศิลป์นี้ด้วย ขณะที่ Sorayama ได้สร้างภาพจินตนาการขึ้นใหม่ให้กับไมโครโรเตอร์ (micro-rotor) ของ Roger Dubuis โดยสร้างสรรค์เป็นศิลปะภาพลวงตาราวกับกำลังสะกดจิตผู้ชม และปลุกการสะกดจิตนี้ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างลื่นไหลเป็นธรรมชาติโดยการเคลื่อนไหวของข้อมือผู้สวมใส่นาฬิกา ภาพลวงตาด้วยระลอกคลื่นที่ไม่มีสิ้นสุดนี้นับเป็นการสร้างสรรค์ครั้งแรกของทั้งตัวศิลปินและเมซงผู้ผลิตนาฬิกาแห่งนี้ด้วย ซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือนในการประดิษฐ์นาฬิกาโปรโตไทป์ขึ้นภายในโรงงาน เพื่อค้นหาการผสมผสานที่ลงตัวและเหมาะสมระหว่างวัสดุ การตกแต่ง และงานฝีมือซึ่งนำมาประยุกต์ใช้นั่นเอง ผลลัพธ์ที่ได้นั้นยังรวมไปถึงการเลือกเทคนิคแกะลายกิโยเช่ (guilloché) บนส่วนเฉพาะต่างๆ ของไมโครโรเตอร์ ตลอดจนนวัตกรรมการประกอบ ที่จัดวางหน้าปัดแซฟไฟร์ไว้เหนือโมโครโรเตอร์ออกแบบขึ้นใหม่
ซึ่งศิลปิน Sorayama ได้กล่าวถึงผลงานนี้ว่า “Excalibur Sorayama MB เป็นการผสมผสานอย่างสมบูรณ์ของสองโลก ร่วมกับ Roger Dubuis และเอกลักษณ์งานศิลป์ของผม ซึ่งทั้งคู่สามารถเป็นที่จดจำได้ทันทีตั้งแต่แรกเห็น ผมตื่นเต้นที่เรานั้นสามารถร่วมกันสร้างสรรค์เรือนเวลาขึ้นด้วยการแสดงออกแห่งศิลปะไฮเปอร์ได้จริง และก้าวข้ามขีดข้อจำกัดของเรา ที่เราได้รังสรรค์ทั้งลวดลายการตกแต่งมัวเร (moiré) และเป็นผลงานมาสเตอร์พีซหนึ่งเดียวร่วมกัน”
สำหรับนาฬิกา Excalibur Sorayama Monobalancier (MB) สุดพิเศษนี้ บรรจุด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติสเกเลตัน Caliber RD720SQ ซึ่งเป็นกลไกสมรรถนะสูงอันล้ำสมัย โดยสำรองพลังงานได้ 72 ชั่วโมง และติดตั้งไมโครโรเตอร์ เพื่อลดแรงสั่นสะเทือนและเพิ่มแรงเฉื่อยของบาลานซ์วีล (balance wheel) เป็นสองเท่า ช่วยเสริมความเสถียรได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเสริมประสิทธิภาพการทำงานและการส่งทอดพลังงานที่เพิ่มขึ้น ผ่านการใช้น้ำมันหล่อลื่นชนิดใหม่ รวมถึงปรับปรุงรูปทรงของเอสเคปเมนท์วีล (escapement wheel) ให้รับกับการปรับโครงสร้างขององค์ประกอบและการพัฒนาการเคลือบวัสดุ ที่ยกระดับมาตรฐานความไว้วางใจเชื่อถือได้ในเรือนเวลาชั้นสูงของแบรนด์
โดยเรือนเวลานี้ยังคงผ่านการประทับ Poinçon de Genève หนึ่งในตราอันทรงเกียรติสูงสุดซึ่งรับรองถึงความสมบูรณ์แบบและความสวยงามประณีตของการประดิษฐ์นาฬิกาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ในแง่ความลงตัวและทันสมัยของ Excalibur Sorayama Monobalancier (MB) ซึ่งมาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.0 มิลลิเมตรนี้ ยังจับคู่มากับสายสร้อยข้อมือไทเทเนียม เกรด 5 และระบบ Quick Release System สำหรับถอดเปลี่ยนสายได้อย่างง่ายดายและหลากหลายมากขึ้น โดยศิลปะสะกดจิตภายในเรือนเวลารุ่นนี้ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 28 เรือน และในช่วงแรกจะมีจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF ROGER DUBUIS
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
