อ่านเรื่องราวเบื้องหลังสองภาพวาดชนะการประกวดงาน RCB Portrait Prize 2022 ที่ River City Bangkok และร่วมเป็นผู้ตัดสินรางวัล People’s Choice Prize ด้วยตัวคุณเอง
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงจากงานประกวดภาพวาดพอร์เทรตในปีที่แล้ว ปีนี้ River City Bangkok กลับมาอีกครั้งกับครั้งที่ 2 ของงานประกวดภาพพอร์เทรต RCB Portrait Prize 2022 ที่นอกจากจะมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากและร่วมส่งผลงานมากว่า 200 ชิ้น ในปีนี้ยังได้รับเกียรติจากรองศาสตราจารย์ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครที่ให้เกียรติมามอบรางวัล ร่วมชมผลงานทั้ง 80 ชิ้นและพูดคุยกับศิลปินผู้ผ่านเข้ารอบและได้มาโชว์ที่ห้อง RCB Galleria อีกด้วย
งาน RCB Portrait Prize เริ่มต้นขึ้นจากความตั้งใจที่จะจัดกิจกรรมเพื่อให้การสนับสนุนคนทำงานศิลปะ รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ทางด้านศิลปะให้กับบุคคลทั่วไป River City Bangkok ซึ่งเป็นเสมือนแลนด์มาร์คสำคัญทางศิลปะของย่านบางรัก จึงเลือกหยิบการวาดพอร์เทรตมาจัดเป็นการประกวด โดยตั้งใจให้การประกวดนี้เป็นงานสำคัญประจำปีทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไป ของทั้ง River City Bangkok เอง รวมทั้งเขตบางรักซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพมหานคร
โดยรางวัลถูกแบ่งออกเป็น 3 ลำดับคือ รางวัลชนะเลิศ RCB Portrait Prize ที่ลงคะแนนโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมเงินรางวัล 500,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศ Packing Room Prize พร้อมเงินรางวัล 200,000 บาท ซึ่งมาจากการลงคะแนนโดยฝ่ายนิทรรศการของ River City Bangkok ทั้งภัณฑารักษ์ (Curator – คิวเรเตอร์ ผู้ดูแลนิทรรศการ) ฝ่ายจัดการนิทรรศการ รวมถึงฝ่ายติดตั้งผลงาน ผู้อยู่เบื้องหลังนิทรรศการงานศิลปะทุกงานที่เราเคยได้ชมกัน
และรางวัลสุดท้ายคือรางวัล People’s Choice Prize พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท โดยจะมาจากการลงคะแนนของบุคคลทั่วไปที่ได้เข้าชมงานนิทรรศการทุกคน โดยภาพวาดที่ได้คะแนนมากที่สุดจากผลงานทั้ง 80 ชิ้นที่ผ่านเข้ารอบจะมีการประกาศและมอบรางวัลในวันสุดท้ายของนิทรรศการ
“โล่ครอบครัวดีเด่นที่ถืออยู่นั้น มันย้อนแย้งกับความเป็นจริง แต่ผมก็หวังว่าหลังจากวาดภาพนี้ มันอาจจะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวผมดีขึ้นได้จริงๆ ครับ”
“จุดเริ่มต้นของภาพพอร์เทรตภาพนี้ มันมาจากการที่พ่อและพี่ชายของผมมีปากเสียงและไม่คุยกันมาเกือบจะปีแล้วครับ แม้แต่ตอนที่นั่งกินข้าวก็ยังนั่งแยกกัน ผมก็เลยตั้งใจว่าจะใช้การเป็นแบบวาดพอร์เทรตครั้งนี้เป็นข้ออ้าง ให้สมาชิกในครอบครัวของผมได้กลับมาอยู่ร่วมในเฟรมเดียวกันอีกครั้ง”
โอ๊ต ธีรพงศ์ กมลภุส ศิลปินอิสระวัย 26 ปี ผู้จบการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทจากภาคจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากรและกำลังจะมีผลงานในนิทรรศการกลุ่ม ‘นิทานแห่งความสุข’ ซึ่งจะจัดขึ้น ณ ศูนย์การค้า Iconsiam ช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึง เล่าให้เราได้ฟังถึงแรงบันดาลใจในภาพที่ชนะการประกวดครั้งนี้
โอ๊ตเลือกวาดภาพของพ่อ แม่และพี่ชายยืนตากแดดและถือถ้วยรางวัล ‘ครอบครัวดีเด่น’ ซึ่งเป็นถ้วยที่เขาจินตนาการขึ้นโดยย้อนแย้งกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และหวังลึกๆ ในใจว่าการส่งผลงานเข้าร่วมประกวดครั้งนี้อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและพี่ชายดีขึ้นได้จริงๆ โดยเลือกให้ทุกคนยืนตากแดดเวลาเที่ยงวันเพื่อเก็บภาพของแบบทั้งสามคนเอาไว้
“เหตุผลที่ต้องให้ทุกคนไปยืนตากแดดตอนเที่ยง ก็เพราะเวลาคนเรารู้สึกร้อน ไม่สบายตัว หรือรู้สึกว่าอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความไม่สบายตัวไม่สบายใจพวกนั้นจะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจนผ่านทางสีหน้าครับ (หัวเราะ) ผมเลยคิดว่ามันน่าจะสนุกดีที่จะบันทึกภาพเหล่านั้นเอาไว้ เพราะความน่าสนใจของภาพพอร์เทรตคือการที่เราสามารถบันทึกอารมณ์ ความรู้สึก รวมถึงเรื่องราวที่อยู่ในตัวแบบออกมาผ่านภาพได้ด้วย” ศิลปินหนุ่มเล่าอย่างอารมณ์ดีและเผยว่ากว่าเขาจะเริ่มต้นวาดภาพนี้ออกมา สมาชิกในครอบครัวก็ยืนตากแดดกันอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมงจนได้สีหน้าแบบที่โอ๊ตต้องการ โดยเขาใช้เวลาวาดภาพนี้เป็นระยะเวลาเกือบ 2 เดือน
และด้วยความที่เป็นแดดเที่ยงนี้เอง การตัดกันอย่างชัดเจนของแสงและเงาจึงให้ภาพที่ดูมีมิติน่าสนใจแบบที่ใครหลายๆ คนคุ้นเคยกันในรูปแบบที่เรียกว่า Rembrandt lighting ของเรมบรันต์ (Rembrandt) จิตรกรชาวเนเธอร์แลนด์ที่โด่งดังอย่างมากช่วงศตวรรษที่ 17 ที่มีเอกลักษณ์คือเงาตกกระทบบนใบหน้าจากการที่แสงเข้าทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งของแบบเพียงฝั่งเดียว ซึ่งนั่นจะให้อารมณ์ที่เข้มข้นและดรามาติกแก่แบบมากกว่าปกติ ซึ่งภายหลังเทคนิคนี้ยังถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในวงการถ่ายภาพด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่องค์ประกอบต่างๆ ในผลงาน Relationships ซึ่งเป็นผลงานชนะรางวัลในครั้งนี้ของโอ๊ต มีมนต์เสน่ห์ราวกับเรากำลังจ้องมองภาพถ่ายภาพที่ถูกลั่นชัตเตอร์ภายในเวลาชั่วเสี้ยววินาที
“สำหรับผมแล้วเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านไปและไม่เคยหยุดรออะไรและเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งเวลามันก็อาจจะหมดลงได้เช่นกัน”
ผลงาน เวลาและความห่วงใย โดย ณะ รณชาติ มหัคพิเชียร รางวัล Packing Room Prize
“แบบในภาพคือคุณพ่อและคุณปู่ครับ ผมเลือกทั้งสองท่านมาเป็นแบบและหยิบเอาเวลามาแทนเรื่องราวทั้งหมด เพราะผมรู้สึกว่าเวลามันเป็นสิ่งที่เดินไปข้างหน้าอยู่ตลอด มันไม่เคยหยุดรออะไร ความห่วงใยที่ทั้งพ่อและปู่ของผมมีให้กันจึงเหมือนกำลังแข่งอยู่กับเวลา”
ณะ รณชาติ มหัคพิเชียร นักเรียนศิลปะวัย 17 ปี จากแผนกจิตรกรรม โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร เล่าให้เราฟังทั้งรอยยิ้มตอนที่มองไปยังคุณปู่วัย 84 ปีผู้เป็นแบบในการวาดภาพและได้เดินทางมาร่วมในงานประกาศรางวัลครั้งนี้ด้วย
“ปกติแล้วคุณพ่อของผมทำอาชีพเกี่ยวกับสุขภัณฑ์ เวลาที่ออกไปทำงานคุณพ่อก็จะมีห่วงและกังวลถึงคุณปู่ที่อยู่ที่บ้านตลอด ส่วนคุณปู่เองก็ไม่กล้าบอกกับคุณพ่อเพราะกังวลว่าคุณพ่อจะเป็นห่วงจนไม่ได้ทำงาน ผมเลยรู้สึกว่าความสัมพันธ์นี้น่าประทับใจจนอยากจะบันทึกไว้ครับ” ณะเล่าและอธิบายต่อว่าเขาหลงใหลในการวาดภาพมาตั้งแต่เด็กโดยมีคุณพ่อคอยสนับสนุน และเมื่อต้องตัดสินใจเลือกแผนการเรียนในระดับมัธยมปลายเขาจึงไม่ลังเลที่จะเลือกเรียนแผนกจิตรกรรมด้วยความฝันว่าอยากจะเป็นศิลปินมืออาชีพในอนาคต
ผลงานภาพวาดของณะใช้แสงเงาสว่างและมืดที่ตัดกันมากๆ มาใช้เพื่อขับให้แบบโดดเด่นขึ้นมา ตามรูปแบบทางจิตรกรรมที่เรียกในภาษาอิตาเลียนว่า ไครอสคูโร (Chiaroscuro) ที่แปลว่าแสงและความมืด (light and darkness) คือการให้น้ำหนักแสงเพื่อกำหนดจุดเด่นในภาพและใช้พื้นหลังที่มืดกว่าเพื่อขับให้แบบดูเด่นออกมาจากพื้นหลังอย่างที่เราเคยได้เห็นบ่อยๆ ในผลงานของเลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) เวอร์เมียร์ (Vermeer) รวมทั้งการาวัจโจ (Caravaggio) ซึ่งเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีชื่อเสียงที่สุดในการวาดภาพสไตล์ไครอสคูโร
“ในอนาคต ผมอยากจะเป็นศิลปินที่เป็นที่รู้จักมากขึ้นในไทยครับผม” ศิลปินหนุ่มรุ่นเยาว์ก็ตอบทั้งรอยยิ้มที่ปิดบังความเขินอายไว้ไม่มิด เมื่อเราถามว่าในอนาคต ณะวางอนาคตทางด้านศิลปะของตนเองเอาไว้อย่างไร และคำตอบที่ได้ก็สะท้อนอย่างชัดเจนแล้วว่าการประกวดภาพวาด RCB Portrait Prize ซึ่งไม่จำกัดอายุผู้เข้าร่วมแข่งขัน ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนคนทำงานศิลป์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างไรบ้าง โดยครั้งนี้นับเป็นการประกวดครั้งแรกของณะ หลังจากเขาฝึกฝนตนเองและส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดต่างๆ อย่างต่อเนื่องและการคว้ารางวัล Packing Room Prize จากทีมนิทรรศการ ทำให้ทีมงานต่างก็ประหลาดใจเมื่อรู้ว่าผู้คว้ารางวัลนี้มีอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น
แต่การประกวดภาพวาด RCB Portrait Prize ยังคงไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะผู้เข้าชมทุกคน รวมทั้งคุณผู้อ่านของ Padthai.co ยังสามารถร่วมเป็นผู้ตัดสินรางวัล People’s Choice Prize โดยการไปชมผลงานที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 80 ชิ้นเพื่อโหวตให้ผลงานที่คุณชอบที่สุดได้รับรางวัลและลุ้นผลประกาศรางวัลไปพร้อมกันในวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้!
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.rivercitybangkok.com
CREDIT:
PHOTOS: COURTESY OF RIVER CITY BANGKOK
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้บน Padthai.co
- I Need a Life Coach : หรือชีวิตจะไม่ต้องการไลฟ์โค้ช ? นิทรรศการศิลปะจาก โน้ต อุดม แต้พานิช ที่ซ่อนแนวคิดดีๆไว้ ภายใต้ผลงานศิลปะสีสันจี๊ดจ๊าดหลากหลายสไตล์ ที่จะพาคุณไปรู้จัก โน๊ต ที่มากกว่าการเป็น Stand up Comedian
- ทำความรู้จักตนเองผ่านเด็กชายหลายตา พูดคุยกับ KARMS ก้าม ธรรมธัช สายทอง และผลงานนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเขา ROOM 063 By KARMS ที่ River City Bangkok
- มองสังคมไทยรอบด้าน ผ่านงานศิลปะหลากรูปแบบ จากศิลปินแห่งชาติ อาจารย์ทวี รัชนีกร ในจดหมายเหตุประเทศไทย ทวี รัชนีกร : ปรากฏการณ์แห่งอุดมการณ์ นิทรรศการครั้งใหม่ที่ BACC
- ชนชั้นและศิลปะ การเติบโต และรอยทรงจำในความเคลื่อนไหว นั่งคุยกับพิชัย แก้ววิชิต เกี่ยวกับ The memoir of movement นิทรรศการภาพถ่ายครั้งใหม่ที่ River City Bangkok
- Story of My Mind สำรวจจิตใจผ่านเรื่องเล่าจากไพ่ทาโร่ต์ในนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของโบว์ ปัณฑิตา