กุหลาบ Yves Piaget Rose ซิกเนเจอร์แห่ง Piaget เบ่งบานขึ้นอีกครั้ง ด้วยเรือนเวลา 4 รุ่นใหม่ ที่เติมเต็มความหอมรัญจวนให้กับกุหลาบช่องามบนข้อมือ
Piaget: Rose 2021 High Jewelry Watches Collection เรียกว่าเป็นฤดูกาลแห่งปีสำหรับการเผยโฉมดอกไม้ซิกเนเจอร์ของเมซง เพียเจต์ (Piaget) ภายใต้ชื่อ อีฟส์ เพียเจต์ โรส (Yves Piaget Rose) หรือที่รู้จักกันว่า Piaget Rose ที่ในหลากหลายฤดูกาลนั้น กุหลาบนี้ได้ถูกตีความผ่านแฟชั่น งานฝีมือ และความเป็นผู้หญิงแตกต่างกันออกไป แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความงดงามของเฉดสี ความเป็นธรรมชาติ รวมถึงเทคนิคงานฝีมือการรังสรรค์ที่หลายครั้งนั้นยังเป็นหัตถศิลป์อันหาชมได้ยาก ซึ่งนำมาใช้ผสมผสานและรังสรรค์ให้กุหลาบ Piaget Rose ช่อนี้ไม่มีวันอับเฉาหรือร่วงโรยไปเลยแม้สักครั้ง และสำหรับปี 2021 Piaget ได้เผยโฉมช่อกุหลาบ Piaget Rose จาก 6 ผลงานใหม่อันสวยเด่น ที่ประกอบด้วยแหวนกุหลาบสองรุ่น
และเรือนเวลาสี่รุ่นซึ่งเป็นตัวแทนแห่งพลังสร้างสรรค์ ณ Maison Piaget โดยความโดดเด่นของ Piaget Rose ประจำปีนี้มาพร้อมกับการไล่เฉดสีได้อย่างงดงามจากเฉดสีชมพูไปจนถึงสีบานเย็น และซ้อนด้วยกลีบดอกอันบอบบางละเมียดละไมราวกับธรรมชาติถึงราว 80 ชั้น ทั้งยังซ่อนสัมผัสแห่งกลิ่นอายความหอมหวานอมเปรี้ยวแบบซิตรัสที่เข้ามาเติมเต็มคอลเลกชั่น Piaget Rose นี้ให้หอมรัญจวนอีกครั้ง
Piaget: Rose 2021 High Jewelry Watches Collection
หากย้อนเวลากลับสู่ต้นกำเนิดของผลงาน Piaget Rose นั้นได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อครั้งเปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ. 2002 โดยถือเป็นหนึ่งคอลเลกชั่นเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงของ Piaget ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกุหลาบซึ่งไม่มีวันเหี่ยวเฉา อย่าง Yves Piaget Rose และตลอดระยะเวลาหลายปีต่อมา แต่ละชิ้นงานของคอลเลกชั่นนี้ยิ่งเสริมความโดดเด่นและชวนให้หลงใหลมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยทั้งจากการผสมผสานแฟชั่น แนวคิด พลังสร้างสรรค์ และเทคนิคการรังสรรค์อันเหนือชั้นที่มาหลอมรวมอยู่ในแต่ละชิ้นงาน โดยเฉพาะที่ขาดไม่ได้เช่นกันนั่นคือการคัดสรรและหยิบเอาอัญมณีหินสีหลากหลายชนิดมาร่วมถ่ายทอดถึงความสวยงามของดอกกุหลาบ กลายเป็นตัวแทนของความโรแมนติกร่วมสมัยและเปี่ยมด้วยความหมายอันเหนือกาลเวลาของคอลเลกชั่น Piaget Rose กับความล้ำค่าของวัสดุและอัญมณี เช่น ทอง เพชร ตลอดจนทัวร์มาลีนสีชมพูและโอปอลสีชมพูลูกกวาด
ขณะที่เรื่องราวแห่ง Piaget Rose นั้นยังเชื่อมโยงถึง Yves Piaget ผู้ซึ่งเติบโตในหมู่บ้าน ลา โกต-โอซ์-เฟส์ (La Côte-aux-Fées) อันเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตนาฬิกา Piaget ทั้งยังรายล้อมไปด้วยหมู่มวลดอกไม้ป่าที่น่าค้นหา ซึ่งครั้งหนึ่งเขาได้กล่าวว่า “ฉันจำได้ว่ากุหลาบป่าเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า เอกลองทีนส์ (églantines ภาษาอังกฤษ eglantine เอ็กแลนไทน์) และเติบโตที่ระดับความสูง 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล” จากจุดเริ่มต้นแห่งความหลงใหลนี้เองที่นำทางไปสู่ความทุ่มเทไม่เพียงต่อการทำงานร่วมกับ Piaget แต่ในปีค.ศ. 1967 เขาได้รับเกียรติให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะลูกขุนของ Geneva International Competition of New Roses ก่อนที่นักจัดสวนชื่อดัง อาแล็ง เมยองด์ (Alain Meilland) ได้อุทิศชื่อดอกกุหลาบที่ชนะเลิศจากการประกวดในปีค.ศ. 1982 ว่า Yves Piaget Rose ซึ่งหลังจากนั้น Yves Piaget ยังได้มอบดอกกุหลาบทองคำ 18 กะรัต ขนาดเท่าของจริง เป็นรางวัลให้กับผู้ชนะการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ก่อนที่เขาได้สร้างสรรค์การจัดการแข่งขันขึ้นด้วยชื่อ Monaco International Rose Competition ซึ่งมี Maison Piaget ให้การสนับสนุนถ้วยรางวัลอีกเช่นเคย
สำหรับปีนี้ถือเป็นการผลิบานครั้งใหม่ของคอลเลกชั่นที่พรรณนาถึงมวลหมู่ดอกกุหลาบ Yves Piaget Rose อันงดงามและตราตรึงใจ ทั้งยังเป็นการร่วมงานกับเหล่าช่างฝีมือชื่อดังที่มาร่วมเสกสรรเสน่ห์ให้กับดอกกุหลาบเหล่านี้อีกด้วย
สำหรับเรือนเวลา Piaget Rose ในปีนี้ Piaget ได้อุทิศให้กับความหลงใหลใน เมติเอร์ ดารต์ (Métiers d’Art ศิลปาชีพ) ที่เคยปรากฏและสร้างความงดงามมาแล้วในผลงานนาฬิกา Piaget Rose ที่ผ่านมา โดยเป็นการสืบทอดและผสมผสานศิลปะและเทคนิคการตกแต่งนาฬิกาแบบดั้งเดิมเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการประดับตกแต่งแบบ Micro-mosaic, การใช้เนื้อไม้หรือหินมาประดับตัดต่อลายแบบ มาร์เก็ตทรี (Marquetry เครื่องไม้ฝังประดับ) ที่ถือเป็นงานหัตถศิลป์อันเก่าแก่ รวมถึงการปักลายบนหน้าปัด การแกะสลักด้วยมือ การแกะลายกิโยเช่
และมาในปีนี้ Piaget Rose 2021 ยังคงถ่ายทอดไว้ด้วยศาสตร์และศิลปะอันเชี่ยวชาญในการตกแต่งเรือนเวลาอันน่าสนใจมากมายเหมือนเช่นเคย โดยในนาฬิกาสี่รุ่นใหม่ของ Altiplano – Rose Bouquet Métiers d’Art ในคอลเลกชั่นนี้นั้น ทั้งหมดล้วนบรรจุไว้ด้วยไฮไลต์ของมวลหมู่ดอกกุหลาบ Yves Piaget Rose ที่มีความสวยเด่นของงานฝีมือและรายละเอียดการตกแต่งอันงดงามแตกต่างกัน โดยผ่านฝีมือการรังสรรค์ของสองศิลปินมากความสามารถ อย่าง ดิ๊ก สตีนแมน (Dick Steenman) ผู้เชี่ยวชาญด้านงานศิลป์บนเรือนเวลา ที่เน้นการนำเสนอด้วยเทคนิคงานแกะสลักและประดับตกแต่งอัญมณี และ อานิตา ปอร์เชต์ (Anita Porchet) ศิลปินนักลงยาผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดในอุตสาหกรรมเรือนเวลา ที่มาร่วมถ่ายทอดผลงานผ่านหลากหลายเทคนิควิธีของการลงยา ไม่ว่าจะเป็น การลงยาแบบ คลัวซอนเน (cloisonné เส้นกั้นสีช่องที่จะลงยา), ชองเปลอเว (champlevé การเคลือบ), กรีซาย (grisaille เอกรงค์เทา) หรือ ไปยอนเน (paillonné เทคนิคการลงยาเคลือบเงา) เพื่อแต่งแต้มจินตนาการของดอกกุหลาบให้มีมิติมากที่สุด
Dick Steenman และ Anita Porchet
ซึ่งในกระบวนการสร้างสรรค์งานนั้น จะเริ่มต้นด้วยฝีมือการแกะสลักของ Dick Steenman ที่เนรมิตดอกกุหลาบขนาดจิ๋วให้บานสะพรั่งทั่วทั้งหน้าปัด ก่อนส่งต่อให้ Anita Porchet เป็นผู้แต่งแต้มสีสันด้วยการเคลือบสีลงยา ที่เมื่อผ่านการเผาจนได้เฉดสีอันไร้ที่ติตามต้องการแล้ว จึงส่งกลับมาให้ Dick Steenman อีกครั้ง เพื่อขัดแต่งรายละเอียดของกลีบดอกไม้ รวมถึงนำอัญมณีหินสีที่ผ่านการแกะสลักด้วยเทคนิคกลิบติก (glyptic) อันหาชมได้ยากมาประดับลงบนหน้าปัดได้อย่างประณีตบรรจง และแต่งแต้มให้สมจริงยิ่งขึ้นด้วยเกสรดอกไม้ที่ประดับด้วยเพชร แซฟไฟร์ และซาวอไรต์
ทว่า ความท้าทายไม่ได้อยู่แค่เพียงการถ่ายทอดภาพของดอกกุหลาบให้สวยงามเสมือนจริง แต่ Piaget ยังได้เลือกคัดสรรเพียงวัสดุที่ดีที่สุดและอัญมณีล้ำค่านำมาประดิษฐ์เป็นผลงานศิลปะเหล่านี้ด้วย โดยกว่าจะได้หน้าปัดแต่ละชิ้นมานั้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนในการสร้างสรรค์ ผ่านองค์ประกอบและความท้าทายอีกมากมาย เช่น การควบคุมเปอร์เซ็นต์ส่วนผสมของ Alloy ในทองคำ 22 กะรัต ที่ต้องเป็นสัดส่วนที่พอเหมาะเพื่อให้การเคลือบสีลงยา รวมถึงองค์ประกอบของดอกไม้ที่ได้ออกมานั้นมีความสมบูรณ์แบบที่สุด หรือการเลือกใช้อัญมณีหินสีที่มีความเปราะบางเป็นพิเศษ เช่น โอปอล นั้นทำให้อาจแตกหรือร้าวได้ง่ายในระหว่างกระบวนการสร้างสรรค์งาน ส่วนอัญมณีหินสีที่มีความแข็งก็ย่อมเป็นงานที่ยากยิ่งขึ้นสำหรับการลงมือแกะสลักของ Dick Steenman ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยทั้งทักษะและเครื่องเฉพาะในการทำงานเข้ามาช่วย
เช่นกันกับขั้นตอนของงานเคลือบสีลงยาที่ถือว่ามีความซับซ้อนไม่แพ้กันนั้น จำเป็นต้องอาศัยความชำนาญและการออกแบบโทนสีในแต่ละตำแหน่งบนผลงานอย่างแม่นยำและพิถีพิถัน เพื่อให้ได้ภาพผลลัพธ์ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างสมจริง โดยขั้นตอนนี้ Anita Porchet ต้องคำนึงถึงทั้งเรื่องของมิติ ความหนา และองค์ประกอบของงานลงยาที่จะไม่เป็นอุปสรรคหรือบดบังส่วนอันสวยงามของงานแกะสลักอื่นๆ และมอบซึ่งเฉดสีเฉพาะของ Yves Piaget Rose ที่รับไปกับสีสันของอัญมณีและเล่นกับแสงเงาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ที่ช่วยให้กลีบดอกไม้เหล่านี้ดูมีชีวิตชีวาและพลิ้วไหว
กับอีกหนึ่งความท้าทายสูงสุดที่ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องของขนาดและพื้นที่อันจำกัดของหน้าปัดเรือนเวลาสำหรับใช้รังสรรค์งานฝีมืออันซับซ้อนและหลากหลายขั้นตอนเหล่านี้ ซึ่งศิลปินทั้งสองคนไม่เพียงต้องคำนึงถึงเรื่องของความหนาเพียงระดับมิลลิเมตร แต่ยังคงทำงานควบคู่ไปกับการรักษาไว้ด้วยมาตรฐานแห่งประสิทธิภาพ ความเที่ยงตรงและความไว้วางใจเชื่อถือได้ของเรือนเวลา Piaget เช่นกัน
สำหรับผลงานแห่งศิลปะและความงดงามของกุหลาบ Piage Rose 2021นี้ประกอบด้วยนาฬิกาทั้งหมดสี่รุ่นอันล้ำค่าที่หยิบเอาทองคำและอัญมณีหินสี อาทิ อิมพีเรียล แจสเปอร์, คอรัล, คริสโซเพรส, มูไคต์ รวมถึงเปลือกหอยมุกมาใช้รังสรรค์งาน โดย Altiplano – Rose Bouquet Métiers d’Art แต่ละรุ่นนั้นมาพร้อมตัวเรือนโรสโกลด์ ขนาด 36.0 มิลลิเมตร ผสานด้วยขอบตัวเรือนประดับเพชรทรงบาแก็ตต์ และหน้าปัดตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยอัญมณีหลากสี ไม่ว่าจะเป็น แซฟไฟร์สีชมพู ซาวอไรต์สีเขียว และเพชร ภายในลวดลายและเฉดสีที่ต่างกันออกไป โดยมีให้เลือกใน 3 สไตล์ ได้แก่ รุ่น G0A46216 ที่จับคู่มากับสายหนังจระเข้สีคอรัล, รุ่น G0A46217 จับคู่ด้วยสายหนังจระเข้สีชมพู และ รุ่น G0A46218 มาพร้อมสายหนังจระเข้สีราสเบอร์รี ขณะที่เวอร์ชั่นสุดท้ายในรุ่น G0A46219 เผยโฉมด้วยหน้าปัดทองคำที่บานสะพรั่งไปด้วยหมู่มวลกุหลาบ พร้อมทั้งประดับแซฟไฟร์สีชมพู อเมทิสต์และเพชร ซึ่งแต่ละรุ่นเหล่านี้รังสรรค์ขึ้นในจำนวนจำกัดพิเศษเพียง 8 เรือน และขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือบางพิเศษ 430P ที่เป็นหนึ่งในต้นตำรับความบางของเรือนเวลา Piaget อีกด้วย
นอกจากนี้แบรนด์ยังเดินตามปรัชญา ”Always do better than necessary” โดยล่าสุดได้เปิดตัว Piaget Care Program ที่อัปเดตสิทธิประโยชน์ให้กับเจ้าของเรือนเวลา Piaget ทุกๆ เรือน ไม่ว่าจะเป็นการขยายการรับประกันระดับสากลเป็นเวลา 8 ปี ซึ่งครอบคลุมทั้งลูกค้าใหม่ไปจนถึงลูกค้าที่ยังอยู่ในระยะเวลาประกัน เพื่อสะท้อนถึงความแน่วแน่มุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือและพิถีพิถันแก่ลูกค้า ซึ่งนอกจากการรับประกันอันยาวนานยิ่งขึ้นแล้ว Piaget ยังได้เพิ่มเติมด้วยบริการปรับแต่ง Personalized services เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าในทุกรายละเอียดไว้ในโปรแกรมนี้อีกด้วย โดยสามารถชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.piaget.com/services/piaget-care-program
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF PIAGET
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่