Phillips ร่วมกับ Bacs & Russo จัดการประมูลนาฬิกาครั้งยิ่งใหญ่ “Geneva Watch Auction XXI” รวมเรือนเวลาหายากทั้งวินเทจและร่วมสมัย
Phillips (ฟิลลิปส์) ร่วมกับ Bacs & Russo เผยความพิเศษจากการประมูลนาฬิกาเจนีวา ครั้งที่ 21 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 10 และ 11 พฤษภาคม 2025 นำเสนอเรือนเวลาหายากและน่าสะสมจำนวนเกือบ 200 เรือน ซึ่งมีทั้งนาฬิกาแบบวินเทจและแบบร่วมสมัย รวมทั้งนาฬิการุ่นพิเศษอีก 11 เรือนที่นำมาประมูลเพื่อนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิ Philippe And Elisabeth Dufour
จุดเด่นสำคัญๆ ได้แก่ Patek Philippe Ref. 3448 ที่เป็นรุ่นเดียวที่รู้จักในโรสโกลด์ และ Rolex Daytona Ref. 6264 ‘Paul Newman Lemon’ ที่เพิ่งค้นพบในเยลโลว์โกลด์ นอกจากนี้ นาฬิการุ่น Universal Genève Polerouter สุดพิเศษในไวท์โกลด์ ประดับด้วยสายทำมือที่ประมูลเพื่อการกุศล รวมถึงต้นแบบของนาฬิกาที่บางที่สุดในโลกอย่าง Konstantin Chaykin ThinKing ต่อด้วยนาฬิกา FP Journe Tourbillon Souverain ที่มีหน้าปัดรูปหัวใจทับทิมหายาก และนาฬิกาตีบอกนาที Vacheron Constantin minute repeater รุ่นพิเศษในแพลทตินัมรุ่น 6448
นอกจากนี้ ผู้ผลิตนาฬิกาและแบรนด์อิสระที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด 11 ราย มอบนาฬิกาให้แก่มูลนิธิ Philippe and Elisabeth Dufour ซึ่งเป็นองค์กรการกุศล เพื่อแก้ไขปัญหาด้านมนุษยธรรมที่เร่งด่วนในสวิตเซอร์แลนด์และทั่วโลก โดยนาฬิกาเหล่านี้จะนำไปเสนอขายเป็นส่วนหนึ่งของการบริจาค
ก่อนการประมูล นาฬิกาได้รับการคัดสรรมาจะออกเดินทางทัวร์นานาชาติ ตั้งแต่ลอนดอน นิวยอร์ก ฮ่องกง ดูไบ สิงคโปร์และริยาด โดยให้นักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบได้มีโอกาสชมนาฬิกาอันน่าทึ่งเหล่านี้ก่อนใคร มอบประสบการณ์แสนพิเศษให้กับนักสะสมนาฬิกา ด้วยการคัดสรรนาฬิกาที่ไม่เพียงแต่หายาก แต่ยังบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่ซ้ำใคร และในปีครบรอบ 10 ปีของแบรนด์ นาฬิกาที่นำมาประมูลที่เจนีวา ครั้งที่ 21 จะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงนักสะสมนาฬิกาและกลุ่มคนผู้ชื่นชมนาฬิกาของเรา ตลอดจนความเป็นศิลปะและงานฝีมือที่กำหนดนิยามของโลกแห่งนาฬิกา

Patek Philippe | Ref. 3448, 18k Pink Gold, 1968
ประมาณการ: 2,000,000 – 4,000,000 ฟรังก์สวิส
นาฬิกาเรือนนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในการประมูลในปีค.ศ.2011 ซึ่งได้ไขข้อข้องใจที่ผู้เชี่ยวชาญถกเถียงกันมานาน นาฬิกาเรือนนี้ก็ได้ยืนยันการมีอยู่ของนาฬิการุ่น 3448 ที่ทำจากโรสโกลด์ จนกระทั่งถึงตอนนั้นมีเพียงรุ่นเยลโลว์โกลด์ ไวท์โกลด์ และแพลตตินัมเท่านั้นที่เป็นที่รู้จัก ปัจจุบันไม่มีรุ่นโรสโกลด์รุ่นอื่นอีกเลย นอกจากความหายากแล้ว นาฬิการุ่น Ref. 3448 เป็นผลงานชิ้นเอกด้านการออกแบบและวิศวกรรม ตัวเรือนขนาด 37 มิลลิเมตร ผลิตโดย Antoine Gerlach มีลักษณะเหลี่ยมมุมที่ทันสมัย คงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนาฬิการุ่น Patek Philippe ในปัจจุบัน หน้าปัด Second Series แกะสลักมีสีงาช้างผสานตัวเรือนโรสโกลด์ได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยเม็ดมะยม “Double P” ซึ่งเป็นการยกย่องกลไกอัตโนมัติอย่างละเอียดอ่อน ในฐานะนาฬิกาข้อมือแบบปฏิทินถาวรเรือนแรกของโลก นาฬิการุ่น Ref. 3448 ได้รับการยกย่องในประวัติศาสตร์การผลิตนาฬิกา นาฬิกาเรือนนี้ซึ่งจำหน่ายโดย Freccero ของอุรุกวัย ถือเป็นสุดยอดของการสะสมนาฬิการุ่นคลาสสิกของ Patek Philippe

Rolex | Ref. 6264, 18k Yellow Gold, Circa 1970
ประมาณการ: 650,000 – 1,300,000 ฟรังก์สวิส
Rolex Daytona Ref. 6264 “Paul Newman Lemon” เยลโลว์โกลด์ 18k เรือนนี้เป็นความฝันของนักสะสมอย่างแท้จริง จะนำไปประมูลโดยครอบครัวของเจ้าของเดิม ที่คงอยู่ในตู้เซฟมาตั้งแต่ปีค.ศ.1996 โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเหลืองครีม “Lemon” ที่มีพื้นผิวแบบด้านและเนื้อผิวสัมผัส grené (เกรอเนะ) ดีไซน์ตัวเลขหน้าปัดย่อยสไตล์อาร์ตเดโคสีขาวล้วน ที่แตกต่างจากรุ่นหน้าปัดแชมเปญมาตรฐาน นอกจากนี้ เสริมเสน่ห์อันน่าดึงดูดด้วยหน้าปัดย่อยและแทร็กด้านนอก โดยนาฬิกาเรือนนี้เป็นส่วนหนึ่งของนาฬิการุ่น 6264 Lemon Paul Newman ที่หายากเป็นพิเศษและเป็นหนึ่งในไม่กี่เรือนที่มีอยู่ในปัจจุบัน

Konstantin Chaykin | ThinKing Prototype, Nickel Alloy, 2025
ประมาณการ: 350,000 – 700,000 ฟรังก์สวิส
ต้นแบบ “ThinKing” ของ Konstantin Chaykin เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวงการนาฬิกาสมัยนี้ ถือเป็นนาฬิกาข้อมือที่บางที่สุดในโลก โดยมีความบางเพียง 1.65 มิลลิเมตร เป็นแบรนด์นาฬิกาโดดเด่นด้วยลูกเล่นแต่ซับซ้อน โดยใช้เวลากว่าสองทศวรรษในการก้าวข้ามขีดจำกัดของวงการนาฬิกาด้วยสิทธิบัตรเกือบ 100 ฉบับและกลไกที่ซับซ้อนเป็นแห่งแรกของโลกในปีค.ศ.2024 สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ThinKing นาฬิกาไขลานด้วยมือที่มีระบบบาลานซ์คู่ กระบอกไขลานบางเฉียบและกลไกคันโยก นาฬิกาต้นแบบนี้ถือเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดท้ายของนาฬิกา โดยมีตัวเรือนโลหะผสมนิกเกิล พลังสำรองที่ได้รับการปรับปรุง และความทนทานที่เพิ่มขึ้น นี่คือส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์นาฬิกา โดยเป็น ThinKing เรือนแรกที่ได้รับการนำออกประมูล

F.P. Journe | Tourbillon Souverain, Platinum with Ruby Heart Dial, Circa 2019
ประมาณการ: 250,000 – 500,000 ฟรังก์สวิส
FP Journe Tourbillon Souverain เป็น 1 ใน 20 เรือนที่ผลิตในปีค.ศ. 2019 และ 2020 ซึ่งเป็นรุ่นหายากพิเศษ โดดเด่นด้วยหน้าปัดหินทับทิมธรรมชาติที่ประดิษฐ์ขึ้นในเวิร์กช็อปของ FP Journe ที่เจนีวา โดดเด่นขึ้นด้วยสายแพลตตินัมที่มีน้ำหนัก Tourbillon Souverain Remointoire d’Égalité avec Seconde Morte เปิดตัวในปีค.ศ.2004 ด้วยกลไกที่ส่งแรงต่อเนื่องและความซับซ้อนของวินาทีที่เดินช้า ถึงความแม่นยำที่ไม่มีใครเทียบได้ นาฬิกาเรือนนี้บรรจุอยู่ในแพลตตินัมขนาด 40 มิลลิเมตร สะท้อนสุนทรียศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ FP Journe โดยมีหน้าปัดย่อยสีเงินแบบ Guilloché (กิโยเช่) และฝาหลังแซฟไฟร์ เผยให้เห็นการทำงานของกลไก นาฬิกาสะสมเรือนนี้คงอยู่ในสภาพดีเยี่ยมและมาพร้อมอุปกรณ์เสริมดั้งเดิม

Universal Genève | Unique Polerouter, 18k White Gold, 2024
ประมาณการ: 25,000 – 50,000 ฟรังก์สวิส
นาฬิการุ่น Tribute Polerouter SAS ของ Universal Genève ไวท์โกลด์ถือเป็นการฟื้นคืนชีพของแบรนด์ภายใต้เจ้าของใหม่ หลังจากหยุดกิจการไปหลายทศวรรษ Universal Genève ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้บริษัทการลงทุนส่วนตัว Partners Group และ CVC Capital Partners (Breitling) เผยโฉมนาฬิการุ่น Polerouter SAS ในปีค.ศ.2024 นาฬิการุ่นนี้จะเป็นรุ่นเดียวที่มีจำหน่าย สร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 70 ปีของเที่ยวบิน transpolar SAS ครั้งแรกในปี 1954 โดยเป็นการแสดงความเคารพต่อ Polerouter รุ่นดั้งเดิมด้วยตัวเรือนขนาด 33.5 มิลลิเมตร กลไกไมโครโรเตอร์ UG แบบวินเทจ และสายแบบตาข่ายถักทอโดย Laurent Jolliet หน้าปัดสีน้ำเงินโปร่งแสงจำหน่ายโดยตรงโดย Universal Genève โดยรายได้จะนำไปบริจาคให้กับการฝึกอบรมการทำโซ่ภายใน CFP Arts Geneva เพื่ออนุรักษ์งานฝีมือการทำนาฬิกา นาฬิการุ่นนี้ถือเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์สำหรับนักสะสม และเป็นตัวกำหนดกระแสการฟื้นคืนชีพของ Universal Genève

Vacheron Constantin | Ref. 6448, Platinum, 1961
ประมาณการ: 120,000 – 240,000 ฟรังก์สวิส
นาฬิกาข้อมือแบบตีบอกนาทีรุ่นสุดท้ายของ Vacheron Constantin รุ่น Ref. 6448 ถือเป็นรุ่นพิเศษในประวัติศาสตร์นาฬิกา โดยผลิตเพียง 3 เรือนเท่านั้น รุ่นแพลตตินัมและดัชนีเพชรนี้คงอยู่ในตระกูลเดียวกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่เริ่มผลิตในปีค.ศ.1961 ซึ่งแตกต่างจากรุ่นไวท์โกลด์ Vacheron Constantin เป็นผู้บุกเบิกนาฬิกาตีบอกนาทีมาตั้งแต่ปีค.ศ.1812 โดยสร้างสรรค์นาฬิกาตีบอกเวลาที่มีความวิจิตรบรรจงที่สุดรุ่นหนึ่ง ผสานความหายากและศิลปะทางกลไกเข้าด้วยกัน นาฬิการุ่นนี้เพิ่งออกสู่ตลาดและมอบโอกาสพิเศษให้กับนักสะสมในการเป็นเจ้าของนาฬิกาที่เป็นมรดกตกทอด
นาฬิกา 11 เรือนที่บริจาคให้กับมูลนิธิ Philippe and Elisabeth Dufour
Phillips ร่วมกับ Bacs & Russo ให้การสนับสนุนผู้ผลิตนาฬิกาอิสระมาอย่างยาวนาน โดยมองว่าแบรนด์เหล่านี้คือแบรนด์นาฬิการุ่นต่อไปที่มีความเป็นเลิศด้านการผลิตนาฬิกา การประมูลครั้งนี้จะนำเสนอผลงานนาฬิกาที่บริจาคโดย Philippe Dufour, Ludovic Ballouard, Artya, Magana, Carl F. Bucherer, Miki Eleta, Jacob & Co., Berney, Moritz Grossmann, Bovet และ Havid Nagan จะเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ผลิตนาฬิกาอิสระในประวัติศาสตร์ โดยนาฬิกาทั้ง 11 เรือนที่นำมาจัดแสดงจะมีความพิเศษเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นผลงานสร้างสรรค์ชิ้นเดียวในโลกหรือเป็นรุ่นพิเศษของรุ่นที่มีอยู่


Philippe Dufour
ความเรียบง่ายอันเป็นเอกลักษณ์ของ Philippe Dufour สะกดทุกสายตาด้วยหน้าปัดอันเป็นเอกลักษณ์ที่รังสรรค์จากปีกผีเสื้อแท้ โดยศิลปิน Dominique Arpa-Cirpka นับเป็นครั้งแรกที่ผสานงานศิลป์เข้ากับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยบรรจุอยู่ในตัวเรือนพิงค์โกลด์ขนาด 37 มิลลิเมตร และกลไกที่ตกแต่งด้วยมือ

Ludovic Ballouard
นาฬิการุ่น Upside Down เป็นผลงานชิ้นเอกทางกลไกและศิลปะที่โดดเด่นด้วยกลไกที่ซับซ้อนด้วยแผ่นหมุน 12 แผ่นที่แสดงชั่วโมงที่แม่นยำ จับคู่กับหน้าปัดเคลือบที่วาดด้วยมือซึ่งจำลองภาพวาด The Birthday ของ Marc Chagall และประดิษฐ์ขึ้นภายในโรงงานโดย Caroline Cottin

Artya
นาฬิกา Curvy Purity Tourbillon Ruby อันเป็นเอกลักษณ์ของ ArtyA เผยพลังความคิดสร้างสรรค์อันกล้าหาญของแบรนด์ด้วยเคสแซฟไฟร์สีแดงทับทิมอันโดดเด่น กลไกแบบโครงเหล็กเคลือบสถาปัตยกรรมตูร์บิญงขนาด 18 มิลลิเมตรผสานเอฟเฟ็กต์เรืองแสงภายใต้แสง UV

Magana
แบรนด์นาฬิกาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มุ่งมั่นในด้านคุณภาพ วัฒนธรรมและความยั่งยืน นำเสนอ Sands of Time Tribute to Liwaรุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน มีเพียง 20 เรือน ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากทะเลทรายลีวา ผ่านตัวเรือนสแตนเลสสตีล DLC สีทรายและกลไกปฏิทิน โดยการขายแต่ละครั้งจะสนับสนุนการปลูกต้นไม้ 212 ต้นผ่านโครงการ “Trees for the Future”

Carl F. Bucherer
สร้างสรรค์นาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยกลไกโรเตอร์รอบนอก อันเป็นเอกลักษณ์ ขับเคลื่อนกลไก Caliber A2050 ผ่านการรับรองจาก COSC บนหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มอันโดดเด่นประดับด้วยโลโก้ของมูลนิธิ ประกอบความหรูด้วยกรอบสีทองชมพูขนาด 40.6 มิลลิเมตร

Miki Eleta
Time in Space คือประติมากรรมนาฬิกาที่นำการบอกเวลามาตีความอีกครั้ง ด้วยการแสดงชั่วโมงแบบหมุนแบบไดนามิก เชิญชวนให้ใคร่ครวญและมีส่วนร่วม บรรจุอยู่ในตัวเรือนสตีลขนาด 48 มิลลิเมตร อันโดดเด่นและขับเคลื่อนด้วยกลไก ETA ที่ขึ้นลานด้วยมือ

Jacob & Co.
นาฬิกา Jacob & Co. รุ่น The World is Yours dual time zone ที่แสดงเวลาได้สองโซนเวลา โดดเด่นด้วยหน้าปัดทรงโดมอันโดดเด่นด้วยลวดลายมหาสมุทรเคลือบแล็กเกอร์สีน้ำเงินและผืนแผ่นดินชุบทองสีชมพู ผสานความเป็นศิลปะเข้ากับความแม่นยำ

Berney
นาฬิการุ่น Berney Ref. 8448 โดดเด่นด้วยกลไก Valjoux 88 ปฏิทินแบบเต็มจอและแสดงข้างขึ้นข้างแรม บรรจุอยู่ในตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 39 มิลลิเมตร หน้าปัดสีดำ และตัวเลข Breguet ที่หรูหรา

Moritz Grossmann
นาฬิการุ่น Tefnut Silver-Plated by Friction เป็นผลงานการออกแบบนาฬิกาชั้นครูในสไตล์ Glashütte (กลาสฮุตเทอะ) ด้วยหน้าปัดชุบเงินที่ลงสีด้วยมือ ตัวเลขสีน้ำเงินที่แกะสลัก และกลไกไขลานด้วยมือ Caliber 102.1 ที่ผ่านการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ซึ่งทั้งหมดบรรจุอยู่ในตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 39 มิลลิเมตร

Bovet
นาฬิการุ่น Recital 12 โดดเด่นด้วยกลไกภายในเครื่อง พลังสำรอง 7 วัน การแสดงเวลาแบบออฟเซ็นเตอร์ และหน้าปัดแล็กเกอร์สีดำประดับด้วยโลโก้ของมูลนิธิ Philippe and Elisabeth Dufour

Havid Nagan
นาฬิการุ่น Classic One Prototype เป็นนาฬิการุ่นแรกจากแบรนด์อิสระของ Aren Bazerkanian โดดเด่นด้วยหน้าปัดแบบหลายชั้น ตัวเรือน 29 ชิ้นที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน และกลไกที่ตกแต่งอย่างประณีต พลังสำรอง 62 ชั่วโมง
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF PHILLIPS