ค่ำคืนวันคริสต์มาสใกล้เข้ามาทุกที จะมีอะไรดีไปกว่าละอองความหอมที่มอบบรรยากาศแสนอบอุ่นของฤดูหนาว Padthai.co รวบรวม 8 น้ำหอมจากแบรนด์ชั้นนำ จาก 7 ส่วนผสมชั้นเลิศ ที่ชวนให้นึกถึงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองได้อย่างโดดเด่นเกินใคร
ในค่ำคืนวันคริสต์มาสที่ใกล้จะถึงนี้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังโหยหาบรรยากาศที่แสนอบอุ่น ชวนให้นึกถึงความทรงจำดีๆ ในอดีต ลองให้กลิ่นหอมๆ ของเตาผิง กลิ่นสโมกกี้ไปจนถึงกลิ่นกองไฟที่กำลังแผดเผา มาช่วยมอบความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ดีไหม
หลังจากการทำงานที่แสนยาวนานมาตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่าเทศกาลวันหยุดยาวในช่วงคริสต์มาสถึงปีใหม่แบบนี้ ยิ่งช่วงนี้ที่อากาศเริ่มเย็นลง แน่นอนว่ากลิ่นหอมๆ ของไม้แห้ง สโมกกี้หรือควันไฟ จะช่วยให้รู้สึกพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ Padthai.co ขอแนะนำกลิ่นหอม 7 ชนิดอันเป็นตัวแทนของฤดูกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ที่จะช่วยมอบบรรยากาศแสนอบอุ่นชวนให้พักผ่อน พร้อมละอองความหอม 8 แนวกลิ่นไม่ซ้ำ สำหรับพร่างพรมตลอดปลายปีนี้
1. Sandalwood
กลิ่นของไอดินและแมกไม้ธรรมชาติมักจะทำให้เราอิ่มเอมเสมอ เช่นเดียวกับน้ำหอมกลิ่น Sandalwood กลิ่นไม้แก่นจันทน์ที่ไม่ว่าจะได้กลิ่นเมื่อใดก็มักจะสร้างความประทับใจได้ทุกครั้ง แม้ว่าไม้จันทน์จะมาจากต้นไม้ แต่กลิ่นของไม้จันทน์กลับไม่ได้มีกลิ่นไม้เสมอไป แต่กลับมีกลิ่นที่หอมหวาน ชวนดึงดูดเฉพาะตัว จึงเป็นเหตุผลที่น้ำหอมส่วนใหญ่มักมีกลิ่นของไม้จันทน์ประกอบอยู่ด้วย เรียกว่าเป็นกลิ่นหอมที่จะทำให้รู้สึกสุขใจและผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้กลิ่น
2. Agarwood
ไม้หอมกฤษณา หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ราชาของเครื่องหอม” เนื่องจากว่าไม้หอมกฤษณานั้นมีกลิ่นโทน Woody หรือ Leather เป็นกลิ่นหอมชวนอบอุ่น เหมาะสำหรับค่ำคืนวันคริสต์มาสสุดๆ อีกทั้งชาวมุสลิมแถบตะวันออกกลางยังเชื่อกันอีกว่า กลิ่นของไม้หอมกฤษณา หากได้สูดดมเข้าไปจะทำให้รักษาโรคบางอย่างได้ และยังเป็นกลิ่นที่สามารถช่วยป้องกันแมลงต่างๆ ได้อีกด้วย
3. Leather
กลิ่นหนังเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่เหมาะสำหรับค่ำคืนวันคริสต์มาส ด้วยเป็นกลิ่นที่มอบความรู้สึกเผ็ดร้อนแต่กลับมีเสน่ห์เย้ายวน ชวนน่าค้นหา แต่น่าแปลกที่ว่า สิ่งที่เราเรียกว่ากลิ่นของหนังนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่กลิ่นหนังสัตว์ แต่เป็นกลิ่นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตเครื่องหนังสำเร็จรูป เช่น การฟอกหนัง การรมควัน การเก็บรักษา การเคลือบหนัง เป็นต้น
กลิ่นหนังนั้น อาจมาจากกลิ่นควันอันหอมหวานของไม้เบิร์ช, ใบยาสูบ, โอ๊คมอส, มัสก์ หรือแม้แต่หญ้าฝรั่น ก็สามารถนำมาทำโน้ตหนังได้เช่นกัน แม้ว่ากลิ่นหนังโดยส่วนใหญ่มักจะเป็นกลิ่นสังเคราะห์ แต่กลับให้ความหอมนุ่ม น่าสัมผัส และยังให้ความรู้สึกถึงความเผ็ดร้อน เหมาะที่จะเติมเต็มความอบอุ่นในฤดูหนาวเป็นอย่างดี
4. Amber
อำพัน หรือ ยางไม้ เป็นกลิ่นโทน Oriental กลิ่นจากแถบตะวันออกกลางที่ให้ความรู้สึกถึงความโดดเด่น อบอุ่น นุ่มนวล และอ่อนหวาน ซึ่งกลิ่นโทนนี้ถูกสร้างมาจากพืชตระกูลเครื่องเทศและสมุนไพร เนื่องจากว่ากลิ่นโทน Oriental เป็นกลิ่นที่เหมาะกับฤดูหนาวและเทศกาลพิเศษอยู่แล้ว อำพัน จึงเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ผู้คนมักนิยมนำใช้เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้ค่ำคืนอันแสนพิเศษนี้ดูน่าหลงใหลมากขึ้นไปกว่าเดิม
5. Frankincense
Frankincense หรือ “กำยาน” เป็นยางไม้ที่ออกมาจากต้นไม้ตระกูล Boswellia โดยจะขูดเอาน้ำยางออกมาและเมื่อน้ำยางแข็งตัวเป็นก้อนก็จะนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เพื่อใช้ในการผลิตสกินแคร์และเครื่องหอมต่างๆ ดังนั้นจึงมักมีกลิ่นหอม ควบคู่ไปกับกลิ่นโน้ตของซิตรัส และอาจจะผสมโทนเผ็ดด้วยเล็กน้อย
กลิ่นของกำยานจะมีความคล้ายกับโรสแมรี่มากที่สุด และด้วยกลิ่นหอมของกำยานมักจะเป็นกลิ่นที่เข้ากันได้ดีกับกลิ่นผลไม้ตระกูลซิตรัส โรสแมรี่ ไม้จันทน์ หรือพิมเสน ที่เป็นกลิ่นนิยมสำหรับเทศกาลคริสต์มาส หากนำกลิ่นเหล่านี้มาใช้ด้วยกันคงจะทำให้ค่ำคืนวันคริสต์มาสกลายเป็นค่ำคืนสุดพิเศษและลืมไม่ลงไปอีกนาน
6. Cedarwood
กลิ่นของไม้สนซีดาร์นั้นจะเป็นโทนกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งจะมีรูปแบบกลิ่นหอมที่ละเอียดอ่อนแบบ Woody Note ผสมด้วย ลักษณะโทนกลิ่นที่ออกร้อนและให้ความรู้สึกที่อบอุ่นเหมือนกับกลิ่นของเครื่องเทศหรือ Spicy Note ผสมอยู่เล็กน้อย ซึ่งทำให้กลิ่นของน้ำมันไม้หอมซีดาร์นั้นเป็นกลิ่นที่นิยมนำไปใช้เป็น Base Note ของน้ำหอมมากมายหลายชนิดอยู่ตลอดมา
7. Patchouli
Patchouli หรือ “พิมเสน”เป็นพืชสมุนไพรตระกูลมินต์ มีลำต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 2-3 ฟุต มีดอกสีชมพู-ขาว ด้วยกลิ่นเฉพาะตัวที่หรูหรา หอมหวานและอบอุ่น กลิ่นพิมเสนจะออกแนวหอมธรรมชาติ กลิ่นดิน กลิ่นเปลือกไม้ กลิ่นป่า ซึ่งจะช่วยยกระดับอารมณ์ได้อย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดระดับความเครียด ความกังวล ช่วยให้ผ่อนคลาย เหมาะกับค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองในช่วงปลายปีนี้เป็นที่สุด
BEST 8 FESTIVE FRAGRANCES
1. AMOUAGE Overture Woman Eau de Parfum
แบรนด์น้ำหอมสุดหรูแห่งดินแดนตะวันออกกลางอย่างอาณาจักรโอมาน เป็นที่รู้จักกันอย่างดีว่าเน้นถึงความปราณีตและงานฝีมือ เน้นส่วนผสมที่หายากที่สุดและมีคุณภาพดีที่สุดจากทั่วโลก รังสรรค์ขึ้นเป็นกลิ่นหอมที่มีความเป็นเอกลักษณ์และไม่เหมือนใคร เช่นเดียวกับ Overture Woman ละอองความหอมที่รวบรวมส่วนผสมอย่างยางไม้ Labdanum บรั่นดี หญ้าฝรั่น แผ่นหนัง เจือความนุ่มนวลของกุหลาบและเจอราเนียม
2. BYREDO Black Saffron Eau de Parfum
กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์นี้มีกลิ่นไม้ที่ได้แรงบันดาลใจจากความแตกต่างที่แข็งแกร่งและความเปราะบางระหว่างเมืองกับธรรมชาติ เปิดด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของส้มโอและผลจูนิเปอร์เบอร์รี่สดฉ่ำ ตามด้วยฮาร์ตโน้ตของแบล็คไวโอเล็ต ไม้กฤษณา และกลิ่นหนัง เข้ากับหญ้าฝรั่นจากจากแคชเมียร์ที่หอมซาบซ่าน เป็นส่วนผสมอันเลอค่าที่รวมเข้ากันเพื่อความหอมราวกำมะหยี่
3. CARTIER La Panthère Eau de Parfum
กลิ่นหอมใหม่อันเป็นเอกลักษณ์โดยการผสมผสานกลิ่นโทนดอกไม้และสัมผัสที่ดึงดูดใจเข้าด้วยกัน ความหอมหวานของดอกการ์ดิเนีย กุหลาบ กระดังงา ซ้อนทับเข้ากับเบสโน้ตอันอบอุ่นอย่างโอ๊คมอส มัสก์ พิมเสน และกลิ่นหนังได้อย่างมีมิติ ภายในขวดแก้วสลักลายเสือแพนเตอร์อันสง่างามและน่าหลงใหล
4. ESTÉE LAUDER Snowman Beautiful Solid Perfume Compact
น้ำหอมแบบตลับจากเอสเต้ ลอเดอร์ ในดีไซน์รูปสโนว์แมนประดับคริสตัลสุดหรู นอกจากจะมาพร้อมดีไซน์สวยงามที่ชวนให้เก็บสะสมแล้ว การออกแบบกลิ่นหอมก็รังสรรค์ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ หลอมรวมส่วนผสมที่ชวนให้นึกถึงค่ำคืนวันคริสต์มาสอย่างไม้แก่นจันทน์ อำพัน สนซีดาร์ เจือความหอมสดชื่นของดอกส้ม หญ้าแฝก และมะลิ ได้โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
5. GOLDFIELD & BANKS Island Lush Pure Perfume
อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมอันเป็นตัวแทนของเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองไม่ว่าจะเป็นไม้จันทน์ สนซีดาร์ พิมเสน และกลิ่นหนังจากใบยาสูบ ผสานสัมผัสกลิ่นสดชื่นจากขิง มะกรูดฝรั่ง พริกไทยสีชมพู ก่อนจะปะทุกลิ่นหอมหวานของมวลดอกไม้ที่จับคู่กลิ่นดอกกุหลาบบัลแกเรีย และดอกไลแลคเข้าด้วยกัน
6. MAISON CRIVELLI Patchouli Magnetik Perfume Extract
กลิ่นหอมซาบซ่านเต็มไปด้วยพลังที่พร้อมจะมอบความสง่างามจากโอ๊คมอสยูโกสลาเวีย พร้อมน้ำมันพิมเสนแบบเข้มข้นบริสุทธิ์ เบสโน้ตอันนุ่มนวลยั่วยวนนั้นมาพร้อมไม้หอมหายาก ใบยาสูบ และกลิ่นแผ่นหนังเข้มข้น
7. NISHANE Tempfluo Extrait de Parfum
การปะทะกันของกลิ่นมะกรูดฝรั่งและพริกไทยชมพูจะช่วยมอบความประทับใจในครั้งแรกอย่างหยุดไม่ได้ และภายใต้กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มอบความเย็นสดชื่นก็มีกลิ่นดอกไม้ขาวอย่างลิลลี่หุบเขาและฮอว์ธอร์น รวมถึงกลิ่นอันอ่อนนุ่มของวานิลลาและไม้จันทน์ก็ยังช่วยเพิ่มความเย้ายวนใจแบบไม่รู้จบ
8. THE MERCHANT OF VENICE Andalusian Soul Eau de Parfum
รัศมีอันเปล่งประกายของความหอมจากเหล้ารัม และน้ำผึ้งอะคาเซีย จะเผยความสดใสจากดอกไม้อันเบ่งบานไปพร้อมกัน ทั้งกุหลาบและดอกไม้ขาว ส่วนมัสก์นั้นจะเพิ่มพลังความหอมของไม้หอมและกลิ่นโทนอำพันจากสนซีดาร์ กำยาน วานิลลา และใบเสจ ทวีความลึกลับเย้ายวนใจ
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF AMOUAGE, BYREDO, CARTIER, ESTÉE LAUDER, GOLDFIELD & BANKS, MAISON CRIVELLI, NISHANE, THE MERCHANT OF VENICE
STOCK PHOTOS: Image by kjpargeter on Freepik, Image by Freepik
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่