สวยลึกลับน่าค้นหาทันทีที่พร่างพรมละอองความหอมในขวดสีแดงเพลิงสุดร้อนแรง อันเป็นตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ที่น่าหลงใหลเย้ายวน ทวิสต์เสน่ห์ของหญิงสาวให้ยากจะต้านทาน
1. ARMANI Sì Passione Eclat Eau de Parfum
เผยแง่มุมใหม่ที่เปล่งประกายของน้ำหอมในซีรีส์ Sì Passione อันโด่งดัง น้ำหอมแนวกลิ่นฟลอรัลที่ประกอบด้วยส่วนผสมมากมายหลายชนิดที่ได้มาจากการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นมะกรูดฝรั่งจากแคว้นคาลาเบรียของอิตาลี ที่มอบสัมผัสของความสว่างสดใสอย่างชัดเจน กุหลาบดามัสก์จากเมืองอิสปาร์ตา ตุรกี และกลิ่นหอมระดับพรีเมี่ยมจากฝักเบอร์เบินวานิลลาจากเกาะมาดากัสการ์
2. BVLGARI Allegra Baciami Eau de Parfum
น้ำหอมโทนฟลอรัล ไม้หอม และมัสก์สำหรับผู้หญิง เป็นการทริบิวต์ที่คาดไม่ถึงสำหรับความเป็นอิสตรีที่ผสมผสานกลิ่นหอมอันซับซ้อนเกินจะคาดเดา และผสานด้วยความปรารถนาอันรุ่มรวย นำเสนอกลิ่นฟลอรัลอันเหนือชั้นและกลิ่นธรรมชาติที่ถูกปรุงแต่งให้ประณีตยิ่งขึ้น แผ่กระจายสัมผัสแห่งกลิ่นจากส่วนผสมอันเปี่ยมพลังอย่างการ์ดีเนีย วานิลลา และอำพัน
3. CAROLINA HERRERA Very Good Girl Eau de Parfum
เฉิดฉายและไร้ซึ่งความเกรงกลัวใดๆ เป็นการตีความใหม่ของกลิ่น Good Girl ที่โดดเด่นของ Carolina Herrera กลิ่นตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ที่น่าหลงใหล กลิ่นหอมที่เกินต้านทาน พร้อมจะมัดใจหนุ่มๆ ให้อยู่หมัดด้วยกลิ่นกุหลาบที่เย้ายวนในดีไซน์ขวดแก้วรูปรองเท้าส้นสูงสีแดงเพลิงสุดฮอต
4. CHOPARD Love Eau de Parfum
นำเสนอความสดใสเบิกบาน กลิ่นแนวฟรุ้ตตี้จากราสพ์เบอร์รี่และลิ้นจี่ โดดเด่นด้วยหัวใจหลักของกลิ่นหอมแนวฟลอรัลด้วยกลีบกุหลาบ 6 สายพันธุ์ที่ส่งกลิ่นหอมละมุนผสมผสานกับกลิ่นแนวมัสก์อบอุ่นลึกลับจากไม้จันทน์ หลอมรวมเป็นกลิ่นที่หรูหราและกระฉับกระเฉง ร้อยเรียงทุกสิ่งเข้าด้วยกันเพื่อเผยถึงกลิ่นหอมอันสมบูรณ์แบบ
5. COMME DES GARÇONS Rouge Eau de Parfum
กลิ่นหอมแนวโอเรียนทอลผสานเครื่องเทศ พร้อมด้วยกลิ่นหอมหวานแสนเผ็ดร้อน อบอุ่น และยั่วยวนใจ มาพร้อมฮาร์ตโน้ตที่รวมพลังระหว่างผลบีทรูทแดงสดใสและพริกไทยสีชมพู พร้อมเพิ่มความสดชื่นด้วยขิงและสะระแหน่สดฉ่ำ เพิ่มพลังของกลิ่นให้มีมิติกลมกล่อมด้วยกลิ่นควันจางๆ ของกำยาน ยางไม้หอม Labdanum และพิมเสน ทำให้ได้ความงดงาม แปลกใหม่กว่าใคร
6. DIOR Hypnotic Poison Eau de Toilette
กลิ่นของความลึกลับของผลไม้ต้องห้ามในตำนานของดิออร์ น้ำหอมที่ทันสมัยผสมผสานกับความเป็นผู้หญิงและความกล้าหาญ แนวกลิ่นโอเรียนทอลวานิลลา โดดเด่นด้วยกลิ่นวานิลลานวลเนียนแบบแป้งเด็ก ให้ความหวานสไตล์ครีมมีนุ่มๆ และออกโทน Gourmand ที่คล้ายกลิ่นขนมชัดเจน ผสานกับกลิ่นหอมอบอุ่นเฉพาะตัวของอัลมอนด์ แซมด้วยมะลิอียิปต์เย้ายวนใจ
7. GIVENCHY L’Interdit Eau de Parfum Rouge
กลิ่นหอมอันหรูหรายั่วยวนแห่งความเข้มข้นลึกลับพร้อมด้วยกลิ่นที่ดึงดูดใจของซ่อนกลิ่น และมะลิ อันเป็นส่วนผสมในสัมผัสแรก เพิ่มความเผ็ดร้อน อบอุ่น ดึงดูดใจด้วยขิงและผลบลัดออเรนจ์ ยกระดับกลิ่นหอมด้วยสารสกัดจากพิมเสน ไม้จันทน์ และหญ้าแฝกที่ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวา บรรจุในขวดสีแดงกำมะหยี่ร้อนแรง มอบความหอมที่ยากจะลืมเลือน
8. HERMÈS Eau de Rhubarbe Écarlate Eau de Cologne
ฉลองความเป็นอิสระและเสน่ห์น่าดึงดูดของอิสตรีด้วยน้ำหอมอันเป็นเอกลักษณ์ หลอมรวมส่วนผสมสีแดงสุดร้อนแรงที่มอบผลลัพธ์งดงามเปล่งประกาย ด้วยกลิ่นสดชื่นมีพลังของรูบาร์บ ประสานเข้ากับความสดฉ่ำมีชีวิตชีวาของผลเบอร์รี่สีแดง เจือความอบอุ่นเย้ายวนของไวท์มัสก์เข้าด้วยกัน
9. JO MALONE LONDON Scarlet Poppy Cologne Intense
ป๊อปปี้สีแดงกำมะหยี่ที่สง่างามและละเมียดละไมจากที่ราบอันกว้างใหญ่ของเอเชีย นำมาผสานเข้ากับกลิ่นหอมที่นุ่มนวลละเอียดอ่อนของดอกไอริส และสัมผัสอบอุ่นของบาร์เลย์และถั่วตองก้า นำพาสัมผัสอันหอมหวานและรุ่มรวยมาสู่น้ำหอม ในขณะที่กลิ่นหอมของมะเดื่อชุ่มฉ่ำจะดึงดูดอารมณ์ปรารถนาให้ด่ำดิ่งลงสู่ห้วงสัมผัสอันลึกล้ำที่ยากจะถอนตัวได้
10. KAYALI Eden Juicy Apple Eau de Parfum
กลิ่นหอมสุดยั่วยวนใจและหรูหราเกินต้านทาน สัมผัสความยั่วยวนได้นับตั้งแต่ขวดสีแดงสะกดทุกสายตา พร้อมเผยความหอมสดชื่นของแอปเปิ้ล ลิ้นจี่ เกรปฟรุต ผสานเข้ากับผลเบอร์รี่ป่า ดอกตูมของผลราสพ์เบอร์รี่ มะลิ พร้อมด้วยกุหลาบ มัสก์ และวานิลลาอบอุ่นอ่อนโยนที่ล่อลวงให้ติดกับจนถอนตัวไม่ขึ้น พร้อมมอบกลิ่นโน้ตที่ติดทนนานและดึงดูดใจ
11. MORESQUE Secret Collection Scarlet Rouge Eau de Parfum
อ่อนโยนทว่าเข้มข้น เปิดด้วยเรดเคอร์แรนต์และมะกรูดฝรั่งอันซาบซ่าน สดใส ฮาร์ตโน้ตนั้นจะแนะนำความหอมของกุหลาบและมะลิ ก่อนจะปิดด้วยมอสและแอมบรอกซาน เกิดเป็นกลิ่นที่สง่างามและเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
12. THE MERCHANT OF VENICE Red Potion Eau de Parfum
ตัวแทนจิตวิญญาณของเวนิสได้รับการถ่ายทอดอย่างลุ่มลึกสู่กลิ่นหอมในขวดสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ กลิ่นของความชุ่มฉ่ำของดอกส้ม กลิ่นฟรุ้ตตี้โปร่งเบาสบายของลิ้นจี่ สอดรับเข้ากับกลิ่นหอมอ่อนๆ อันมีเอกลักษณ์ของโรสแมรี่ ก่อให้เกิดความสดใส มีชีวิตชีวา เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจในทุกๆ วัน
เคล็ดลับฉีดน้ำหอมให้ติดทน
- ทาวาสลีนบนผิวก่อนฉีดน้ำหอม ทาวาสลีนที่ข้อมือ ข้อพับต่างๆ ก่อนการฉีดน้ำหอม ช่วยให้น้ำหอมติดทนขึ้นได้
- ทาโลชั่นก่อนฉีดน้ำหอม หากต้องการให้น้ำหอมติดทนนาน แนะนำให้ทาโลชั่นแบบไม่มีกลิ่นลงบนผิวกายหรือจุดชีพจรบนร่างกายก่อนฉีดน้ำหอม วิธีนี้จะช่วยให้กลิ่นติดทนแถมยังช่วยบำรุงผิวกายให้นุ่มชุ่มชื้นไปในตัว
- ฉีดน้ำหอมหลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ หลังอาบน้ำ ผิวหนังของคนเราจะมีความชุ่มชื้น ทำให้ดูดซึมโลชั่น ครีมบำรุงผิว หรือน้ำหอมได้ดีกว่าตอนผิวแห้ง เช่นเดียวกับการทาสกินแคร์บำรุงผิวหน้าหลังจากการล้างหน้าเสร็จนั่นเอง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้น้ำหอมนั้นติดทนยาวนานขึ้น และได้กลิ่นน้ำหอมที่คงเดิม ไม่ผิดเพี้ยน
- ฉีดน้ำหอมลงบนแปรงก่อนค่อยหวี สะบัดผมให้พริ้วไหวแค่ไหนก็ไม่มีหวั่น ให้เส้นผมหอมนาน เพิ่มความมั่นใจได้ทุกสถานการณ์ ทริคง่ายๆ เพียงสาวๆ ฉีดน้ำหอมลงบนแปรงก่อนแล้วค่อยหวีให้ทั่ว นอกจากจะช่วยให้น้ำหอมติดทนนานยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยปกป้องเส้นผมไม่ให้สัมผัสกับแอลกอฮอล์จากน้ำหอมโดยตรงอีกด้วย
- ในกรณีที่ผิวแพ้น้ำหอม ให้ฉีดพรมน้ำหอมลงบนผ้าเช็ดหน้า จากนั้นให้พับเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ แต่คนที่ไม่แพ้น้ำหอมก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน เพราะวิธีนี้จะช่วยรักษากลิ่นของน้ำหอมให้ติดแน่นทนนาน
- ฉีดน้ำหอมลงบนข้าวของส่วนตัว ลองพร่างพรมกลิ่นหอมที่ชอบอย่างเบาบางในกระเป๋าใบโปรด จะช่วยให้รอบตัวสาวๆ หอมฟุ้ง เพราะการพรมน้ำหอมไปแค่ที่ตัวบุคคลนั้น อาจจะทำให้กลิ่นหอมไม่ติดแน่นทนนานได้เท่ากับสิ่งของ ข้อแนะนำก็คือไม่ควรประโคมน้ำหอมลงไปจนเปียกชุ่ม พร่างพรมบางๆ ก็หอมสดใสตลอดวันแล้ว
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF GIORGIO ARMANI, BVLGARI, CAROLINA HERRERA, CHOPARD, COMME DES GARÇONS, DIOR, GIVENCHY, HERMÈS, JO MALONE, KAYALI, MORESQUE, THE MERCHANT OF VENICE
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่