ขึ้นชื่อว่านาฬิกาดำน้ำสมรรถนะสูงก็ต้องยกให้กับ Oris ที่เป็นหนึ่งในแบรนด์ซึ่งพัฒนานาฬิกาดำน้ำมานานนับหลายสิบปี พร้อมทั้งการเปิดตัวนาฬิกามาแล้วหลากหลายรุ่น รวมถึงผลงานสองรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Diving Watches ในปีนี้ด้วย
Oris: Two New Dive Watches ถือเป็นการเปิดตัวครั้งใหม่ของนาฬิกาสองรุ่นสำคัญ สำหรับแบรนด์ โอริส (Oris) ที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะชื่อเสียงในด้านสมรรถนะ คุณภาพ และคุณสมบัติเด่นต่างๆ ที่ล้วนออกแบบมาเพื่อเอาใจคนรักนาฬิกาสวิสแท้ ด้วยมาตรฐานสวิสแบบต้นตำรับ โดยหนึ่งในผลงานตระกูลดังของ Oris นั้นก็ย่อมหนีไม่พ้นนาฬิกาดำน้ำ หรือ Diving Watches อย่าง ProDiver และ Aquis เป็นต้น
Oris: Two New Dive Watches
ทั้ง ProDiver และ Aquis เองถูกพัฒนาขึ้นเพื่อภารกิจใต้น้ำลึกโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของฟังก์ชั่นที่พัฒนาขึ้นสำหรับการใช้งานเฉพาะด้าน รวมถึงนวัตกรรมกลไกและวัสดุศาสตร์ที่มีสมรรถนะสูง ที่สำคัญยังมาพร้อมการผสมผสานงานออกแบบที่เรียกได้ว่าคงเอกลักษณ์ความเป็นต้นตำรับนาฬิกาดำน้ำของ Oris ไว้อย่างชัดเจน สานต่อความตั้งใจของทั้ง Paul Cattin และ Georges Christian สองผู้ก่อตั้งแบรนด์และโรงงานผลิตนาฬิกา Oris ในปีค.ศ. 1904 ด้วยการสร้างชื่อเสียงในการประดิษฐ์และสร้างสรรค์นาฬิกาสวิสคุณภาพสูง ที่ก่อร่างและเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
Aquis Depth Gauge
ขณะที่ประวัติศาสตร์การสร้างสรรค์นาฬิกาดำน้ำของ Oris นั้นเริ่มต้นขึ้นจริงๆ ในปีค.ศ. 1965 เมื่อแบรนด์ได้เปิดตัวนาฬิกาดำน้ำอันล้ำสมัย ที่มาพร้อมกับขอบตัวเรือนปรับหมุนได้ทิศทางเดียวและบรรจุด้วยสเกลสำหรับจับวัดเวลา ประกอบด้วยตัวเลขและเครื่องหมายแสดงเวลาเรืองแสง ซึ่งนาฬิการุ่นนี้เริ่มต้นด้วยประสิทธิภาพการกันน้ำได้ลึก 100 เมตร จากนั้นก้าวแห่งนวัตกรรมนาฬิกาของแบรนด์ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้นำมาสู่การจดสิทธิบัตรให้กับ Aquis Depth Gauge ของ Oris ในปีค.ศ. 2013 ด้วยการบรรจุเกจบอกระดับความลึกไว้ในนาฬิกาจักรกลข้อมือ ซึ่งถือเป็นความท้าทายไม่น้อย โดยเป็นการปล่อยให้น้ำสามารถไหลผ่านช่องโพรงเล็กๆ ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ซึ่งเมื่อน้ำผ่านภายใต้การกดอากาศก็จะทิ้ง watermark ที่แสดงสอดคล้องไปตามเกจบอกระดับความลึกนั่นเอง
ในแง่ของการพัฒนากลไกจักรกล ล่าสุด Oris ได้เผยผลงานการสร้างสรรค์กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre 400 ซึ่งเป็นกลไกผลิตภายในโรงงานของตนเองคาลิเบอร์ล่าสุดที่เปิดตัวในปีค.ศ. 2020 พร้อมด้วยคุณสมบัติอันล้ำสมัยและผ่านการยกระดับขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันสนามแม่เหล็ก การสำรองพลังงานได้นานถึงห้าวัน และการรับประกันอันยาวนานถึง 10 ปี ที่ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของการประดิษฐ์นาฬิกากลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติของสวิส
หลังการเปิดตัว Calibre 400 ก็ได้บรรจุอยู่ในนาฬิการุ่นใหม่มาแล้วบ้างบางรุ่น รวมไปถึงรุ่นล่าสุดของ AquisPro Date Calibre 400 ซึ่งถือเป็นนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพ ด้วยคุณสมบัติของระดับการต้านทานสนามแม่เหล็กที่สูงขึ้น บวกกับความเที่ยงตรงแม่นยำที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับมาตรฐานโครโนมิเตอร์ (Chronometer) นอกจากนี้ยังผสมผสานด้วยคุณสมบัติเด่นๆ สำหรับการดำน้ำลึกอีกมากมาย และออกแบบมาเพื่อนักดำน้ำมืออาชีพในการดำน้ำแบบต่อเนื่อง รวมถึงเทคนิคในการปรับระดับแรงกดอากาศไปตามสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยปริมาณของฮีเลียมใต้พื้นผิวน้ำหลายร้อยเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้นาฬิกาได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบเมื่ออยู่ใต้น้ำ ที่รุ่นใหม่ล่าสุดนี้มาพร้อมประสิทธิภาพของการกันน้ำได้ลึกถึงระดับ 1,000 เมตร
สำหรับปรับและล็อกขอบหน้าปัดเพื่อความปลอดภัยสูงสุดใต้น้ำ
ท่ามกลางความพิเศษต่างๆ นั้นก็ยังรวมไปถึงระบบ Rotation Safety System ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ Oris หรือที่เรียกว่า RSS สำหรับช่วยให้ผู้สวมใส่นาฬิกาสามารถปรับและล็อกขอบหน้าปัดแบบหมุนทิศทางเดียวให้เข้าที่ได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าในระหว่างการดำน้ำ พวกเขาสามารถอ่านเวลาดำน้ำที่เหลืออยู่ได้ด้วยความแม่นยำแน่นอน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับรับเบอร์ยึดจับแบบหนา ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายแม้สวมชุดดำน้ำ ส่วนมาตรเวลาบอกนาทีตกแต่งด้วยสีเหลืองและสีขาวเป็นการแกะสลักลงบนขอบหน้าปัดเซรามิกที่ป้องกันรอยขีดข่วน และยังช่วยให้นักดำน้ำสามารถอ่านเวลาได้อย่างชัดเจน แม้ในทัศนวิสัยที่มีแสงน้อยมากเมื่ออยู่ใต้ระดับน้ำลึก
รักษารูปลักษณ์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างสมบูรณ์ AquisPro Date Calibre 400 จึงมาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียมคุณภาพสูง น้ำหนักเบาและเคลือบ DLC สีดำที่มีแสงสะท้อนต่ำ ทำให้นาฬิกาที่แม้จะมีตัวเรือนขนาดใหญ่ถึง 49.50 มิลลิเมตร กลับสามารถสวมใส่บนข้อมือได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนเฟืองล็อกสายยางแบบบานพับทำจากไทเทเนียมเน้นความทนทานสูง และมาพร้อมกับนวัตกรรมพิเศษอีกหนึ่งจุดเด่นของ Oris คือ Sliding Sledge Clasp หรือเฟืองเลื่อนสไลด์จดสิทธิบัตรโดยแบรนด์ ที่ช่วยให้สามารถปรับขยายสายได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่จำเป็นต้องถอดนาฬิกาออกจากข้อมือ ดังนั้นเมื่อสวมเข้าหรือถอดออกจากชุดเวทสูทที่หนาที่สุด ก็ยังสามารถคลายหรือกระชับสายได้โดยไม่ยุ่งยาก ขณะที่สายยางยังประกอบไปด้วย Safety Anchor ซึ่งพัฒนาโดย Oris เพื่อให้ในกรณีที่ตัวล็อกถูกปลดออกโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ยังมีขอเกี่ยวสองอันนี้มาช่วยยึดสาย ให้นาฬิกายังคงติดอยู่กับข้อมือของผู้สวมใส่ได้ ด้วยนวัตกรรมเหล่านี้เองที่ทำให้ AquisPro เป็นที่ชื่นชอบของนักดำน้ำมืออาชีพมาอย่างยาวนาน
แสดงรอบโคจรของดวงจันทร์ ผ่านฟังก์ชั่นพอยเตอร์มูนของ Oris
ส่วนอีกหนึ่งรุ่นนาฬิกาดำน้ำสุดสร้างสรรค์ และมาพร้อมความพิเศษของการผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 2,009 เรือน ในฐานะตัวแทนของความร่วมมือกันระหว่าง Oris และ Common Wadden Sea Secretariat นั้นก็คือ Dat Watt Limited Edition พร้อมกับพันธกิจการอนุรักษ์ทะเลวัดเด้น (Wadden) กับแคมเปญ Change for the Better ของ Oris ซึ่งโครงการล่าสุดนี้เป็นการร่วมมือกับสำนักเลขาธิการสามัญเพื่อการอนุรักษ์ทะเลวัดเด้น (Common Wadden Sea Secretariat – CWSS) องค์กรไตรภาคีที่ครอบคลุมประเทศเดนมาร์ก เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ ในการทำงานเพื่ออนุรักษ์และปกป้องทะเลวัดเด้น พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีระบบน้ำขึ้นน้ำลงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในปีค.ศ. 2009 องค์การยูเนสโกได้ยกสถานะให้เป็นมรดกโลกเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญต่อความหลากหลายทางชีวภาพของโลก
ซึ่งมีนาฬิกาดำน้ำรุ่น Dat Watt Limited Edition มาเป็นตัวแทน ซึ่ง Oris ได้นำตัวเรือนและคุณสมบัติของนาฬิกาดำน้ำ Aquisมาประยุกต์ใช้ในการรังสรรค์ พร้อมทั้งหน้าปัดที่บรรจุด้วยการแสดงรอบโคจรของดวงจันทร์ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง ขณะที่บนหน้าปัดเองได้บรรจุการแสดงช่วงน้ำขึ้นน้ำลงในซีกโลกเหนือ ผ่านฟังก์ชั่นพอยเตอร์มูน (Pointer Moon) พัฒนาโดย Oris และรังสรรค์ขึ้นสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพโดยเฉพาะ จากการใช้เข็มชี้สีขาวบนศูนย์กลางหน้าปัด ซึ่งเมื่อมีการตั้งเข็มชี้ไปยังวันที่ให้ตรงกับวันที่ตามปฏิทินจันทรคติให้ถูกต้อง (1 รอบ คือ 29.5 วัน) ก็จะสามารถแสดงให้เห็นถึงช่วงของกระแสน้ำขึ้นน้ำลงจากลายเส้นสีขาวบนหน้าปัด และบอกถึงข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ได้อีกด้วย
สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 43.50 มิลลิเมตร ประกอบด้วยวงแหวนขอบตัวเรือนปรับหมุนได้ทิศทางเดียว คู่ด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินและสีเทาแบบไล่เฉดหรือกราเดียนต์ ติดตั้งเข็มชี้และเครื่องหมายขีดบอกเวลาเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® พร้อมการปกป้องของกระจกแซฟไฟร์แบบโดมเคลือบกันแสงสะท้อนจากด้านใน ทำงานภายในโดยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre 761 สำรองพลังงานได้ 38 ชั่วโมง แสดงวันที่ และระบบปรับวันที่แบบฉับพลัน รวมถึงปุ่มกดปรับตั้งวันที่ได้สะดวกสบาย และระบบหยุดเข็มวินาทีสำหรับปรับตั้งเวลาอย่างแม่นยำ ส่วนฝาหลังสเตนเลสสตีลขันสกรูแกะสลักด้วยสัญลักษณ์พิเศษ และเม็ดมะยมนิรภัยทำจากสเตนเลสสตีลแบบขันเกลียวพร้อมบ่าปกป้อง โดยรับประกันได้ถึงประสิทธิภาพการกันน้ำได้ลึกระดับ 300 เมตร ที่จับคู่ลงตัวมากับสายสเตนเลสสตีล พร้อมระบบเฟืองล็อกสายแบบบานพับและส่วนขยายความยาวของสายได้ง่ายดาย ส่งมอบมาพร้อมกับกล่องบรรจุพิเศษ
นับได้ว่าเป็นสองรุ่นฮีโร่ใหม่ของตระกูลนาฬิกาดำน้ำมืออาชีพที่น่าจับตามองสำหรับ Oris ในปีนี้เลยทีเดียว
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF ORIS
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
Stock Footage: Seagulls on the beach from www.videvo.net
Bubbles on the surface from: mixkit.co
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่
