ผลงานใหม่ล่าสุดของ Oris ที่มาพร้อม 5 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับนาฬิกาผลิตจำนวนจำกัดสุดพิเศษรุ่นนี้
Oris Okavango Air Rescue Limited Edition เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับผลงานใหม่ล่าสุดของผู้ผลิตนาฬิกาสวิส Oris (โอริส) ที่ไม่เพียงนับเป็นนาฬิการุ่นผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดพิเศษเท่านั้น แต่ Oris Big Crown ProPilot Okavango Air Rescue Limited Edition ยังมีอีก 5 จุดเด่น ที่นักสะสมและคนรักนาฬิกาควรรู้เกี่ยวกับผลงานไฮไลต์เรือนนี้
Okavango Air Rescue หรือ O.A.R. คือองค์กรกู้ภัยทางอากาศในบอตสวานา ที่จัดตั้งขึ้นโดย Christian Gross นักอนุรักษ์และผู้ประกอบการชาวสวิส และ Dr Misha S. Kruck ชาวเยอรมัน ซึ่งพวกเขาได้ร่วมกันก่อตั้งองค์กรนี้ขึ้นในปีค.ศ. 2011 เพื่อเป็นศูนย์บริการของเอกชนและได้รับทุนสนับสนุนโดยอิสระในการดำเนินการด้านเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบิน รวมถึงคลินิก เพื่อนำการบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพไปสู่ผู้คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังประเทศซึ่งมีประชากรอยู่เบาบาง และมีชุมชนที่อยู่ห่างไกลเป็นจำนวนมากอย่างบอตสวานา
ซึ่งนับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ O.A.R. ได้ก่อตั้งและดำเนินการการบริการมาอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 10 ปี และบรรจบกับโอกาสของการได้จับมือและร่วมสนับสนุนโดยพันธมิตรนาฬิกาใหม่ อย่าง Oris ซึ่งแน่นอนว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษนี้ ที่ผลิตขึ้นเพื่อร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี ขององค์กร พร้อมทั้งประกาศถึงความร่วมมือของ Oris ในการมอบการสนับสนุนองค์กรที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นและการสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการกู้ภัยทางอากาศของ O.A.R. ต่อไปเช่นกัน ขณะเดียวกัน O.A.R. เองยังได้เข้าร่วมกับ Rega หน่วยกู้ภัยทางอากาศของสวิส และ Royal Flying Doctor Service ของออสเตรเลียซึ่งล้วนเป็นองค์กรที่อยู่ในรายชื่อพันธมิตรด้านการบินของ Oris ด้วย
หน้าปัดสีเขียวที่ได้แรงบันดาลใจจากพื้นหญ้าของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโก
นอกจากเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับองค์กร O.A.R. แล้ว นาฬิการุ่นนี้ยังได้แรงบันดาลใจอย่างเต็มเปี่ยมของการสร้างสรรค์หน้าปัดสีเขียวตกแต่งด้วยลวดลายไว้อย่างโดดเด่นสะดุดตา ซึ่งมาจากธรรมชาติของทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโก (Okavango Delta) ของบอตสวานาอีกด้วย รวมไปถึงตัวสายนาฬิกาซึ่งทำจากผ้าถักสีเขียวตกแต่งกลางสายด้วยเส้นสีขาวเทาที่เป็นการสร้างสรรค์ขึ้นพิเศษโดย Erika’s Originals สำหรับ Oris
สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโกของบอตสวานานับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของแอฟริกา และกลายเป็นมรดกโลกลำดับที่ 1,000 ในปีค.ศ. 2014 โดยการขึ้นทะเบียนขององค์การยูเนสโก ซึ่งการดำเนินการให้บริการของ O.A.R. ยังครอบคลุมถึงพื้นที่นี้ รวมถึงพื้นที่ห่างไกลอื่นๆ ของประเทศ สำหรับสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโกนั้นครอบคลุมพื้นที่ราบกว่า 20,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยลักษณะของพื้นที่แบบดินดอนปากแม่น้ำที่ประกอบด้วยทั้งทุ่งหญ้า หนองบึง ทะเลสาบ และเกาะแก่งอีกหลายพันเกาะ ซึ่งเกิดจากน้ำที่ท่วมตามฤดูกาล นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาวอันแห้งแล้งระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ดินดอนนี้จะขยายตัวออกเป็นสามเท่าจากปกติ และกลายเป็นแหล่งรวมตัวของสัตว์ป่าที่มาอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของแอฟริกา รวมถึงเสน่ห์ของทุ่งหญ้าแห่งนี้ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนอยู่ไม่น้อย องค์กร O.A.R. จึงได้เข้ามาดูแลการบริการกู้ภัยทางอากาศครอบคลุมยังพื้นที่นี้ด้วย
ตัวเรือนนาฬิกานักบิน Big Crown ProPilot ที่เป็นตัวแทนแห่งการเดินทางทางอากาศ
ด้วยเพราะเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับการบินและการบริการกู้ภัยทางอากาศ แน่นอนว่า Oris จึงได้เลือกรังสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษนี้โดยมีพื้นฐานตัวเรือนและคุณลักษณะอันโดดเด่นของนาฬิกานักบินตระกูล Big Crown ProPilot กับเอกลักษณ์ของเม็ดมะยมขนาดใหญ่ และการอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นคุณสมบัติอันสมบูรณ์แบบสำหรับนาฬิกานักบินโดยเฉพาะ
โดยตัวเรือนของ Big Crown ProPilot Okavango Air Rescue Limited Edition นี้ยังคงไว้ด้วยโครงสร้างแบบประกอบขึ้นหลายชิ้นและทำจากสเตนเลสสตีลทนทาน ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือนที่ 41.0 มิลลิเมตร ส่วนขอบตัวเรือนตกแต่งแบบร่องหยักเพื่อการจับใช้งานได้ง่าย เช่นกันกับเม็ดมะยมขนาดใหญ่แบบร่องหยัก นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบนิรภัยของเม็ดมะยมซึ่งเป็นแบบขันเกลียวล็อกและทำจากสเตนเลสสตีล เพื่อปกป้องการทำงานของนาฬิกา ตลอดจนกลไกและเติมเต็มประสิทธิภาพของการกันน้ำไ้ด้ลึกถึงระดับ 10 บาร์ หรือ 100 เมตร ด้วยเช่นกัน ขณะที่เหนือขึ้นไปบนด้านหน้าปัดปกป้องด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์โค้งโดมเคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน ซึ่งช่วยเสริมการอ่านค่าได้อย่างชัดเจน พร้อมด้วยตัวเลขบอกชั่วโมง เครื่องหมายมาร์กเกอร์บอกเวลาและเข็มชี้เคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® ส่วนฝาหลังของนาฬิกาทำจากสเตนเลสสตีลแบบขันสกรู พร้อมทั้งแกะสลักด้วยรูปสัญลักษณ์เครื่องบินกู้ภัยและข้อความพิเศษที่แสดงถึงการเป็นเรือนเวลาแห่งพันธกิจที่มีร่วมกันระหว่าง Oris และ O.A.R.
เชื่อมั่นได้กับความเที่ยงตรงโดยกลไก Calibre Oris 751
นาฬิกาสไตล์นักบินและสำหรับนักบินรุ่นนี้ยังคงอุทิศให้กับคุณสมบัติหลักๆ ของการแสดงเวลาและฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างชัดเจน โดยผ่านหน้าปัดที่เรียบง่ายสะอาดตา รวมถึงการบรรจุด้วยสารเรืองแสง และนอกจากนั้นแล้ว ยังต้องอาศัยหัวใจของกลไกที่เที่ยงตรงแม่นยำเช่นกัน นั่นจึงทำให้ Oris เลือกติดตั้งภายในผลงานรุ่นพิเศษนี้ด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ Calibre Oris 751 กลไก Big Date อันทรงพลังและสมรรถนะสูงที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว กับการทำงานความถี่ 4 เฮิรตซ์ พร้อมทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การแสดงชั่วโมง นาที และวินาทีด้วยเข็มชี้กลางหน้าปัดอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเข็มวินาทีที่ตกแต่งปลายด้วยสีแดงเด่น รวมถึงช่องหน้าต่างแสดงวันที่ซึ่งจัดวางไว้ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา อย่างลงตัว ที่มาพร้อมกับระบบปรับตั้งวันที่แบบฉับพลันผ่านปุ่มปรับวันที่ ส่วนการปรับตั้งเวลานั้นยังมาพร้อมระบบหยุดเข็มวินาทีเพื่อการปรับตั้งได้อย่างละเอียดและแม่นยำเสมอ ขาดไม่ได้คือการมอบพลังงานสำรองถึง 38 ชั่วโมง ช่วยให้เจ้าของนาฬิกาใช้งานได้อย่างมั่นใจ
มีเจ้าของที่จะได้ครอบครองนาฬิการุ่นนี้เพียง 2,011 คนเท่านั้น
Oris Big Crown ProPilot Okavango Air Rescue Limited Edition รุ่นพิเศษผลิตขึ้นในโอกาสฉลองสุดพิเศษนี้ย่อมมีจำนวนจำกัดพิเศษเช่นกัน โดยมีเพียง 2,011 เรือน ตามปีของการก่อตั้งองค์กร O.A.R. นั่นเอง ซึ่งแต่ละเรือนจะส่งมอบมาพร้อมกับกระเป๋าหนังสำหรับเก็บนาฬิกาในระหว่างการเดินทาง ที่ช่วยให้สามารถพกพาได้สะดวกสำหรับทั้ง นักเดินทางหรือนักบิน และแม้แต่นักกู้ภัยทางอากาศโดยเฉพาะ รวมถึงมาพร้อมกับสายหนังสีน้ำตาล และความพิเศษที่บนฝาหลังยังประทับด้วยหมายเลขจำนวนจำกัด XXXX/2011 ไว้ด้วย
CREDITS:
PHOTOS: COURTESY OF ORIS
MUSIC: Geovanebruny from Pixabay
VIDEO: Perayut Limpanastitphon
GRAPHIC DESIGNER: Vanicha Limpanastitphon
สามารถติดตามคอนเทนต์ นาฬิกา อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ ที่นี่